ช่วงนี้เกิดปัญหามากมายในอเมริกา รวมถึงการทำตัวเป็นนักเลงไล่กระทืบชาวโลก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นมุขเดิมๆ เห็นแล้วเกิดความเบื่อหน่ายที่สุด เลยคิดว่าจะพักการเขียนถึงสถานการณ์ปัจจุบันไปจนกว่าจะถึงปีหน้า แล้วสรรหาเรื่องราวประวัติศาสตร์มาเล่าสู่กันฟังแทน
ไม่น่าเชื่อว่าในสงครามกลางเมืองอเมริกา จะมีคนไทยคนหนึ่งร่วมรบด้วย คนไทยผู้ร่วมรบในสงครามกลางเมืองสังกัดกองทัพฝ่ายเหนือรายนั้นชื่อ “ยอด”
ยอดเดินทางจากสยามมาอยู่นิวเจอร์ซี ในปี ค.ศ.1859 ปรากฎหลักฐานว่าเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1862 พลทหารยอดเข้าร่วมในสังกัดกองทหารอาสาสมัครรัฐนิวเจอร์ซี่ (Company B of the New Jersey Volunteers,)
หลักฐานของกองทัพระบุว่ายอดเป็นชายชาวสยาม อายุ 18 ปี โดยมีนายวิลเลี่ยม ฮาเกน ลงนามในเอกสารแสดงความยินยอมสำหรับผู้เยาว์ด้วย ทั้งที่ยอดอายุครบ 18 ปีแล้ว แต่คาดว่าคงเพราะหน้าอ่อนแบบคนเอเซียทั่วไป ในเอกสารประวัติศาสตร์ระบุความสูงของนายยอดว่า 5 ฟุต 5 นิ้ว น่าจะประมาณ 165 ซม. ซึ่งถือว่าตัวเตี้ยตามมาตรฐานอเมริกัน
หลักฐานนี้ปรากฎในหนังสือ Elephants for Mr. Lincoln: American Civil War-era Diplomacy in Southeast Asia โดย วิลเลียม สโตรบริดจ์ นักประวัติศาสตร์การทหาร ระบุว่า
“แม้พลทหารยอดจะเกิดไม่ทันยุคที่สยามขี่ช้างรบกับพม่า แต่ก็มีโอกาสได้ร่วมศึกในสงครามกลางเมืองในประเทศที่ไกลกว่าจากแผ่นดินเกิดกว่าสองหมื่นไมล์”
พลทหารจากสยามรายนี้ผ่านสมรภูมิสงครามกลางเมืองมาหลายสมรภูมิ นั่นคือสมรภูมิแอนตีแทม (Antietam) ซึ่งนับว่าเป็นสมรภูมิที่รบกันดุเดือดมากสมรภูมิหนึ่ง ต่อมาร่วมรบที่สมรภูมิแชนเชลเลอร์วิลล์ (Chancellorville) จากนั้นก็ร่วมรบในเก็ตตี้สเบิร์ก แต่ปลายปี ค.ศ.1863 หลังเสร็จศึกที่เก็ตตี้สเบิร์ก พลทหารยอดก็ล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลทหาร
พอหายป่วยก็ออกมาร่วมรบในสงครามกลางเมืองใหม่ คราวนี้ร่วมกองทัพของนายพลเชอร์แมนจอมเผา เพราะเมื่อกองทัพฝ่ายเหนือยึดรัฐภาคใต้ฝั่งตะวันตกได้แล้ว นายพลรายนี้ก็กรีฑาทัพโดยทำลายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาคาร ยุ้งฉาง บ้านเรือน โดยเฉพาะในรัฐจอร์เจีย เพราะต้องการตัดปัญหาเรื่องการส่งเสบียงให้กองทัพฝ่ายใต้
แต่พลทหารยอดได้รับบาดเจ็บสาหัสในสมรภูมิโก๊ล์บฟาร์มในปี ค.ศ.1864 ต้องนอนรักษาตัวอยู่เกือบปีในโรงพยาบาลเมืองเจฟเฟอร์สัน รัฐอินเดียนา
เมื่อสงครามสงบ พลทหารยอร์จหรือยอดก็ปลดประจำการจากกองทัพ ที่เมืองเล็กซิงตันรัฐเคนตั๊กกี้ ในค.ศ.1865 ได้รับเงินเดือนย้อนหลังเดือนละ 64.30 ดอลลาร์และเงินปลอบใจอีก 75 ดอลลาร์พร้อมๆกับตั๋วรถไฟ พลทหารยอดจึงกลับไปรัฐนิวเจอร์ซี่
ดูท่านายยอดจะเป็นคนแบบชีพจรลงเท้า แทนที่จะอยู่อย่างสงบหลังผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน กลับเดินทางไปฟิลาเดลเฟีย แล้วสมัครงานเป็นคนงานในโรงหล่อ ต่อมาได้สัญชาติอเมริกันในปี ค.ศ.1869 เมื่อได้สัญชาติแล้วก็เดินทางออกจากอเมริกาไปยังญี่ปุ่นและจีน จากนั้นจึงกลับแผ่นดินเกิด ในปี ค.ศ.1870
เมื่อกลับถึงมาตุภูมิ ความที่ภาษาอังกฤษดี จึงได้ทำงานที่หนังสือพิมพ์สยาม วิคลี่ แอดเวอร์ไทเซอร์ ( Siam Weekly Advertiser) ต่อมารัฐบาลไทยขอให้นายยอดมาทำงานให้รัฐบาล โดยยินยอมจ่ายเงินเดือนให้ถึงเดือนละ 50 ดอลลาร์ ซึ่งสูงลิบลิ่วในเวลานั้น
ยอร์จหรือยอดเดินทางอีกครั้งในฐานะตัวแทนบริษัททำไม้ จนถูกยิงที่เท้าในปี ค.ศ.1889 ในฐานะที่เป็นพลเมืองอเมริกัน จึงได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 12 ดอลลาร์
คาดว่าคงเบื่อชีวิตโลดโผน จึงแต่งงานในปี ค.ศ. 1900 แต่น่าเสียดายที่เสียชีวิตในปีเดียวกันนั้นเอง ศพของคนไทยผู้เคยร่วมรบในสมรภูมิเก็ตตี้สเบิร์กถูกฝังไว้ ณ สุสานโปรเตสแตนท์ ในกรุงเทพมหานครนี่เอง โดยมีหลักฐานปรากฎในหนังสือดังนี้
Pvt George Dupont
BIRTH 1844
Thailand
DEATH 18 Jul 1900 (aged 55–56)
Bangkok (Krung Thep Maha Nakhon), Thailand
BURIAL
Bangkok Protestant Cemetery
Bangkok (Krung Thep Maha Nakhon), Bangkok (Krung Thep Maha Nakhon), Thailand
PLOT 720
พลทหารจอร์จ ดูปองต์
ชาตะ- ค.ศ. 1844
ประเทศไทย
มรณะ- 18 กรกฎาคม ค.ศ1900
อายุ- 55 หรือ 56 ปี
บางกอก (กรุงเทพมหานคร) ประเทศไทย
ฝัง-สุสานโปรเตสแตนท์ กรุงเทพ หลุม 720
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี