“โครงการสหรัฐฯและดอกเบี้ยขาลงช่วยหนุน”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้น บริษัท บีซีพีจี หรือ BCPG วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 BCPG น่าจะรายงานกำไรสุทธิ 1Q68F ที่ 230 ล้านบาท (-48% YoY แต่ +41% QoQ) กำไรหลัก ที่ 240 ล้านบาท (-30% YoY แต่ +6% QoQ) (ไม่รวม Fx) คิดเป็น 16% ของกำไรสุทธิปี 2568 ของเรา กำไรเพิ่มขึ้น QoQ อาจมาจากส่วนแบ่งกำไรแข็งแกร่งจากโครงการต่างๆในสหรัฐฯ (high season) และฟิลิปปินส์ (ความเร็วลมแรงขึ้น) ต้นทุนการเงินลดลง (ตามอัตราดอกเบี้ยลดลง) แต่กำไรลดลง YoY น่าจะเป็นผลจาก Fx พลิกกลับเป็นขาดทุน ผลกระทบเต็มปีจากการหมดอายุของ Adder (48MWe) การไม่มีโครงการในญี่ปุ่น (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่อ่อนแอลง เราคาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 38.8% (เทียบกับ 40.5% ใน 4Q67 และ 41.9% ใน 1Q67)
นักลงทุนควรมองข้ามผลประกอบการ 1H68 และให้ความสำคัญที่แนวโน้มแข็งแกร่งใน 2H68 ซึ่งหนุนด้วยรายได้จากกำลังการผลิต (CP) พุ่งขึ้นอย่างมากสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซต่าง ๆ ในสหรัฐฯ (857MWe คิดเป็น 44% ของ capacity ทั้งหมด) ในพื้นที่ PJM ซึ่งเพิ่มขึ้น 9 เท่าสำหรับ CCE & SFE และ 5 เท่าสำหรับ Hamilton & Patriot ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ตามที่ระบุไว้ในรายงานของเราเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เราคาดกำไร 2Q68 อาจลดลง QoQ จากการปิดซ่อมบำรุงชั่วคราวในสหรัฐฯ จะมีน้ำหนักมากกว่ากำไรจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำและต้นทุนการเงินที่ลดลง กำไรหลักปี 2568 เราคาดว่าจะเติบโตถึง 35% YoY ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของโครงการในสหรัฐฯ โดดเด่น โครงการพลังงานลม Monsoon (290MWe เริ่มใน 2H68) และโซล่าร์เฟส 1 ของไต้หวัน (100MWe)
BCPG พร้อมรับประโยชน์ของสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยลดลง จากสัดส่วนโครงสร้างหนี้ของอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ออัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ 60:40 และสัดส่วนหนี้สกุลเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่ 80:20 โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าช่วยลดภาระหนี้สินในรูปเงินบาท บริษัทอาจประกาศดีล M&A ใน 2H68 หลังจากขายสินทรัพย์ในญี่ปุ่นและอินโดนีเซียออกไป แม้กำไรจากโครงการในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากการหมดอายุของ Adder และต้นทุนทางการเงินที่สูงได้ทั้งหมด แต่ BCPG ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมีเงินสดราว 7.3 พันล้านบาทและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ที่ 1.0x (ต่ำกว่า debt covenant ที่ <3x) การจัดตั้ง BCPG Hydropower Pcl ล่าสุด (มกราคม 2568) อาจชี้เป็นนัยถึงดีลใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ที่ 8.00 บาท ขณะที่ คาดกำไรปี 2568F เติบโต 35% YoY ซึ่ง outperform ผู้เล่นรายอื่น ๆ ในกลุ่มโรงไฟฟ้า
ปัจจัยเสี่ยงปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี