เหตุระเบิดแบบปูพรมในหลายจังหวัดชายแดนถาคใต้ในช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดหลายกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดากันไปต่างๆนานา หลายคนมองไปที่ขั้วการเมืองที่เสียประโยชน์จากผลการลงประชามติ ในขณะที่บางคนก็สงสัยว่าการก่อการร้ายหนนี้ไม่ใช่ทั้งฝีมือโจรใต้และกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่างที่เคยก่อกรรมทำเข็ญเสียแล้ว แต่ไอ้โม่งที่ที่เครือข่ายโยงใยซับซ้อนกว่านั้น แต่ที่แน่ๆ คือต้องการป่วนประเทศโดยหวังผลทางจิตวิทยาในวงกว้างทั้งชาวไทยและต่างประเทศเพราะลงมือในวันเฉลิมพระชนมพรรษาราชินี ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติด้วย และเลือกจุดที่เป็นโซนท่องเที่ยว
ก่อนหน้านั้นไม่นานสถานทูตอเมริกาออกประกาศเตือนช่วงการลงประชามติว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น แถมยังส่งเจ้าหน้าที่ไปจุ้นจ้านตามหน่วยการลงประชามติอย่างน่าเกลียด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ลุงแซมก็สอดจมูกไปวุ่นวายกิจการภายในประเทศอื่นเป็นประจำจนชาวโลกระอา แทบจะตั้งฉายาให้ลุงแกว่า “ลุงแซม..โลกระอา” ให้รู้แล้วรู้แรดไป
เมื่อเร็วๆ นี้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ถึงกับด่าเปรี้ยงออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ฟิลิป โกลด์เบิร์กว่าเป็น “เกย์” โดยใช้คำว่า "บักลา" (bakla) ซึ่งเป็นคำดูหมิ่นคนรักร่วมเพศในภาษาตากาล็อก เพื่อแสดงความไม่พอใจในตัวเอกอัครราชทูตโกลด์เบิร์ก
เท่านั้นยังไม่หนำใจ เฮียแกด่าซ้ำอีกว่า “ไอ้ลูกอีดอก” ออกสื่อจนเป็นประเด็นร้อนลฉ่าไปทั้งโลก เพราะใครๆ ก็รู้ว่าพี่ปินส์นั้นเป็นลูกหาบลุงแซมมาช้านาน แถมเป็นลูกหาบชั้นดีอย่างชนิดที่เรียกได้ว่าหากลุงแซมสั่งให้กระดิกหาง พี่ผินก็จะกระดิกหางร่อยๆ ยิ้มประจบพลางเลียมือลุงแซมอย่างเอาใจทันที การที่ประธานาธิบดีออกมาด่าแรงขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดา
“พวกคุณก็รู้ๆ กันอยู่ ผมกำลังสู้กับทูต (ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี) ทูตเกย์ของเขา... ไอ้ลูกอีดอกคนนั้น..ทำให้ผมรำคาญชิบหาย”
ที่แสบสุดๆคือ เฮียดูเตอร์เตมาแนวตบจูบๆ หรือตบหัวแล้วลูบหลัง เพราะตะโกนบอกโลกไล่หลังไปว่าคำพูดแค่นี้ไม่น่ากระทบความสัมพันธ์ระหว่างมะนิลากับวอชิงตันหรอกน่า ฟิลิปปินส์ยังพร้อมที่จะผูกมิตรกับอเมริกาเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพในการป้องกันประเทศ ด่าจบก็ยิ้มตาใสตบท้ายว่า
“ขอย้ำว่าเรายังเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของอเมริกา”
จะว่าไปแล้วก็กวนตีนเอาการกับการทำแบบนี้ ทั้งๆที่ดูเตอร์เตปากหมามิใช่น้อย ดันปากพล่อยบอกว่าอยากจะลองข่มขืนมิชชันนารีสาวสวยชาวออสเตรเลียคนหนึ่งซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศและฆ่าทิ้งระหว่างที่นักโทษเรือนจำเมืองดาเวาก่อเหตุจลาจลเมื่อปี 1989 ซึ่งคนระดับผู้นำประเทศไม่ควรเอ่ยวาจาเยี่ยงนี้อย่างเด็ดขาด ทำราวกับว่าปากไม่มีหูรูดเหมือนตูดในวันท้องเสีย
ฝ่ายทูตอเมริกันก็คันปากแสดงความเห็นแนววิจารณ์คำพูดพล่อยๆ ของดูเตอร์เตอย่างรุนแรง และยังสาระแนแนะนำให้ชาวฟิลิปปินส์เลือกผู้นำคนใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อนโยบายของรัฐบาลให้มีความต่อเนื่องมากกว่าเฮียดูเตอร์เต พูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมคือทูตมะริกันเชียร์ผู้สมัครในสายของประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโนอย่างออกนอกหน้าจนดูเตอร์เตด่าโลดอย่างที่เห็นนั่นแหละ ทั้งที่ตอนนั้นดูเตอร์เตยังเป็นแค่นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา แต่ก็อหังการ์ออกมาด่าแบบจัดเต็มว่า
“ยูไม่ใช่ชาวฟิลิปปินส์นะ โกลด์เบิร์ก หุบปากซะ อย่าแทรกแซง เพราะนี่เป็นช่วงเลือกตั้ง”
