นับเป็นข่าวที่ฉีกหน้านายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินที่พยายามเคลื่อนไหวก่อหวอดทางการเมืองอีกครั้งด้วยการไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือที่เขียนโดยนายฮาจิเมะ อิชิอิ อดีตรมว.มหาดไทยของญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่เพิ่งผ่านมา โดยนายทักษิณผู้พี่ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีประชาธิปไตยในไทยโดยมีการเลือกตั้งคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว รวมทั้งโจมตีคณะรักษาความสงบแห่งแห่งชาติ(คสช.)กรายๆให้เลิกคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวป่วนเมือง ขณะเดียวกันก็ชี้นำกระแสปลุกขวัญเหล่านักการเมืองพรรคเพื่อไทยด้วยการฟันธงแนวโน้มผลการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่จากการเผยโฉมออกมาเคลื่อนไหวของสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินครั้งนี้กลับถูกสื่อดังของญี่ปุ่นฉีกหน้ายับเยิน
ทั้งนี้สำนักงานข่าวเกียวโดซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังของญี่ปุ่นเผยแพร่ข่าวการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครั้งนี้โดยใช้คำนำหน้าชื่อบุคคลทั้งสองว่า “Fugitives” ซึ่งมีความหมายในทำนองว่า “ผู้หลบหนีคดี” หรือถ้าจะตีความให้ตรงและชัดเจนก็คือ “นักโทษหนีคุก”
การใช้คำนำหน้าเรียก นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า “ผู้หลบหนีคดี” สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเนื่องจาก นายทักษิณ เป็นนักโทษหนีโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาตามคำพิพากษาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก และยังมีคดีทุจริตตลอดจนคดีด้านความมั่นคงติดตัวอีกหลายคดี รวมทั้งหมายจับคดีทุจริตกรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครกว่า 10,000 ล้านบาทในยุครัฐบาลทักษิณ ทั้งๆที่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครอยู่ในบัญชีดำธุรกิจที่มีความเสี่ยงเป็นเอ็นพีแอลหรือเสี่ยงหนี้สูญทำให้รัฐเสียหายมูลค่ามหาศาล
ก่อนหน้าที่ นายทักษิณ จะหลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ทีมทนายความของ นายทักษิณ ได้นำถุงขนมซึ่งภายในบรรจุเงิน 2 ล้านบาทพยายามที่จะไปติดสินบนผู้พิพากษาเจ้าของคดี แต่ผู้พิพากษาไม่ยอมรับสินบนซ้ำดำเนินคดีทีมทนายของ นายทักษิณ ทำให้ นายทักษิณ รู้ชะตากรรมตัวเองจึงตัดสินใจหลบหนีออกนอกประเทศเอาตัวรอดไปเสพสุขอยู่ในต่างแดนก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาในเวลาต่อมา
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกฯนักโทษที่หลบหนีโทษจำคุก 5 ปีโดยไม่รอลงอาญาตามคำพิพากษาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท
ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ สร้างภาพประกาศหนักแน่นพร้อมสู้ตายคาสนามประชาธิปไตยโดยจะไม่หลบหนีอย่างเด็ดขาดและพร้อมจะไปฟังคำพิพากษาด้วยตัวเองเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่แล้วก่อนศาลจะตัดสินเพียงแค่ 2 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยการช่วยเหลือของ นายทักษิณ ผู้เป็นพี่ชายก็หลบหนีออกนอกประเทศไปใช้ชีวิตอย่างหรูหราในต่างแดนอย่างลอยนวล
นอกจากนี้สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินยังเป็นบุคคลที่ทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตทุกฉบับและเป็นนักโทษหนีคุกที่ถูกถูกออกหมายจับเพื่อนำตัวกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาล
สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินทั้งๆที่เป็นนักโทษหนีโทษความผิดแต่กลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในต่างแดนอย่างลอยนวล ซ้ำยังพยายามทำทุกวิถีทางเคลื่อนไหวทางการเมืองท้าทายกฏหมายบ่อนทำลายประเทศมาอย่างต่อเนื่องหวังที่จะฟื้นระบอบทักษิณให้กลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง
ทั้งๆที่ถูกศาลพิพากษาว่าทุจริตประพฤติมิชอบและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แต่สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินรวมทั้งขบวนการระบอบทักษิณกลับพยายามสร้างภาพเรียกร้องประชาธิปไตย อันสวนทางกับพฤติกรรมของระบอบทักษิณซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่ลงทุนและใช้ผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้อส.ส. ซื้อเสียง ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประเทศ ซื้อประชาธิปไตย และเมื่อได้อำนาจรัฐก็จะทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองถอนทุนบวกกำไรมหาศาล และใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากประพฤติเลวร้ายตามใจชอบ จัดตั้งกลุ่มเสื้อแดงและกองกำลังใต้ดินก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยา ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจนสร้างความบอบช้ำให้ประเทศอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีแนวคิดทะเยอทะยานคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศจนเป็นต้นเหตุสร้างความแตกแยกในชาติอย่างลึกซึ้งทำให้ให้มวลมหาประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จนเกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้งตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
จากพฤติกรรมของสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินที่หลบหนีโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบอย่างของอภิสิทธิ์ชนที่ทำตัวอยู่เหนือกฏหมายเหนือคนทั่วไปโดยไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมแม้แต่คำพิพากษาของศาล อันเป็นการสวนทางกับความถูกต้องชอบธรรมและระบอบประชาธิปไตยที่พยายามอ้างเพื่อสร้างภาพมาตลอด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี