ช่วงนี้อเมริกากลับมาวนลูปเดิม ยอดป่วยพุ่งสูงขึ้นทุกวัน หลายรัฐเลยมีมาตรการให้ทุกคนกลับมาใส่หน้ากาก ที่บอกว่าวนลูปเดิมอีกนั่นแหละ เพราะพอออกกฏมาแบบนี้ จะมีคนออกมาประท้วงการใส่หน้ากาก บางแห่งก็ยกพวกตีกัน ระหว่างพวกที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนกับพวกที่ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน ล่าสุดเหตุเกิดในแอลเอนี่เอง
พลเมืองชาวแอลเอหลายร้อยคนนัดมารวมตัวกันที่สนามหญ้าศาลากลางเมืองลอสแองเจลิส ช่างเลือกเวลาจริงๆ นัดกันตอนบ่ายสองที่ร้อนปานหัวแตก กลุ่มนี้ยกพวกมาเดินขบวนประท้วง อ้างเสรีภาพในการเลือกที่จะฉีดหรือไม่ฉีด ที่แห่แหนกันมาเพราะตอนนี้มีการออกกฎให้ใส่หน้ากาก และต้องแสดงบัตรฉีดวัคซีน หากอยากเข้าไปชมการแสดงดนตรีหรือร้านอาหาร กลุ่มนี้อ้างว่าการบังคับเรื่องฉีดวัคซีนและบัตรวัคซีนคือเผด็จการทางการแพทย์เราดีๆ นี่เอง เออ..คิดได้นะ
กลุ่มที่มาประท้วงแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นพวกหนุนทรัมป์ เพราะป้ายเอยธงเอยแสดงออกอย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ว่าชอบทรัมป์อย่างสุดติ่งทิงนองนอย เด็ดสุดคือมีการชูป้าย “เสรีภาพทางการแพทย์” ชะ..หัวหมอซะด้วยนะเนี่ย
แน่นอนว่าเมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วย ย่อมมีกลุ่มที่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน เลยเกิดการประจัญหน้ากันระหว่างสองกลุ่ม ประมาณกลุ่มเอาวัคซีนกับไม่เอาวัคซีน สุดท้ายก็ฟัดกันนัว มีรายหนึ่งถูกแทง ต้องหามส่งโรงพยาบาลกันด่วนจี๋
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านวัคซีนและสวมหน้ากากเป็นการตอบโต้โต้คำแถลงของเมแกน เรลลี ผู้อำนวยการเขตการศึกษาลองแองเจลิส ที่ระบุว่าจะบังคับลูกจ้างของเขตฉีดวัคซีนต้านโควิดครบโดส ภายในวันที่ 15 ตุลาคม แถมบังคับนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่โรงเรียนทุกคนตรวจเชื้อโควิดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะฉีดหรือไม่ได้ฉีด ทุกคนต้องตรวจหมด
สภาเมืองลอสแองเจลิสลงมติให้อัยการของเมือง ร่างคำสั่งสำหรับบังคับแสดงหลักฐานพิสูจน์สถานะฉีดวัคซีนในพื้นที่สาธรณะในร่ม เช่น ร้านอาหาร บาร์ โรงยิม โรงภาพยนตร์และธุรกิจต่างๆ เมื่อเป็นแบบนี้เลยมีคนไม่พอใจออกมาประท้วงใหญ่โต
ร้อนถึงคนเหล็ก อาโนลด์ ชวาสเน็กเกอร์ ทนไม่ไหว ออกมาร่ายยาว ไม่ได้ call out แต่อย่างใด ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ด่า” พวกที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและไม่ยอมใส่หน้ากาก คนเหล็กบอกว่า พวกที่ไม่ฉีดวัคซีนและไม่ยอมสวมหน้ากากคือไอ้งั่ง พี่แกใช้คำแรงแบบนี้จริงๆ ใช้คำว่า schmuck เลยทีเดียว
จากนั้นก็ร่ายยาวสามหน้ากระดาษแสบสันต์สะใจโก๋ ทั้งๆที่คนเหล็กเองก็เป็นสายริพับลิกัน แต่เป็นริพับลิกันที่ไม่เอาทรัมป์ มาดูว่าพี่แกแซ่บขนาดไหน อาโนลด์บอกว่า
“ตอนนี้พวกเราต้องร่วมมือมากกว่าทะเลาะกันสิ แล้วไอ้พวกที่ชอบบอกว่า อเมริกาเป็นประเทศเสรีนะ และเราก็มีเสรีภาพในการไม่ใส่หน้ากากนะโว้ย เออ..มันก็ถูกแหละ พวกคุณมีเสรีภาพในการไม่ใส่หน้ากากก็จริง แต่พวกคุณนี่แหละคือไอ้งั่ง”
ดูเหมือนพี่แกจะหัวร้อนแบบจุดติดแล้วลุกโพลง เพราะร่ายยาวออกสื่อกระหึ่มไปทั่วโลก ลงว่าด่าแล้วด่าจัดหมัดหนักฟาดใส่หน้าบรรดาพวกที่ต่อต้านวัคซีนจนเงิบหงาย
“คนอย่างพวกคุณนี่แหละที่ชอบบอกว่านี่คือเสรีภาพที่ใครขัดขวางไม่ได้ เยสสะแม่เสรีภาพของคุณแน่ะครับ เสรีภาพต้องมาควบคู่กับความรับผิดชอบ หุบปากเสียที พอเสียเถอะกับการบอกว่า ฉันมีเสรีภาพในการทำ 1..2..3 โน่นนี่นั่น เพราะไอ้เสรีภาพที่คุณอ้างเนี่ยมันส่งผลกระทบต่อชีวิตคนอื่น”
เล่นเอาสูดปากกันเลยทีเดียว แต่เชื่อเถอะ..ไม่มีใครกล้าหือกับพี่คนเหล็กหรอก เพราะกลัวโดนทุบเอาง่ายๆ แสดงว่าคงจะเหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ ถึงออกมาฟาดแรงขนาดนี้
อเมริกาการ์ดตกทั้งประเทศ พอเจอเดลต้าระบาดแบบไม่บันยะบันยัง ก็ล้มคว่ำทันที นายแพทย์ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอเมริกาถึงกับกุมขมับ แล้วบอกตรงๆ ว่า คงจะได้เห็นการติดเชื้อกันละสองแสนรายอีกไม่นาน ตอนนี้ก็ป่วยกันวันละหนึ่งแสนสามหมื่นกว่าๆ ส่วนมากเป็นวัยหนุ่มสาว เพราะคนสูงวัยได้รับการฉีดวัคซีนกันแล้ว พวกหนุ่มสาวอเมริกันคิดง่ายๆ อย่างเห็นแก่ตัวว่า ไม่ฉีดเพราะเป็นแล้วก็หายได้เอง โดยไม่คิดว่าตนเองจะเป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนอื่นในสังคม
จำเทศกาลดนตรีที่ชิคาโกได้ไหม เทศกาลดนตรีประจำปี "ลอลลาพาลูซา" ที่บรรดาเนตไอดอลไทยเอามาอ้างว่า เนี่ยๆ..อเมริกากลับสู่ภาวะปกติกันแล้ว ดูซี้..อเมริกันถอดหน้ากากกันแล้ววววว ไม่ได้อวยอเมริกานะเออ... บลาๆๆ จากนั้นก็ด่าประเทศไทย เพื่อด้อยค่าแผ่นดินเกิดตัวเอง ทีนี้มาดูความจริงกันจ้ะ จะได้เลิกอวยไส้แตกซะที สรุปคือพบว่ามีคนติดโควิด 203 รายจากงานนั้น
ประเด็นคือคนเหล่านี้ไม่ใช่พลเมืองชิคาโกทั้งหมด แต่มาจากรัฐอื่นและเมืองอื่น ลองนึกภาพดูว่า เวลาคนเหล่านี้บินกลับบ้าน จะเกิดการแพร่กระจายเชื้อขนาดไหน
เจ้าหน้าที่ที่เมืองชิคาโกออกมาปกป้องตัวเองที่พลาดไปแล้ว บอกว่ามีการตรวจบัตรฉีดวัคซีน แต่ขออภัยที่ข่าวไปไม่ถึงบ้านท่าน อเมริกานี่แหละที่ซื้อขายบัตรวัคซีนปลอมกันเพียบ ขายกันอย่างโจ่งครึ่มเลยทีเดียว จนเอฟบีไอต้องออกมาเตือนว่าเจอจับทันที เพิ่งจะเป็นข่าวไปเมื่อวันก่อนว่าแคนาดาปรับแพงกระอักเลือด ผู้โดยสารอเมริกันสองรายที่ใช้บัตรฉีดวัคซีนปลอมบินมาแคนาดา แล้วไอ้ที่ตรวจหน้างานแสดงดนตรีเนี่ย มีบัตรปลอมกี่ใบ คำตอบนั้นล่องลอยในสายลมตามเคย ระมัดระวังตัวกันเองก็แล้วกันจากนี้ไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี