วันนี้เป็นวันหยุดในอเมริกา อันเป็นวันที่เรียกว่า “วันประธานาธิบดี”เลยอยากเล่าเรื่องเบาๆ พักเบรคเรื่องร้อนๆ เรื่องหนักๆอย่างสงครามที่ลุงแซมขู่ฟ่อๆ ว่า พี่หมีขาวบุกยูเครนแน่ว้อย เห็นขู่ฟ่อๆโฮ่งๆ มาสักพักแล้ว แต่ดูทรงแล้วไม่น่าห่วงเท่าไหร่หรอกไอ้ที่น่าห่วงดันไม่ยักห่วงอย่างสถานการณ์ของแพงทั้งแผ่นดินอเมริกานั่นแหละวัน Presidents Day หรือวันประธานาธิบดีกำหนดโดยถือเอาวันจันทร์ในสัปดาห์ที่ 3 เป็นวันประธานาธิบดีที่เลือกวันจันทร์สัปดาห์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์เป็นวันประธานาธิบดี เพราะเป็นวันเกิดของจอร์จ วอชิงตันประธานาธิบดีคนแรกซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1732 ตอนนั้นเรียกว่า“วันเกิดของวอชิงตัน"ต่อมาเปลี่ยนการเฉลิมฉลองวันเกิดของประธานาธิบดีจอร์จวอชิงตันให้ตรงกับวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์อีกทั้งยังให้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกวันดังกล่าวจาก "วันเกิดของวอชิงตัน"มาเป็น "วันประธานาธิบดี" ด้วยแรกๆ ก็ฉลองกันแบบไม่ค่อยมีแบบแผนนักจากนั้นมีการร่างพระราชบัญญัติให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการและเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ.1971 โดยระบุให้วันจันทร์ที่ 3ของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันประธานาธิบดี
และเป็นวันหยุดราชการ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของ จอร์จ วอชิงตันประธานาธิบดีคนแรกนั่นเองก่อนหน้าที่จอร์จ วอชิงตันจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเคยเป็นผู้บังคับบัญชาการทหารที่โดดเด่นช่วง ค.ศ. 1775 ถึง 1799ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีการก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาเลยด้วยซ้ำมีสถานะเป็นเพียงอาณานิคมของอังกฤษ แต่จอร์จวอชิงตันนำการรบจนได้ชัยชนะในสงครามปฏิวัติอเมริกันจนประกาศอิสรภาพจากอังกฤษแล้วขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาสร้างคุณประโยชน์มหาศาลจนได้รับการยกย่องว่าเป็น“บิดาแห่งสหรัฐอเมริกา”ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วในเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนเกิดประธานาธิบดีที่มีความสำคัญถึง 2 คนเลยออกแนว ซื้อ 1 แถม 1 ด้วยการจับอับราฮัมลินคอล์นยัดเข้าไปเป็นแพกเกจคู่เพราะในพระราชบัญญัติที่ว่านี้ได้ระบุให้วันประธานาธิบดีเป็นวันสดุดีอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ซึ่งเกิดในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ค.ศ.1809 ด้วยเมื่อถึงวันนี้สถานที่ราชการและธนาคารปิดทำการส่วนบริษัทเอกชนเปิดทำงานตามปกติประชาชนมะริกันนั้นไม่ได้ฉลองอะไรกับวันนี้มากมายเท่ากับการรอไปช้อปปิ้ง สินค้าทุกรายการจะลดราคาหั่นแหลกพร้อมแจกแถมรัฐไหนที่อากาศอุ่นแล้วก็ออกไปช้อปกระหน่ำส่วนรัฐที่หิมะยังไม่ปรานีก็ช้อปออนไลน์กันมือเป็นระวิงตามแต่จำนวนเงินในประเป๋าจะอนุญาต
จากประธานาธิบดีคนแรกคือจอร์จ วอชิงตัน ในปี ค.ศ. 1789มาจนถึงปัจจุบัน อเมริกามีประธานาธิบดีทั้งหมด 46คนโดยคนล่าสุดคือลุงโจ ไบเดนนั่นเอง ประธานาธิบดีคนที่ 44นั้นถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอเมริกาเพราะเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรก แถมดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัยอีกด้วยประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดคือ ประธานาธิบดีแฟรงคลินดี รูสเวลท์ อยู่ในตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ถึง 4 สมัยหรือ 16 ปีหลังจากนั้นมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 22 ในปี ค.ศ. 1951กำหนดให้บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกันทุก 4 ปีจะมีการสำรวจโพล“ประธานาธิบดีและความยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีในการเมืองของฝ่ายบริหาร”โดยสำรวจความคิดเห็นนักวิจัยด้านสังคมศาสตร์ของสมาคมรัฐศาสตร์เกี่ยวกับประธานาธิบดีและการเมืองของฝ่ายการบริหารผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นให้คะแนนความยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีแต่ละคนจาก 0 ถึง 100 ซึ่ง 100 คือยิ่งใหญ่, 50 คือปานกลาง และ 0คือล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
สำหรับประธานาธิบดียอดเยี่ยมนั้นผลสำรวจมักออกมาแบบนี้แทบทุกหน นั่นคือ 7อันดับประธานาธิบดียอดเยี่ยมอันดับหนึ่งอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลคืออับราฮัม ลินคอล์น ตามด้วยจอร์จ วอชิงตัน, แฟรงคลิน เดลาโน รูสเวลต์,ธีโอออร์ รูสเวลต์, โธมัส เจฟเฟอร์สัน, แฮร์รี ทรูแมน และดไวท์ไอเซนฮาวร์ แต่อับราฮัม ลินคอล์นนั้นได้คะแนนนำสูงลิ่วมาทุกครั้งเรียกว่าเป็นประธานาธิบดีในหัวใจประชาชนอย่างแท้จริงสุนทรพจน์ของอับราฮัมลินคอล์นเป็นสุนทรพจน์ที่คมคายและจับใจประชาชน
จนได้รับการนำถ้อยคำในสุนทรพจน์มาอ้างถึงจนทุกวันนี้สุนทรพจน์ที่เก็ตตี้สเบิร์ก (Gettysburg Address)ถือเป็นสุนทรพจน์ที่มีการยกถ้อยคำไปอ้างอิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาส่วนประธานาธิบดีห่วยแตกสุด 5 คนคือ บ๊วยสุดคือโดนัลด์ ทรัมป์ตามมาด้วย แอนดรูว์ จอห์นสัน, แฟรงคลิน เพียร์ซ, วิลเลียม แฮร์ริสัน และเจมส์ บูแคนันนักวิจัยขอให้นักรัฐศาสตร์ระบุชื่อประธานาธิบดีที่คิดว่าสร้างความแตกแยกมากที่สุด ผลปรากฏว่านักรัฐศาสตร์ 90 จากทั้งหมด 170คนยกให้ทรัมป์เป็นผู้นำที่สร้างความแตกแยกที่สุดเคยมีการลอบสังหารประธานาธิบดีมาแล้วหลายหนมีประธานาธิบดีที่ถูกสังหารถึง 4 คนคือ อับราฮัม ลินคอล์น เมื่อปี ค.ศ.1865 รายต่อมาคือประธานาธิบดีเจมส์ การ์ฟิลด์ ในปี ค.ศ. 1881และประธานาธิบดีวิลเลี่ยม แมคเคนลีย์ในปี ค.ศ.1901แต่รายที่โด่งดังสะท้านโลกเห็นจะเป็นประธานาธิบดีรายที่สี่คือ จอห์น เอฟเคนเนดี้ เมื่อปี ค.ศ. 1963 นอกจากถูกลอบสังหารแล้วยังมีประธานาธิบดีที่ลาออกด้วยเรื่องอื้อฉาวคือประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันที่ลาออกในปี ค.ศ. 1974หลังจากกรณีการลอบดักฟังพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามในกรณีที่เรียกว่า คดีวอเตอร์เกทประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งสั้นสุดคือ วิลเลียม เฮนรี แฮร์ริสันประธานาธิบดีคนที่ 9 ของอเมริกาตอนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งก็ค่อนไปทางหนุ่มน้อยแรกแย้มแล้วเมื่อนั่งเก้าอี้ผู้นำได้แค่ 32 วันก็ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคปอดบวมที่ทำเนียบขาว
ถือเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์เรียกได้ว่ายังไม่ทันทำอะไรเป็นชิ้นอันเลยแม้แต่น้อยนอกจากเรื่องประธานาธิบดีแล้วเรื่องราวทำเนียบขาวก็น่าสนใจไม่แพ้กันตั้งแต่เรื่องปริศนาชั้นใต้ดินไปจนถึงวิญญาณประธานาธิบดีอับราฮัมลินคอล์น ซึ่งมีบันทึกและพยานบุคคลยืนยันว่าวิญญาณประธานาธิบดีลินคอล์นเป็นเรื่องจริงเพราะเจอวิญญาณประธานาธิบดีล่องลอยในทำเนียบขาวมาตลอดเรื่องวิญญาณลินคอล์นนั้นมีบันทึกไว้ในประวัติของทำเนียบขาวว่าปีค.ศ. 1941 นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ซึ่งเป็นแขกของทำเนียบขาวถึงกับขอย้ายห้องนอนเพราะเจอวิญญาณลินคอล์นตอนอาบน้ำลูกสาวของประธานาธิบดีทรูแมนเองก็กลัวจนตัวสั่นเพราะมีคนมาเคาะประตูห้องตอนกลางคืนแต่พอเปิดประตูกลับไม่พบใครมีรายงานการปรากฏตัวของวิญญาณลินคอล์นในทำเนียบขาวเป็นระยะ เช่น สมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าแห่งเนเธอร์แลนด์เคยประทับที่ทำเนียบขาวตกกลางคืนได้ยินเสียงเคาะประตูห้องบรรทม เมื่อเปิดประตูพระองค์แทบล้มทั้งยืนเมื่อทอดพระเนตรเห็นร่างประธานาธิบดีลินคอล์นยืนอยู่ตรงนั้นประธานาธิบดีแฮรี่ เอช ทรูแมนเล่าหลายครั้งว่าตกใจตื่นเพราะเสียงเคาะประตูห้องนอนในทำเนียบขาวแต่ทรูแมนไม่เคยเห็นกับตาเหมือนสมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าเท่านั้นเองรู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม เพราะความรู้ทางประวัติศาสตร์คือเงาอดีตที่สาดส่องไปสู่ปัจจุบันและอนาคต วันหยุดในอเมริกา ขอถือโอกาสพักนร้อน
ด้วยการเล่าเรื่องสู่กันฟังเป็นการพักเบรคจากสถานการณ์อันไม่น่าอภิรมย์ในอเมริกาเขียนถึงเรื่องหนักบ้างเบาบ้างสลับกันเป็นการพักเบรคปัญหาสาหัสในอเมริกานั่นเอง
...............................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี