ปี 2543 ผมศึกษาแนวคิดของหนังสือพ่อรวยสอนลูก หรือ Rich Dad Poor Dad ของโรเบิร์ต คิโยซากิ (ซึ่งภายหลังผมกลายมาเป็นผู้แปลหนังสือเล่มนี้อย่างที่ทราบกัน) นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า “PASSIVE INCOME” หรือรายได้จากทรัพย์สิน ตอนอ่านหนังสือครั้งแรก ผมรู้สึก เฮ้ย! เจ๋งเว้ย ไม่ต้องหารายได้ตลอดเวลา ก็มีเงินใช้หนี้ คือมันโคตรตรงใจ เพราะเหนื่อยกับการหาเงินใหม่มาจ่ายหนี้เก่าทุกเดือนแล้ว
สุดท้ายอย่างที่หลายคนบอก ทฤษฎีมักฟังดูง่าย แต่ทำจริงหนะมันยาก และมันไม่มีอะไรได้เร็ว ได้ง่ายดั่งใจนักหรอก ซึ่งก็จริง
ผมเริ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าตามแนวทางหนังสือ ด้วยการสมัครทำงานเป็นนายหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอทรัพย์สินเพื่อการลงทุนมากขึ้น ถ้าเจอทรัพย์สินทั่วไปก็ช่วยเขาขายเอาค่านายหน้า 3% แต่ถ้าอันไหนคำนวณแล้วว่าดี ก็จะลองหาทางลงทุนด้วยตัวเองดู
งานที่ปรึกษาโรงงานอุตสาหกรรม ต้องใช้ตัวเองในการทำงาน เดือนนึงทำงานได้ไม่เกิน 10 โรงงาน ก็เริ่มปรับโดยการจดบริษัท จ้างที่ปรึกษามาช่วยงาน แล้วก็ให้ออกไปดูแลงานแทน ถอยตัวเองมาทำงานการตลาดหาลูกค้าใหม่ ผมทำงานน้อยลง รับงานได้มากขึ้น รายได้โดยรวมมากขึ้น และพักจากการทำงานได้บ้าง ไม่ต้องทำงานทุกวัน (ช่วยให้มีเวลาคิดพัฒนาธุรกิจด้วย)
งานแปลหนังสือที่ทำมาหลายปี ก็เริ่มปรับเป็นงานเขียน เพื่อรับค่าลิขสิทธิ์ ตอนนั้นไม่มีทุน ไม่กล้าพิมพ์หนังสือเอง ก็ใช้วิธีเขียนงานส่งสำนักพิมพ์ เริ่มต้นตอนยังไม่เป็นที่รู้จัก ค่าลิขสิทธิ์ก็เลยยังไม่เยอะมาก แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รายได้จากทรัพย์สินทั้งสามช่องทาง ช่วยทำให้ผมไม่ต้องนับหนึ่งเริ่มต้นใหม่เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ทุกเดือน มันเหมือนมีเครื่องทุ่นแรงในการหาเงิน ผ่อนแรงให้เราสบายขึ้น เพราะเมื่อถึงสิ้นเดือนก็จะมีเงินค่าเช่าจากบ้านเช่า เงินเดือน (ที่ไม่ต้องทำงานทุกวัน) จากธุรกิจที่ปรึกษาเข้ากระเป๋า ช่วยสมทบทุนค่าใช้จ่ายและชำระหนี้ ปลายปีก็มีเงินปันผลจากธุรกิจที่ปรึกษาและค่าลิขสิทธิ์จากงานเขียนเติมเข้ามาอีก บวกกับเงินที่ได้จากการทำงาน (Active Income) ก็ทำให้แต่ละเดือนเบามือลง ไม่เหนื่อยเหมือนเดิม
หนี้สินทั้งหมดที่มี ผมเริ่มเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระการจ่าย (เริ่มฉลาด) หารายได้หลายทางเป็นรายได้เสริม เพื่อเพิ่มปริมาณเงินในการชำระหนี้ แล้วก็มีตัวช่วยสำคัญ นั่นคือ รายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income ที่ทำให้มีเงินตั้งต้นในแต่ละเดือนแบบไม่ต้องเหนื่อยหนักนับหนึ่งใหม่ทุกเดือน
ในวันที่มีหนี้ รายได้จากทรัพย์ หรือ Passive Income จะช่วยผ่อนหนี้ให้เราทุกเดือน
เมื่อวันที่หนี้หมด รายได้จากทรัพย์สิน จะช่วยจัดการค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตให้กับเรา
และหากรายได้จากทรัพย์สิน มากกว่ารายจ่ายรวมในแต่ละเดือน
เราก็จะมี “อิสรภาพการเงิน”