จากนั้นก็สำทับว่าทูตสหรัฐฯ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมาก้าวก่ายการเมืองภายในฟิลิปปินส์ เล่นเอาลุงแซมเต้นผาง ตัวสั่นเร่าๆ อุวะ..ไอ้ผิน ไอ้ลูกหาบแต่ชาติปางก่อนดันมายอกย้อนด่าทอ ฮ้ายยยย..ไม่ได้ๆ เราจะต้องเอาประชาธิปไตยไปตบมัน ด้วยการจิกตัวทูตผินประจำอเมริกาไปพบ แต่อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ปฏิเสธที่จะ “ขอโทษ” คงต้องจับตาดูกันต่อว่าความสัมพันธ์แบบตบจูบระหว่างลุงแซมกับพี่ผินจะเป็นอย่างไร ในขณะที่ผู้นำตุรกีเริ่มถ่มคำด่าไปยังลุงแซมประปรายพอหายคันปาก ระหว่างที่วิ่งแจ้นไปซบอกพี่หมีขาวแล้วในวันนี้
แต่ดูเหมือนว่าลุงแซมจะไม่เข็ดจำแต่อย่างใด เพราะเห็นส่งเจ้าหน้าที่มาวุ่นวายกับการลงประชามติบ้านเราแถมเกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยรีบยกธงประชาธิปไตยมาโบกอำพรางทั้งๆที่รู้ผลประชามติแล้ว แต่ก็ยังบอกให้รีบจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว ท่ามกลางความไม่พอใจในความแส่ของทูตรายนี้ เพราะนี่คือกิจการภายในประเทศที่ไม่ควรก้าวก่ายอย่างยิ่ง
วกกลับมาที่เรื่องระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในบ้านเรา แอนโธนี่ คาตาลุคชี่ ซึ่งเป็นนักค้นคว้าวิจัยทางการเมืองชาวสหรัฐฯได้เขียนถึงประเด็นระเบิดไว้อย่างน่าสนใจว่า มีเอกสารออกมาจากทาง WikiLeaks อันเป็นเอกสารความลับทางการทูตต้องรายงานต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและรัฐบาลสหรัฐ ปี 2009 (2552) จัดทำโดย DCM James F. Entwistle รองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยระบุ ว่าคนเสิ้อแดงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับการโจมตีสถาบัน พร้อมระบุ "สุนัย ผาสุก" แห่งองค์กร Human right Watch คือบุคคลเชื่อมต่อที่สหรัฐใช้ เพราะมีความสัมพันธ์อันดีทั้งกับเจ้าหน้าที่และกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ สถานทูตสหรัฐเจาะลึกรายละเอียดของประเทศไทย มีเครือข่าย NGO ต่างๆ ที่รายงานให้สหรัฐทราบตลอด รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข่าวในพื้นที่
นี่คือวิธีการเดียวกับที่สหรัฐใช้กับกลุ่มแยกดินแดนเชเชน ในรัสเซีย โดยจะมีการติดอาวุธและให้เงินสนับสนุนผู้ก่อการร้าย จากนั้นจะมีการสร้าง NGO กำมะลอ มาปกป้องผู้ก่อการร้าย โดยใช้ข้ออ้างเรื่อง “สิทธิมนุษยชน ในทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ/ทหาร มีการจับกุมผู้ก่อการร้ายที่ฆ่าคนบริสุทธิ์เพื่อต้องการทำลายประเทศ
ไม่ใช่ว่า แอนโธนี่ คาตาลุคชี่ นักวิจัยชาวอเมริกันที่ออกมาแฉรอยไฝฝ้าจุดด่างดำอันอัปลักษณ์ของประเทศตัวเอง ยังมีนักเขียนอเมริกันคนหนึ่งที่กล้าออกมาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน สตีเฟ่น เลนด์แมนซึ่งแป็นนักเขียนและนักจัดรายการวิทยุชาวอเมริกันให้สัมภาษณ์เพรสทีวีเมื่อปีกลายว่า สหรัฐมีระบบที่สกปรกและอันตราย โดยทำให้ประเทศต่างๆต้องตกอยู่ภายใต้สงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งทุกวันนี้นับวันก็ยิ่งขู่ประเทศต่างๆ และเป็นภัยคุกคามมากขึ้นทุกที มีการแทรกแซงปล้นสะดมประเทศต่างๆอย่างมากมาย โดยพวกหาประโยชน์จากพลเมืองในประเทศอื่นในการขโมยทรัพยากรต่างๆ แถมยังเหยียบย่ำกฏหมายประเทศเหล่านั้นอีกด้วย
สหรัฐไม่ได้เป็นเพียงการปกครองระบบประชาธิปไตยอันจอมปลอม แต่เลวร้ายกว่านั้น เพราะแท้จริงแล้วประเทศนี้นั้นกำลังทำสงครามอยู่กับมนุษยชาติ สหรัฐได้กลายเป็นระบบคณาธิปไตย ซึ่งมีการติดสินบนทางการเมืองกันอย่างมากมายจนสามารถทำลายระบบการเมืองของประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตต่างให้ความสนใจไปยังเงินที่มีจำนวนไม่จำกัดและคิดถึงแต่ผลประโยชน์ตนเอง
ดูเหมือนว่ากาวของหน้ากากยี่ห้อประชาธิปไตยที่ลุงแซมใส่บังหน้ามาตลอดนั้นจะเริ่มเสื่อมคุณภาพ เพราะเริ่มกระเทาะเลาะล่อนให้เห็นหูดและจุดด่างดำทั้งหลายให้ชาวโลกรับรู้อย่างชนิดที่รองพื้นใดๆ ก็เอาไม่อยู่ แม้ว่าจะพยายามแสดงท่าพระเอกลิเกหว่านยิ้มให้ชาวโลกมาตลอด แต่พอเห็นหน้าเห็นตากันชัดเจนท่ามกลางแสงไฟส่องจ้าในความเป็นจริง ปราศจากโฆษณาชวนเชื่อ
ชาวโลกก็อดที่จะอุทานอย่างตกใจในความอัปลักษณ์ของลุงแซมไม่ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี