นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริษัทไทยซัมมิท กำลังกลายเป็นบุคคลร้อนแรงที่โด่งดังอย่างรวดเร็วในแวดวงการเมืองจากการเป็นแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ร่วมกับดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการสายกลุ่มนิติราษฏร์ โดยในการเปิดตัวแสดงจุดยืนหลังจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายธนาธร เจ้าของฉายา”ไพร่หมื่นล้าน” ก็ประกาศอุดมการณ์ตอนหนึ่งว่า “ผมพร้อมที่จะติดคุกพร้อมเอาชีวิตสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย ผมอยากเห็นการรัฐประหารครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตก่อนผมตาย”
นายธนาธร และพวกพยายามสร้างภาพลักษณ์ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการทหาร เช่นเดียวกับพรรคระบอบทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายธนาธร และพวกให้การสนับสนุน มาตลอด ทั้งๆที่ตัวตนที่แท้จริงของพรรคระบอบทักษิณคือบริษัทธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมของตระกูลชิน โดยตระกูลชินและเพื่อตระกูลชิน ที่ใช้ผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้อ ส.ส. ซื้อเสียง ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศ ซึ่งเมื่อได้อำนาจรัฐก็ทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารถอนทุนบวกกกำไรมหาศาล และใช้อำนาจประพฤติชั่วร้ายตามใจชอบ รวมทั้งใช้ความเป็นเผด็จการรัฐสภาออกกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่ตัวเองและพวกพ้อง ความเหิมเกริมของระบอบทักษิณถึงกับมีแนวคิดผูกขาดอำนาจเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ ซึ่งจากพฤติกรรมอันเลวร้ายของระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุทำให้มวลมหาประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณจนนำไปสู่การรัฐประหารถึง 2 ครั้งช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ระบอบทักษิณโดยกลุ่มคนเสื้อแดงยังเคยก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยา และที่เลวร้ายที่สุดคือสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง ระบอบทักษิณจึงเป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤติการณ์ในชาติที่สร้างความบอบช้ำอย่างหนักให้ประเทศตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
นายทักษิณ ยังส่อพฤติการณ์พลิกลิ้นลวงโลกหลอกคนทั้งประเทศมาหลายต่อหลายครั้ง อาทิ การประกาศว่า รวยแล้วจึงไม่คิดโกงแผ่นดิน แต่ นายเสนาะ เทียนทอง ซึ่งเป็นอดีตผู้นำหมายเลข 2 ของพรรคไทยรักไทย เคยเปิดโปงเมื่อครั้งแยกทางกับ นายทักษิณ ช่วงระยะเวลาหนึ่งว่า “ คำพูดนั้นผมเคยหลงคิดว่าคนๆหนึ่งรวยแล้วจะกลับใจ คิดใช้หนี้แผ่นดิน ตอนนี้ผมรู้ความจริงแล้วว่า รวยจากโกงชาติ กล้าทำแม้เผาบ้านเพื่อเอาประกัน คนรวยคนนี้รวยแล้วไม่รู้จักพอ ไม่ใช้หนี้แผ่นดินยังไม่พอ มันยังโกงกิน ทรยศต่อแผ่นดิน “
นอกจากนี้ นายทักษิณ เคยประกาศว่าพร้อมที่จะต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกไม่ชอบด้วยกฏหมาย โดยก่อนหน้าที่ศาลจะมีคำพิพากษา นายทักษิณ ได้มอบหมายให้ทีมทนายนำเงิน 2 ล้านบาทบรรจุอยู่ในถุงขนมเพื่อหยั่งเชิงมอบให้ผู้พิพากษาในคดีนี้ แต่ผู้พิพากษาไม่ยอมรับสินบนซ้ำฟ้องร้องทีมทนายที่พยายามติดสินบนทำให้ในที่สุด นายทักษิณ พลิกลิ้นลักลอบหนีโทษความผิดออกนอกประเทศก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ซึ่งเป็นนักโทษหนีคุกคดีโครงการรับจำนำข้าวก็เคยประกาศก่อนที่ศาลฏีกาแผนดคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญาฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยประกาศย้ำหนักแน่นว่า “ ทหารนั้นตายคาสนามรบ ดิฉันจะขอตายคาสนามประชาธิปไตย” โดยจะไม่หนีไปไหนและจะไปฟังคำพิพากษาของศาลเพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม แต่แล้วก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาแค่ 2 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เผยธาตุแท้ตัวตนด้วยการลักลอบหนีโทษความผิดออกนอกประเทศไปเสพสุขอย่างลอยนวลเดินตามรอย นายทักษิณ ผู้เป็นพี่ชาย
เพราะฉะนั้นการที่ นายธนาธรประกาศว่าพร้อมจะติดคุกและเอาชีวิตสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย ก็ได้แต่หวังว่าจะทำจริงอย่างที่พูด เพราะอุทธาหรณ์บทเรียนในอดีตมีให้เห็นมาแล้วมากมายว่า นักธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมนั้นรายไหนรายนั้นพฤติกรรมที่แท้จริงตรงกันข้ามกับคำโฆษณาชวนเชื่ออย่างสิ้นเชิง และเมื่อใดที่ธาตุแท้ถูกเปิดโปงและกำลังจะถูกพิพากษาลงโทษมักเผ่นหนีเอาตัวรอดไปเสพสุขอยู่ในต่างแดนอย่างลอยนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี