แม้ว่าโลกจะร้อนฉ่าจากการก่อกวนยุยงและแทรกแซงของลุงแซม โดยเฉพาะแถวเวเนซุเอล่า แต่ปลายเดือนมกราคมช่วงต่อกุมภาพันธ์ อุณหภูมิในรัฐทางตอนเหนือและมิดเวสต์ ซึ่งนั่นคือบ้านหลังที่สองของคนเขียนหนาวยะเยือกอย่างชนิดที่เรียกว่า “หนาวกว่าขั้วโลก”  และความหนาวชนิดนี้คือความหนาวที่อันตรายมากจนห้ามออกนอกบ้านเกิน 10 นาที ไม่เช่นนั้นอาจถึงขั้นเสียชีวิต ความหนาวที่อุณหภูมิลดต่ำกว่าขั้วโลกเรียกว่า “โพลาร์ วอร์เท็กซ์”

บ้านดิฉันอยู่ใกล้ชิคาโกและติดรัฐมิชิแกน จึงได้รับผลพวงความหนาวจัดหนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนหน้าเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติจะมีประกาศเตือนจากทางการ ให้ทุกครอบครัวตุนอาหารสดแห้งไว้ให้เพียงพอประมาณหนึ่งสัปดาห์  ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องติดอยู่ในบ้านนานขนาดไหน วันก่อนหน้าโพลาร์วอร์เท็กซ์มาเยือน อาหารหายวับไปจากชั้นวางในห้างสรรพสินค้าเหมือนเล่นกล ทุกคนต่างเตรียมตุนอาหารกันอย่างเต็มที่ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

อุณหภูมิลดต่ำบวกแรงลมลงถึง -50 ฟาเรนไฮต์  ความหนาวระดับนั้นเกินกว่าร่างกายจะทนทานได้ จึงมีประกาศเตือนให้ทุกคนอยุ่ในบ้าน ห้ามออกนอกบ้านเกิน 10 นาที   หมาแมวก็ห้ามออกนอกบ้านเกิน 5 นาที หากเกินกว่านั้นอาจเจออันตรายที่เรียกว่า “หิมะกัด” ได้  หากหิมะกัดเป็นเวลานาน อาจเสียอวัยวะนั้นไปอย่างถาวร

โซนที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือแถบมิดเวสต์ ทุกคนหลบอยู่แต่ในบ้าน เงียบสงัดอย่างน่าขนลุกราวกับเป็นวันสุดท้ายก่อนโลกแตก ไม่มีเสียงคนเดินจูงหมาผ่านหน้าบ้าน ไม่มีเสียงรถแล่นผ่าน โรงเรียน สถานที่ทำการ ที่ทำงานปิดหมดทุกแห่ง แม้ไปรษณีย์ก็ยุติการส่งจดหมาย เพราะอันตรายเกินกว่าจะทำงานกลางแจ้ง แม้แต่ตำรวจก็หยุดด้วย เพราะไม่คุ้มกับการเสียชีวิตขณะปฎิบัติงาน ตำรวจในรัฐวิสคอนซินถึงกับให้ข่าวอย่างติดตลกว่า จะไม่มีการจับผู้ร้ายในช่วงโพลาร์วอร์เท็กซ์นี้ และขอให้ผู้ร้ายทุกคนนอนอยู่บ้านดู Netflix ไปพลางๆ ก่อน อย่าเพิ่งก่อการร้ายใดๆ

ลมพัดเสียงอู้ๆ โยกบ้านสะเทือนบางช่วง แม้สถานที่ทำการ ร้านอาหาร โรงเรียนปิด แต่บางแห่งก็ต้องเปิดเพื่อรับสถานการณ์ เช่น  สถานีตำรวจ หน่วยกู้ภัย และรพ.  ยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเกือบ 1,000 เที่ยวที่ท่าอากาศยานนานาชาติชิคาโกโอแฮร์ และอีกร่วม 320 เที่ยวบินถูกยกเลิกล่วงหน้าที่ท่าอากาศยานมิดเวย์ อินเตอร์เนชันแนล ( Midway International) รถไฟทั้งขาเข้าและออกเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ยกเลิกการเดินรถเช่นกัน

ผลจากโพลาร์ วอร์เท็กซ์หนนี้มีผลเสียชีวิต 21 คน บางคนก็ไม่น่าจะเสียชีวิตเลย เช่น เด็กมัธยมที่เดินทางบ้านหรือหนุ่มนักศึกษาคณะแพทย์ที่เสียชีวิตข้างอาคาร

ระดับความหนาวนอกจากเป็นอันตรายต่อคน ยังเป็นอันตรายต่อหมา แมว และสัตว์อื่นๆ สถานสงเคราะห์สัตว์ในเมืองเช็คทีละบ้านเพื่อดูว่า เจ้าของบ้านนำหมาเข้าบ้านหรือไม่ บ้านไหนทิ้งหมากลางหิมะเจ้าหน้าที่จะรับหมาไปดูแลแทน   เพราะหมาจะต้องตายแน่นอนในความหนาวขนาดนี้

ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ ยังได้เห็นน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างในเมืองที่ดิฉันอาศัยอยู่มีการเอารถโรงเรียนตระเวณไปรอบเมืองเพื่อรับคนจรจัดไปที่ศูนย์พักพิง เพื่อให้คนจรจัดเหล่านั้นมีอาหารกินทุกมื้อ และที่พักที่อบอุ่นปลอดภัย ส่วนหลังคลื่นความหนาวผ่านพ้น จะจรจัดหรือไม่จรจัดก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้ต้องจัดให้มีที่พักและอาหาร เพราะชีวิตทุกชีวิตมีค่า

ในชิคาโก้ ผู้ใจบุญคนหนึ่งเห็นว่าคนจรจัดในเมืองขิคาโก้มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแค่กางเต๊นท์ริมถนนไม่สามารถป้องกันอากาศหนาวขนาดนี้ได้ จึงอาสาออกค่าโรงแรมให้คนจรจัดทั้งหมด 70 คนเข้ามาพักฟรี โดยจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้

เมื่อเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ทั่วอเมริกา ก็มีการสืบหาว่าผู้ใจบุญรายนี้เป็นใคร หลายคนคาดเดาว่าอาจจะเป็นมหาเศรษฐีชิคาโก้ที่อยู่จำนวนหนึ่ง แต่พอเปิดเผยว่าผู้ที่มีจิตใจเมตตารายนี้เป็นใครถึงกับสะเทือนใจกันทั่วประเทศ เพราะเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย เป็นหญิงสาวผิวดำที่จิตใจงดงาม เงินที่นำมาจ่ายเป็นค่าเช่าโรงแรมให้คนจรจัดคือเงินเก็บและเงินจากบัตรเครดิตของเธอ นั่นหมายถึงเธอต้องแบกภาระหนี้สินนั่นเอง  แต่เธอยินยอมเพราะเห็นใจคนจรจัดเหล่านี้

ชายคนหนึ่งที่เคยทำงานบริษัทฮีตเตอร์ตระเวณไปตามบ้านคนชรา เพื่อให้แน่ใจว่าทุกบ้านมีเครื่องทำความร้อนโดยบริการฟรีไม่คิดเงิน ร้านอาหารส่วนมากปิดให้บริการ แต่ร้านที่เปิดบางร้านยินดีให้บริการเจ้าหน้าที่ เช่น พวกที่ต้องออกมาโกยหิมะบนถนนจำเป็นต้องออกไปทำงานกลางคลื่นความหนาวร้านอาหารยินดีให้กินฟรีตลอดวัน

ไอเกียเปิดห้างเพื่อรับหมาจรจัดให้เข้ามาพักพิงในช่วงหนาวจัด สำนักงานและคลีนิกหลายแห่งในเมืองเปิดประตูรับหมาทุกตัวให้เข้ามาอยู่ข้างในอุ่นๆ ในช่วงเวลานี้เช่นกัน  ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับทางการแต่เป็นความเอื้อเฟื้อของภาคประชาชนล้วนๆ

ในเมือง Morton Grove ชานเมืองชิคาโก้ เพื่อนบ้านทุกคนต่างแปลกใจที่หน้าบ้านมีกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนด้วยลายมือว่า

"หากใครต้องการให้ผมช่วยไปรับอาหารหรือยาขอให้บอกผมได้เลยครับ..ยินดีออกไปทำให้ฟรี"

นี่คือไอเดียของหนุ่มมุสลิมชื่ออาห์เหม็ด  ที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนนอกจากอยากช่วยเพื่อนบ้านในยามยากเช่นนี้  หลายคนติดอยู่ในบ้านและไม่มีอาหารการกิน หรือต้องการยารักษาโรคก็ไม่สามารถออกไปได้ ซึ่งเพื่อนบ้านหลายคนก็ขอความช่วยเหลือ เมื่อนักข่าวถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ท พี่อาห์เหม็ดตอบอย่างหล่อเลยว่า

"ผมทำเพื่อสอนลูกหลานของเรา ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เพื่อโลกและมนุษยธรรม"

ในขณะที่ภาคประชาชนต่างดูแลกันและกัน ตาลุงผมเป๋ก็ก่อเรื่องให้ขุ่นใจด้วยการทวิตข้อความที่ชวนโมโหและแสดงความปัญญาอ่อนออกมาให้ชาวโลกเห็น ตาลุงแกบอกว่า

 “มิดเวสต์แสนงามเวลานี้หนาวจัดถึง -60 ฟาเรนไฮต์ หนาวสุดทำลายสถิติในประวัติศาสตร์ และคงหนาวกว่านี้แน่นอน ผู้คนไม่สามารถออกนอกบ้านได้นาน นี่มันเรื่องห่าเหวอะไรเนี่ย ภาวะโลกร้อนจงกลับมาเถิด”

ตาลุงแกเข้าใจว่าภาวะโลกร้อนนั้นคือเป็นสิ่งดี ทำให้อุ่นขึ้น แต่แกไม่ยักรู้ว่าการที่หนาวจัดขนาดนี้เพราะผลพวงของภาวะโลกร้อน ที่ลุงแกมีส่วนก่อขึ้นนั่นแหละ

ปรากฏการณ์โพลาร์ วอร์เทกซ์ (Polar Vortex) คือลมวนขั้วโลกที่ตามปกติแล้วจะหมุนวนอยู่ที่แถบขั้วโลกเหนือในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา   และเคลื่อนตัวลงมาที่ต่ำสุดบริเวณประเทศแคนาดา แต่ในปีนี้กลับพัดลงมาที่ละติจูดต่ำลงถึงตอนกลางของสหรัฐอเมริกา ทำให้หลายรัฐมีอุณหภูมิติดลบระดับขั้วโลก บางแห่งอุณหภูมิต่ำถึง -50 องศาเซลเซียส ซึ่งกล่าวกันว่าหนาวกว่าอุณหภูมิของพื้นผิวของดาวอังคารเสียอีก

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า เกิดขึ้นจากการที่ขั้วโลกเหนืออุ่นขึ้นและน้ำแข็งขั้วโลกละลาย อันมีสาเหตุมาจากสภาวะโลกร้อนที่มนุษย์ก่อขึ้นนั่นเอง ทำให้ความสมดุลความร้อนระหว่างขั้วโลกเหนือและเส้นศูนย์สูตรเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากแม้เพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นเพียง 1 องศานั้นสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญได้ เพราะฉะนั้นลุงทรัมป์ก็ควรนั่งเฉยๆ ไม่ต้องแสดงความเห็นอะไรออกมาก็ได้นะ เพราะยิ่งพูดเหมือนยิ่งแสดงระดับสติปัญญา

เราต่างมีส่วนทำร้ายโลกใบนี้ด้วยกันทั้งนั้น  ภัยพิบัติเหล่านี้คือสัญญาณแจ้งเตือนให้รู้ว่าโลกกำลังเสียสมดุลย์มากขึ้นจนถึงขั้นอันตราย  และโพลาร์วอร์เท็กซ์ที่เกิดขึ้นแทบทุกปีในอเมริกา คือสัญญาณอันตรายที่ทุกคนจะต้องช่วยกันหาทางแก้ไขเยียวยา