nn aftershock…(อาฟเตอร์ช็อก)...จากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาคงจะหมดไปแล้ว...แต่ aftershock...ของ..ตั๋วสัญญาการใช้เงิน (Promissory Note)…ที่มีการพูดถึงกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24-25 มีนาคม ที่ผ่านมา...คงจะยังไม่จบ..โดยเฉพาะที่...กรมสรรพากร...และ..บ้านจันทร์ส่องหล้า...!! ว่ากันตามจริงแล้วไอ้เจ้าตั๋ว P/N ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย...มันคือเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่งที่นักธุรกิจใช้กันเพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจ...แต่ที่มันไม่ปกติก็ตรงที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยใช้ ตั๋ว P/N ในการโอนหุ้นให้กับคนอื่น...และ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง...ก็ได้พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณเนื่องจากเห็นว่าการใช้ตั๋ว P/N ครั้งนั้นเป็นธุรกรรมอำพราง...ส่วนที่แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี...ใช้ตั๋ว P/N ในการโอนหุ้นให้กับคนในครอบครัวนั้น...ซึ่งเธอก็บอกกลางสภาฯแล้วว่าใครๆ เขาก็ทำกัน....แน่นอนว่าไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด และ ปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร...ก็ออกมาตีตรายางประทับแล้วว่าไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใดและก็ไม่ใช่ธุรกรรมอำพรางแต่อย่างใด...!!ใช่ครับว่าใครก็ทำกันได้เพราะไม่ผิดกฎหมายแต่ท่านคือนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยมันก็ต้องมีสำนึกมากว่าคนธรรมดานะครับว่าไหม... ตั๋ว P/N ที่แพทองธารใช้นั้น...ไม่มีการกำหนดอายุหน้าตั๋ว (แปลว่าจะชำระหนี้เมื่อใดก็ได้เจ้าหนี้เรียกชำระหนี้)...แล้วก็ไม่มีดอกเบี้ย..ซึ่งอันนี้ก็ไม่แปลกเพราะญาติพี่น้องของนายกฯ เขารักนายกฯ มาก...เลยไม่คิดดอกเบี้ย...!! แต่นักบัญชีทั้งประเทศนี้อาจจะทั่วโลกก็ว่าได้...เขาสงสัยว่า...แล้วหากผู้มีอันจะกินเหมือนท่านนายกฯ...และมีอำนาจเช่นเดียวกันนายกฯ...กระทำเช่นนี้บ้าง...มันจะกระทบเรื่องการจัดเก็บภาษีของรัฐหรือไม่...ภาษีมรดก...มันจะยังมีความหมายอยู่อีกหรือเปล่า...นักบัญชีบางคนถามแรงๆ ว่า...ตกลงว่านี่คือบรรทัดฐานใหม่ด้านภาษีของกรมสรรพากรใช่หรือไม่???....!! เมื่อครั้งที่มีข่าวลือว่า “บ้านจันทร์ส่องหล้า”...ต้องการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมสรรพากร...หลายคนก็แย้งว่าเขาจะมายุ่งอะไรกับตำแหน่งข้าราชการระดับ 10 แบบนี้...ตอนนี้ก็คงไม่แปลกที่จะมี่คนคิดว่า...Mission accomplished...ซึ่งเราห้ามคิดไม่ได้หรอก...!!แต่สำหรับ...แวดวงการเงิน...คิดว่าคงเป็นจังหวะบังเอิญมากกว่าเนอะ (เสียงสูงและมองบน)...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