บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวคาดว่าผลกระทบต่อตลาดโดยรวมจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 5.0 ทำให้เกิดกรณีตึกถล่มในกรุงเทพฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นผลสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับ 8.2 ที่เมียนมาเรามองว่าผลกระทบที่เกิดกับดัชนี SET จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เราเชื่อว่าพฤติกรรมของตลาดจะเหมือนกับเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้ของไทยเมื่อปี 2557 คือนักลงทุนเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกในเร็วๆ นี้ แต่จะกระตุ้นให้ทุกฝ่ายปรับปรุงระบบการแจ้งเตือน และ แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ
เรามองว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลบวกกกับหุ้นกลุ่มการปรับปรุงบ้าน เช่น DOHOME, GLOBAL และ HMPRO จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของการปรับปรุง และ ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน ถึงแม้ขณะนี้จะยังเห็นภาพได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เรามองว่าอุปสงค์อสังหาริมทรัพย์แนวราบอาจเพิ่มขึ้น และ ส่งผลดีต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง LH,QH และ PSH แต่ยังต้องติดตามว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นอาศัยในย่าน CBD จะเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ในระยะยาวหรือไม่
ทั้งนี้คาดว่าภาวะตลาดของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภท high rise ได้แก่ AP, ORI, SPALI, LPN และ ANAN จะถูกกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวช่วงสุดสัปดาห์บ่งบอกว่าผู้บริหารแต่ละบริษัทกระตือรือร้นในการตรวจสอบ และ ฟื้นฟูความมั่นใจของลูกค้า เรามองว่าหุ้นรับเหมาก่อสร้างอย่าง CK และ STECON ไม่น่าถูกกระทบ เพราะเน้นงานโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ส่วนจิตวิทยาของหุ้น ITD อาจถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญในฐานะที่เป็นผู้รับเหมาหลักของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เรายังมองว่าหุ้นเครื่องดื่มชูกำลังจะได้รับผลกระทบเชิงลบ เช่น OSP (18% ของรายได้มาจากเมียนมา) และ CBG (ประมาณ 10% ของรายได้มาจากเมียนมา)
เรามองว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้การท่องเที่ยวชะลอตัวลงในระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อไทยเพิ่งจะผ่านช่วง high season มาหมาดๆ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดผลกระทบเชิงลบกับภาวะตลาดของกลุ่มผู้บริโภค, อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์, โรงแรม และ ขนส่ง แต่เรามองว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นชั่วคราว สำหรับกลุ่มธนาคารมองว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยเพราะแนวโน้มNIM อาจจะถูกกดดันหนักขึ้นถ้าหากมีการลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นและธนาคารต่างๆ ตัดสินใจออกมาตรการพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ SCB และ TTB มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัย 32% และ 26% ตามลำดับ
ที่มา : บล.เคจีไอ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี