เปิดไทม์ไลน์! 'ธรรมนัส' ฝากตัวรับใช้นาย ประกาศอิสรภาพ 'บิ๊กป้อม' พอแล้วครับนาย
เส้นทางการเมือง
เมื่อพูดถึงเส้นทางการเมืองของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่านั้น ได้เข้าไปช่วยงานพรรคไทยรักไทย ที่นายทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งขึ้น ในปี 2543 แต่ยังไม่มีบทบาทใด ๆ ทางการเมือง
กระทั่งมาถึงยุคของพรรครุ่นที่ 3 อย่างพรรคเพื่อไทย จึงได้ลง สส. สมัยแรก ในการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 โดยอยู่ในประเภทผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ แต่ด้วยการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ในนาม คสช. ซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ในขณะนั้น) ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และร้อยเอก ธรรมนัส ได้เก็บตัวเงียบ หายไปจากหน้าสื่อและแวดวงการเมือง
พปชร.ก่อตั้งขึ้น
ในปี 2561 พรรคพลังประชารัฐก่อตั้งขึ้น ตามด้วยข่าวการดึงนักการเมืองของพรรคต่างๆ มารวมตัวกันภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ร.อ.ธรรมนัส โดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานในภาคเหนือ โดยมีเป้าหมายพา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้นะคะ พล.อ.ประวิตร ก็ยังไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค
สส. สมัยแรก
สำหรับการเลือกตั้ง สส. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 ร.อ.ธรรมนัส ชนะเลือกตั้ง เขต 1 จ.พะเยา บ้านเกิดของตนเอง ได้เป็น สส. สมัยแรก ในนามพรรคพลังประชารัฐ หลังที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ในวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส ก็มีชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ
ร้อยร้าว พปชร.
เดือน พ.ค.2565 พรรคพลังประชารัฐเกิด "รอยร้าว" เมื่อ สส. แบ่งเป็น "ทีม 2 ลุง" ฝ่ายหนึ่งสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนอีกฝ่ายอยู่ข้าง พล.อ.ประวิตร ซึ่งท้ายที่สุด ฝ่ายหลังที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส ต้องออกไปจากพรรคพลังประชารัฐ โดยไปตั้ง ‘พรรคเศรษฐกิจไทย’ ขึ้นมา หลังจากนั้น บรรดา สส. และสมาชิกระดับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทยอยย้ายออกไปทำงานกับ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’
ประกาศยุบสภา
วันที่ 20 มี.ค. 2566 : พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศยุบสภา ตามด้วย กกต. ประกาศวันเลือกตั้ง สส. ชุดใหม่ 14 พ.ค. 2566 ในครั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้นายกฯ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร
“เศรษฐา” เป็นนายกรัฐมนตรี
วันที่ 22 ส.ค.2566 แม้พรรคก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.2566 แต่เมื่อได้ สส. ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร (มากกว่า 250 คน จาก สส. ทั้งหมด 500 คน) จึงไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดที่เอาด้วยกับการแก้ไข ม.112 ส่งผลให้พรรคเพื่อไทย ที่ได้ สส. มาเป็นอันดับ 2 สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งรวมถึงการดึงทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมรัฐบาล โหวตให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี
วันที่ 1 ก.ย.2566 คณะรัฐมนตรีชุดแรกของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ด้วย โดยยังอยู่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่เลื่อนจากรัฐมนตรีช่วยฯ ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ขณะที่ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร แต่มีชื่อของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย มาเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแม้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือน เม.ย.2567 แต่ ร.อ.ธรรมนัส ยังคงเป็น รมว.เกษตรฯ เช่นเดิม
"เศรษฐา" พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
วันที่ 14 ส.ค.2567 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นสภาพไปทั้งคณะ จากนั้น วันที่ 16 ส.ค.2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เลือก “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกฯ คนใหม่ โดยพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเป็นกลุ่มเดิม ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ
สัญญาณความขัดแย้ง
วันที่ 19 ส.ค.2567 ภายในพรรคพลังประชารัฐมีสัญญาณความขัดแย้ง เมื่อมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันพรรคพลังประชารัฐยังคงร่วมรัฐบาล แต่ในโผ ครม. ชุดใหม่ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค โดยจะให้ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ เป็น รมว.เกษตรฯ แทน ทำให้กลุ่ม สส. ที่สนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส แสดงท่าทีไม่พอใจ
ประกาศอิสรภาพ
วันที่ 20 ส.ค.2567 ข่าวความขัดแย้งชัดขึ้น โดยในช่วงเช้า ที่กระทรวงเกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์กับสื่อ เปรยว่า “รับใช้คนคนหนึ่งมา 6 ปี วันนี้พอแล้ว ขอประกาศอิสรภาพ” ขณะที่ช่วงบ่าย สส. กลุ่มที่สนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส ได้มารวมตัวกันที่กระทรวงเกษตรฯ ขณะที่ สส. กลุ่มที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร ไปรวมตัวกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี