ยิ่งสำนักจานบินแสดงความเหิมเกริมทำตัวดุจรัฐอิสระท้าทายกฏหมายอำนาจรัฐด้วยการขัดขวางหมายจับธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักมากเท่าใด ตัวตนธาตุแท้จริงที่ส่อไปในทางด้านมืดอันเลวร้ายซึ่งซุกซ่อนมานานของสำนักจานบินก็จะถูกตีแผ่เปิดโปงและดำเนินการตามกฏหมายเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น ทั้งในเรื่องที่มาอันไม่ชอบมาพากลของขุมทรัพย์ทั้งในและนอกประเทศที่คาดว่ามีมูลค่าหลายแสนล้านบาท และการทำตัวดุจรัฐอิสระอาณาจักรเถื่อนที่อยู่เหนือกฏหมายมาช้านาน
พฤติการณ์ทีทำตัวเป็นรัฐอิสระเหนือกฏหมายของสำนักจานบินยิ่งเป็นการกดดันให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการจัดการธัมมชโยและสำนักจานบินเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)แจ้งความดำเนินคดีกับ ธัมมชโย และสำนักจานบินรวมแล้ว 158 คดีและมีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีอันเป็นการเปิดโปงสิ่งเลวร้ายของสำนักจานบินบานปลายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับกลุ่มคดีที่แจ้งความเอาผิดกับ ธัมมชโย และสำนักจานบินแยกเป็น 11 กลุ่มคดีประกอบด้วย กลุ่มคดีที่ 1 คดีบุกรุกกีดขวางทางสาธารณะโดยสร้างสะพานระวิ่งข้ามคลองต่างๆรอบสำนักจานบินหลายสะพาน การนำตู้คอนเทรนเนอร์ตั้งกีดขวางทางเพื่อขัดขวางการบุกจับ ธัมมชโย ของฝ่ายเจ้าหน้าที่
กลุ่มคดีที่ 2 คดีรถตู้ รถบัส รถสาธารณะจำนวนมากขนสาวกสำนักจานบินนอกเขตเส้นทางที่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง
กลุ่มคดีที่ 3 กีดขวางทางจราจรโดยนำแท่งซีเมนต์เสาเข็มวางขวางเส้นทางถนนรอบสำนักจานบินซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรและกฏหมายอาญามาตรา 229 ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี
กลุ่มคดีที่ 4 ทำให้เสียทรัพย์ด้วยการโรยตะปูเรือใบในเส้นทางการตรวจตรารอบสำนักจานบินของเจ้าหน้าที่ทำให้รถของเจ้าหน้าที่ยางแตกไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ อีกทั้งเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
กลุ่มคดีที่ 5 หมิ่นประมาทโดย นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน อดีตรองธิบดีกรมป่าไม้ แจ้งความเอาผิด นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน กรณีกล่าวหา นายวิฑูรย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์แผนที่ทางอากาศจนนำไปสู่การออกหมายจับ ธัมมชโย คดีรุกป่าที่เขาใหญ่ นครราชสีมาเพื่อตั้งเป็นสาขาสำนักจานบิน โดย นายองอาจ กล่าวหา นายวิฑูรย์ ว่าไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์แผนที่ทางอากาศและไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญศาลซึ่งไม่เป็นความจริง
กลุ่มคดีที่ 6 ลักลอบสร้างอาคารชุดในสำนักจานบิน 7 อาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
กลุ่มคดีที่ 7 ลักลอบขุดบ่อดาลในสำนักจานบินจำนวนหลายบ่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
กลุ่มคดีที่ 8 ฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งก่อนหน้านี้มีการหมายจับ ธัมมชโย และสาวกสำนักจานบินหลายคน และบางคนใช้กรรมในคุกไปแล้วคือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเป็นอดีตมัคทายกสำนักจานบินและเป็นคนสนิทของ ธัมมชโย
กลุ่มคดีที่ 9 รุกป่าสงวนแห่งชาติและที่สาธารณะตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสาขาสำนักจานบินหลายจังหวัดทั่วประเทศเป็นพื้นที่จำนวนมากซึ่งที่มีการออกหมายจับและอยู่ระหว่างการตรวจสอบดำเนินคดี อาทิ คดีเวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และ ที่จ.เลย และล่าสุดสุดคือที่เกาะยาว จ.พังงา และที่ จ. เลย และล่าสุดที่เกาะยาว จ.พังงา ที่มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมมุกตะวันซึ่งนอกจากรุกเขตป่าสงวนแห่งชาตินับร้อยไร่แล้ว ยังทำธุรกิจเสนอขายแพ็คเกจการนั่งปฏิบัติธรรมแก่ผู้สนใจด้วยค่าบริการคนละหลายพันบาทต่อหนึ่งคอร์สโดยราคาจะแตกต่างกันตามความสะดวกสบายของห้องพักไม่ต่างจากรีสอร์ทหรือโรงแรม ซึ่งศูนย์ปฏิบัติธรรมสาขาสำนักจานบินทั่วประเทศทำธุรกิจในลักษณะเดียวกันอันขัดกับหลักของศาสนารวมทั้งทำผิดกฏหมายเพราะนอกจากรุกป่าสงวนแห่งชาติแล้ว ยังนำป่าสงวนแห่งชาติมาหาประโยชน์เชิงธุรกิจ
กลุ่มคดีที่ 10 ให้ที่พักพิงช่วยเหลือ ธัมมชโย โดยผู้ที่ถูกออกหมายจับก็คือ พระสุธรรมญาณวิเทศ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเจ้าสำนักจานบิน และ พระทัตตชีโว ซึ่งเป็นอดีตรักษาการเจ้าสำนักจานบินก่อนหน้านี้ โดยทั้งสองต่างหนีหมายจับของศาล
กลุ่มคดีที่ 11 ปลุกปั่นยุยงสาวกสำนักจานบินให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ได้แก่ นายองอาจ ธรรมนิทา ที่ขณะนี้หลบหนีหมายจับ
นอกจากพฤติการณ์ทำผิดกฏหมายมากมายจะถูกดำเนินคดีนับไม่ถ้วนของสำนักจานบินจนส่อเป็นอาณาจักรรัฐอิสระเถื่อนเหนือกฏหมาย แล้วพระสำนักจานบินยังส่อพฤติการณ์ดุจอันธพาล อาทิ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวีทำข่าวบริเวณปะตู 5 ของสำนักจานบินปรากฏว่า มีพระสำนักจานบินรูปหนึ่งปรี่เข้ามาตบช่างภาพที่ถือกล้องถ่ายภาพอยู่แล้วใช้กระบอกยิงแสงเลเซอร์ยิงที่กล้องของช่างภาพสถานีโทรทัศน์อมรินทร์พร้อมกับพูดว่า “ ผมทำอย่างนี้ล่ะครับ ไป ถ้าคุยไม่รู้เรื่องมึง......” ขณะที่ช่างภาพพยายามอธิบายว่า “อย่าครับ พระอาจารย์ครับ กล้องผมพังครับพระอาจารย์” พระรูปดังกล่าวจึงตะคอกไล่ว่า “ไป”
นอกจากนี้บริเวณรอบสำนักจานบินจะมีพระจำนวนหนึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัย โดยมีการนำโทรศัพท์มือถือคอยถ่ายภาพบบรรดานักข่าวช่างภาพทุกคนที่ไปสังเกตุการณ์ รวมทั้งมีการใช้แสงเลเซอร์ยิงมาที่กล้องของช่างภาพด้วยเพื่อไม่ให้มีการถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีการใช้แสงเลเซอร์ยิงใส่โดรนที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบังคับวิทยุให้บินขึ้นไปสังเกตุการณ์ภายในสำนักจานบินจนเจ้าหน้าที่ต้องหยุดการทำงานเพราะเกรงโดรนจะได้รับความเสียหาย
พฤติการณ์ที่ส่อไปในทางเป็นแดนสนธยาอาณาจักรรัฐอิสระเหนือกฏหมายนับวันจะถูกตรวจสอบตีแผ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปริศนาขุมทรัพย์ธุรกิจขายบุญของสำนักจานบินทั้งในและนอกประเทศที่คาดว่ามีมูลค่าหลายแสนล้านบาท โดยขุมทรัพย์เหล่านี้ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีที่มาที่ไปซึ่งไม่ถูกต้องตามกฏหมายโดยอาจเป็นแหล่งฟอกเงินและแสวงผลประโยชน์มหาศาลของอลัชชีในคราบผ้าเหลืองรวมทั้งมหาเศรษฐีระดับชาติเพียงไม่กี่คนที่อยู่เบื้องหลังอาณาจักรที่อำพรางโฉมหน้าอันแท้จริงแห่งนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี