สันนิษฐานกันว่าก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทยรับอิทธิพลจากจีน ประมาณสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นช่วงที่ไทยมีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย และชาวจีนก็ได้นำเอาก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินกันในเรือ โดยต้มในน้ำซุป มีการใส่หมู ใส่ผักและเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย แต่สำหรับคนไทยแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในยุคนั้น และได้นำมาประกอบเป็นอาหารอื่นๆ บริโภคกันจนมีความเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และเริ่มมีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทย
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงชื่อร้าน "แซว" โดยถูกเรียกเพราะคุณพ่อผู้บุกเบิกผู้มีอารมณ์ดี แถมยังเป็นคนชอบแซวลูกค้า จนสนิทกับลูกค้าเก่าไปหมด จึงกลายเป็นชื่อที่สมกับบุคลิกของตัวเอง และยังเก๋ไม่มีใครซ้ำ
ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 เลี้ยวเข้าซอยนิดเดียวอยู่ซ้ายมือ ขายมานานกว่า 40 ปี ยังคงบรรยากาศร้านดั้งเดิมเอาไว้ เห็นได้ตั้งแต่ตู้ไม้ใส่เครื่องก๋วยเตี๋ยวที่เป็นเอกลักษณ์อยู่หน้าร้าน ส่วนสูตรก๋วยเตี๋ยวก็ลองผิดลองถูกเองทั้งหมด โดยเอาใจใส่ลูกค้าว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำให้สามารถปรุงรสชาติออกมาได้ถูกอกถูกใจลูกค้าจนทุกวันนี้
เคล็ดความอร่อยอยู่ที่การใช้วัตถุดิบคุณภาพเน้นของใหม่สดสะอาด โดยไปเลือกซื้อเองทุกวัน ตั้งแต่เนื้อหมู ลูกชิ้น และเครื่องใน เส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีให้เลือกหลากหลาย หรือแม้แต่เครื่องปรุง ตั้งแต่ถั่วที่คั่วเอง น้ำมะนาวก็ใช้แบบคั้นเองสดๆ รวมถึงกรรมวิธีการปรุงน้ำซุปที่ไม่ขี้เหนียวกระดูกหมู ใส่ค่อนข้างมากเคี่ยวไฟรุมๆไปเรื่อยๆ ร้อนตลอด โดยเฝ้าหมั่นช้อนฟองส่วนเกินออก เพื่อให้ได้น้ำซุปใสรสกลมกล่อม
เส้นใหญ่น้ำ
ประเดิมการชิมก๋วยเตี๋ยวน้ำ ผู้เขียนมักจะเริ่มก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เพราะได้ความนุ่ม น้ำก๋วยเตี๋ยวใสไร้กลิ่นหืนรสกลมกล่อม ส่วนประกอบใช้วัตถุดิบคุณภาพที่เน้นของใหม่สดทุกวัน
เส้นเล็กต้มยำ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำของที่นี่มีจุดเด่นที่หมูสับ ที่ทั้งนุ่มและหอม ใส่ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก๊วย เครื่องใน ตับ หัวใจ ไส้อ่อน ครบครัน การปรุงรสชาติจัดจ้านครบรสแทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย มีถั่วที่คั่วเอง น้ำมะนาวคั้นสดใส่ขวด และเครื่องปรุงอื่นๆ ให้ลูกค้าเติมเองเพื่อความสะใจแบบตัวใครตัวมัน
เส้นเล็กแห้ง
เพียงเห็นหน้าตาในชาม คงไม่ต้องจาระนัย ปรุงมาเสร็จอย่างชำนาญ
เกี้ยมอี๋น้ำ
เชื่อว่าคงเคยกินกันแล้ว ตัวเกี้ยมอี๋เหมือนตัวลอดช่องไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันที่ไม่มีสี ทำน้ำใสห้ามต้มยำ รสชาติน้ำหวานใสใสรสชาติไม่ฉูดฉาด ชื่นใจนัก
เส้นหมี่ต้มยำ
เส้นหมี่ค่อนข้างเป็นที่นิยม ที่มาของเส้นเป็นประดิษฐกรรมของชาวจีนฮกเกี้ยน มักทำเป็นเส้นแห้งเมื่อจะใช้ให้แช่น้ำสักครู่จึงนุ่ม ปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามกระบวนการอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ใส่บรรจุภัณฑ์สวยงาม เส้นอร่อยกว่าวิธีการดั้งเดิม ปรุงรสเดียวกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำของที่นี่
เส้นหมี่เป๊าะแห้ง
คือเส้นหมี่ไข่แบบแบน เหมือนเส้นเฟตตูชินี่ของอิตาเลี่ยน แต่หมี่เป๊าะเส้นบางกว่า ปัจจุบันเริ่มหากินได้จากบางเจ้า เครื่องเคราก็เช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยวแห้ง เคล็ดความอร่อยอยู่ที่การรู้จังหวะจะโคนตอนลวกเส้นไม่ให้แฉะเกินไป
บะหมี่แห้ง
เชื่อว่าทุกท่านคงรู้จักเส้นบะหมี่ดีเพราะมีขายทั่วทุกหัวระแหงในประเทศ มีทั้งชนิดใส่ซองสำเร็จรูปหรือตามรถเข็นต่างๆ ส่วนมากใส่หมูแดง เส้นบะหมี่ของที่นี่ก็เหนียวนุ่มกำลังดี กินอร่อยทั้งแบบแห้งและน้ำ
วุ้นเส้นต้มยำ
วุ้นเส้น หรือสมัยก่อนเรียกเส้นแกงร้อน ทำจากถั่วเขียวเป็นหลัก เป็นที่นิยมของสาวๆ ผู้ต้องการจะลดน้ำหนักตัว เพราะมีส่วนผสมของแป้งน้อย
เย็นตาโฟ
คำว่าเย็นตาโฟ มาจากภาษาจีนแคะเรียกว่า ย้องแท้วฟู้ หมายถึง เต้าหู้บ่มสอดไส้หมูสับ (ลักษณะเดียวกับส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวแคะ) ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวจีนแคะโบราณ ก่อนหน้านี้มีผู้สันนิษฐานว่าชาวแต้จิ๋วรับมาแล้วออกเสียงตามสำเนียงแต้จิ๋วว่า เยี่ยงเต่าฮู่ ต่อมาเพี้ยนมาเป็นเย็นตาโฟในปัจจุบัน ที่ต่างจังหวัดเมื่อก่อนต้องมีตามงานวัดจึงได้กิน คนขายจะตั้งแผงมากับรถเข็นราวขึงแล้วจึงพาดผักบุ้งทั้งต้นเรียงราย หมึกแช่ด่างก็ถูกนำมาแขวนเป็นตัวๆ ด้วย จึงมีคนเก่าแก่เรียกว่า “ผักบุ้งไต่ราว” ส่วนที่เพชรบุรีเรียก “เต้าหู้ต้มยำ”
น้ำซอสสีแดงนั้นทำจากเต้าหู้ยี้และข้าวหมากแดงคนจีนเรียก “อั่งคัก” ปรุงรสเปรี้ยวเค็มหวาน เมื่อใส่ในน้ำก๋วยเตี๋ยวเป็นสีแดง คนทำเย็นตาโฟใช้กรรไกรตัดต้นผักบุ้งที่จุ่มน้ำลวก ยังใช้ตัดหมึกแช่ด่างเป็นชิ้นอีกด้วย นอกจากนั้นมีลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย ประดับพอหอมปากหอมคอ ร้านแซวใส่เส้นได้ทุกชนิด เติมน้ำซุปเดียวกับน้ำก๋วยเตี๋ยว ตักซอสสีแดงที่ปรุงอย่างประณีตลงไป รสดีมากขอการันตี
ร้านที่ปากซอยสุขุมวิท 49 ถือว่าเป็นสาขาแรกดั้งเดิม ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี จึงได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นร้านของคนในครอบครัวแยกย้ายกระจายกัน เป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน จนทำให้มีสาขามากถึง 12 สาขา
ก๋วยเตี๋ยว แซว
1/5 ซ.สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร : 02-258-7960
เวลาเปิดบริการทุกวัน
เวลา 07.00-16.00 น.
ถ่ายภาพ แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี และจากอินเตอร์เน็ต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี