บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นธนาคารกรุงไทยหรือ KTB จากการที่แจ้ง SET เกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินในปี 2568F ซึ่งตัวเลขหลายตัวอาจเป็นสิ่งบ่งบอกว่าประมาณการการโตกำไรปีของเรา และของตลาดรวมดูจะมีความเสี่ยงที่อาจจะทำได้น้อยกว่าประมาณการ โดยธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อไว้ที่ศูนย์ และ คาดว่า NIM จะลดเหลือ 2.9% -3.2% (จาก3.35% ในปี 2567) ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 3.17% นอกจากนี้ธนาคารยังตั้งเป้าค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ปี 2568F ไว้ค่อนข้างสูงที่ 105-125bps (จาก 118bps ในปี 2567)สูงกว่าประมาณการของเราที่ 100bps เรามองว่าการที่ธนาคารตั้งเป้า NIM ปีนี้ไว้เป็นช่วงกว้างๆ สะท้อนถึงความผันผวนของกำไรปีนี้

เนื่องจากโครงสร้างสินเชื่อ KTB ค่อนไปทางสินเชื่อภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ (20% ของสินเชื่อรวม) และ สินเชื่อผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับพนักงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ และ การจ่ายค่างวดผูกกับบัญชีเงินเดือน (ประมาณ 40% ของสินเชื่อรวม) น่าจะทำให้คาดว่า KTB บริหารจัดการให้ credit cost อยู่ในระดับต่ำได้ นอกจากนี้ เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อมีแนวโน้มจะเปลี่ยนสถานะเป็น stage 2 และ stage 3 ลดลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา น่าจะช่วยให้ธนาคารบริหารความเสี่ยงทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ได้

คาดว่ากำไรใน 1Q68F จะอยู่ที่ 1.14 หมื่นล้านบาท (+9% QoQ, +3% YoY) เราใช้สมมุติฐานอัตราการขยายตัวสินเชื่อที่ -1% QoQ และ +3% YoY ขณะที่ใช้สมมุติฐานว่าNIM จะลดลง 10bps QoQ เหลือ 3.2% และ credit cost ที่110bps (+20bps QoQ และ -12bps YoY) เพื่อสะท้อนถึง NPLที่เพิ่มขึ้น 3% QoQ เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ เพราะกำไร FVTPL จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจะเกินพอที่จะชดเชย NII ที่ลดลง และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น กำไรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยYoY สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และ credit cost ที่ลดลง

เรายังคงอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี 2568F/2569F ที่ 5%/5% เพราะมองว่าสินเชื่ออาจจะขยายตัวตามการเบิกจ่ายวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ของภาครัฐ เรายังคงประมาณการ NIMปี 2568F/2569F ไว้ที่ 3.17%/3.15% และ คงประมาณการ credit cost ไว้ที่ 100bps/100bps จากโครงสร้างสินเชื่อที่สัดส่วนของภาครัฐมาก ทำให้ความเสี่ยงจะอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เรายังคงคำแนะนำซื้อ และ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 26.25 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจากNIM ถูกกดดัน และ ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของ NPA, ผลขาดทุน FVTPL จากการลงทุนในหุ้น

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)