ในวัย 34 ปี ผมเคลียร์หนี้หมดทุกบาททุกสตางค์ มีรายได้จากทรัพย์สินจากบ้านเช่า ธุรกิจที่ปรึกษาโรงงาน และค่าลิขสิทธิ์ เพียงพอชำระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ หรือพูดอีกอย่างได้ว่า “อิสรภาพการเงิน” ของผม เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความไม่รู้ เริ่มต้นจากโจทย์แค่ว่า อยากปลดหนี้ให้หมดไวๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยหนักหาเงินใหม่ทุกเดือน ตะบี้ตะบันแก้ปัญหาไปเรื่อย จนวันหนึ่งหนี้หมด รายได้จากทรัพย์สินที่เคยช่วยจ่ายหนี้ ก็กลายมาเป็นตัวช่วยจัดการกับค่าใช้จ่ายรายเดือน แบบไม่ต้องเหนื่อยทำงานทุกวัน โดยไม่รู้ตัว หรือจะเรียกว่า มีอิสรภาพแบบฟลุ๊คๆ ก็ได้
เมื่อมองย้อนกลับไป ผมพบว่าการมีรายได้หลายทางและมีรูปแบบรายได้ที่หลากหลาย (Multi-Income Stream) ช่วยผมไว้ได้มาก
รายได้จากงานประจำ มันคือแหล่งรายได้ที่ทำงานครบเวลาก็ได้เงินแน่ๆ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะช่วยให้เรามีกินใช้ทุกเดือนไม่เดือดร้อน
รายได้เสริม มันคือแหล่งรายได้ที่ทำให้เรามีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้เร็วขึ้น (หรือปลดหนี้ได้เร็วขึ้น) ทำมากได้มาก เหนื่อยเยอะได้เยอะ แต่มีข้อเสียคือ ใช้หมดแล้วต้องเริ่มหาใหม่
รายได้จากทรัพย์สิน มันคือแหล่งรายได้สำคัญในการสร้างอิสระทางการเงิน หัวใจสำคัญ คือ การเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่สร้างรายได้ (Cash Generating Asset) เป็นรายได้ที่ช่วยผ่อนแรง ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง
ถึงวันนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป เอาเข้าจริงผมเองก็ไม่ได้รู้สึกอินกับคำว่า “อิสรภาพการเงิน” มากสักเท่าไหร่ เพราะจะว่าไปทุกวันนี้ทำงานเยอะกว่าตอนเป็นหนี้เสียอีก จะแตกต่างกันก็แค่ทั้งหมดเป็นงานที่อยากทำ รู้สึกดีที่ได้ทำ และมีหลายงานที่ทำแล้วไม่ได้เงินด้วย
แต่ที่รู้สึกดีมากๆ คือ การมีรายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income มากกว่า เพราะมันเป็นรูปแบบรายได้ที่ช่วยให้ชีวิตเรามีทางเลือกมากขึ้น จัดการกับเวลาได้มากขึ้น ลดความกังวลเรื่องเงินในชีวิตลง รู้สึกเป็นอิสระจากพันธนาการทางการเงินมากขึ้น
ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถใช้ Passive Income เป็นเครื่องทุ่นแรงในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเองได้ และไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องใช้เครื่องมือชนิดเดียวกัน วิธีการเดียวกัน รูปแบบเดียวกัน เพราะต้องบอกว่าเลยว่า แนวทางการสร้าง Passive Income นั้น มีอยู่หลายวิธี และคุณสามารถปรับมันให้เข้ากับสไตล์ของตัวคุณเองได้
ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับ PASSIVE INCOME ไว้ในหนังสือ PASSIVE INCOME เครื่องทุ่นแรงสู่อิสรภาพการเงิน หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ และแพลทฟอร์มออนไลน์ทุกแพลทฟอร์ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี