เย็นตาโฟเจ๊เกียว ซอยเย็นจิต 3
เอกลักษณ์รสและกลิ่นไม่มีใครเหมือน
เมื่อประมาณสัก 40 กว่าปีก่อน สมัยมาจากต่างจังหวัดเข้ามาเรียนกวดวิชาในกรุงเทพฯ เพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดด้วยกันชวนไปเที่ยวสวนลุมพินี ลงจากรถรางเดินข้ามฟากเข้าสวนประสาคนบ้านนอกเข้ากรุง เดินผ่านเรือกินรีนาวาที่หัวเรือมีรูปปั้นผู้หญิงเปลือยอกล่อนจ้อน สักพักพอเหงื่อซึม เห็นรถเข็นขายเย็นตาโฟรู้สึกหิวจึงชวนกันเดินไปที่หาบติดป้ายว่า “เย็นตาโฟ” ก็ไม่รู้จักว่าคืออะไร เพราะจากจังหวัดบ้านนอกที่เรามาไม่มีของกินชื่อนี้ ยืนเก้ๆ กังๆ มองดูสักพักรู้สึกคุ้นๆ มีผักบุ้งแขวนเป็นราว พร้อมหมึกแช่ด่างอีกหลายตัวห้อยอยู่ ยิ่งเหลือบไปหลังตู้กระจกเห็นขวดโหลใส่ซอสสีแดงตั้งอยู่ จึงแน่ใจว่าต้องขาย “เต้าหู้ต้มยำ” เป็นแน่ จึงสั่ง “เส้นหมี่เต้าหู้ต้มยำ” 2 ชาม คนขายทำหน้างงตอบมาว่า ไม่มีเต้าหู้ต้มยำมีแต่ “เย็นตาโฟ” จึงตกกระไดพลอยโจนบอกว่าเย็นตาโฟก็ได้ เพราะคนเริ่มมอง เมื่อแม่ค้าปรุงเสร็จเอามาส่ง ลองชิมแล้วยิ่งแน่ใจว่ารสอย่างนี้ที่บ้านเราเรียกเต้าหู้ต้มยำนี่นา
เย็นตาโฟ เป็นชื่อเรียกของก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง เหมือนก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทั่วไป แต่ที่มีความเป็นเอกลักษณ์คือต้องใส่ซอสเย็นตาโฟ ลงไปในน้ำก๋วยเตี๋ยว ทำให้น้ำก๋วยเตี๋ยวมีสีแดง มีรสและกลิ่นเฉพาะตัว น้ำซอสนี้เป็นสีแดงที่ทำมาจากเต้าหู้ยี้ ข้าวหมากแดงของชาวฮากก้า (แต้จิ๋ว - อั่งคัก) ซอสมะเขือเทศและซอสพริก กระเทียมดอง พริกป่น ฯลฯ ตามแต่สูตรใครสูตรมัน
ที่มาของชื่อ เย็นตาโฟ มาจากภาษาจีนแคะ (ฮากก้า) เรียก “ย้องแท้วฟู้” (Yong Tau Fu) ภาษาจีนกลางอ่านว่า “เนี่ยงเต้าฟู่” (Niang Dou Fu) หมายถึงเต้าหู้สอดไส้ (ลักษณะเดียวกับก๋วยเตี๋ยวแคะ) ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวจีนฮากก้ามาแต่โบราณ ก่อนหน้านี้มีผู้สันนิษฐานว่าชาวแต้จิ๋วรับมาแล้วออกเสียงตามแบบถนัดว่า “เยี่ยงเต่าฮู่” และเพี้ยนมาเป็นเย็นตาโฟในปัจจุบัน แต่ถ้าพิจารณาคำอ่านภาษาจีนฮากก้าที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็เรียกเพี้ยนเป็นเย็นตาโฟได้เช่นกัน
“ย้องแท้วฟู้” เต้าหู้ยัดไส้ที่เรารู้จักในชื่อ “เต้าหู้แคะ” ที่ยัดไส้เต้าหู้ด้วยหมูสับ เนื้อปลาบด ปลาหมึกบด หรือกุ้งสับ เป็นส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวแคะและเย็นตาโฟ เคียงด้วยปาท่องโก๋กรอบ กุ้งชุบแป้งทอด เลือดหมูหรือเลือดไก่ หมึกแช่ด่าง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันหายไปทีละอย่างสองอย่าง บางร้านน้ำก๋วยเตี๋ยวใส่แค่ซอส ผักบุ้ง และเลือด พอให้ได้กลิ่นอาย
“เต้าหู้แคะ” เป็นวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านโบราณอันเลื่องชื่อของชาวจีนฮากก้าที่สืบทอดยาวนานนับพันปี แพร่หลายไปในประเทศต่างๆ ที่มีชุมชนชาวจีนฮากก้าโพ้นทะเล รวมทั้งในประเทศไทยด้วยนั้น สืบทอดมาเป็นเวลายาวนาน นอกจากจะเป็นอาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อของประเทศจีนแล้ว ยังส่งอิทธิพลถึงประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย และอื่นๆ ที่มีเชื้อชาติฮากก้าอาศัยอยู่ โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียยังได้ขึ้นบัญชี “ย้องแท้วฟู้” YONG TAU FU เป็นหนึ่งใน 100 รายการมรดกวัฒนธรรมอาหารแห่งชาติมาเลเซียด้วย
ส่วนชื่อเรียกก็เช่นกัน เรียกต่างกันไปตามท้องถิ่น บางจังหวัดในภาคกลางเรียก “เต้าหู้ต้มยำ” บางที่ก็เรียก “ผักบุ้งไต่ราว” เพราะแผงหน้าร้านหรือในตู้ก๋วยเตี๋ยวจะเห็นต้นผักบุ้งแขวนพาดราวเป็นแถวๆ พอจะปรุงจึงหยิบมา 4-5 ต้น จับลวกในหม้อต้มน้ำเดือดให้สลด แล้วใช้กรรไกรตัดผักบุ้งลวกเป็นท่อนๆ ใส่ชาม
เย็นตาโฟเส้นเล็ก
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กดูจะเป็นยอดนิยมของลูกค้า ลูกชิ้นปลา และฮื่อก้วย ไม่มีกลิ่นคาว หนังปลาชุบแป้งกรอบเข้าได้ดีกับเย็นตาโฟชามนี้
เกาเหลา
ต้องขอแนะนำเป็นพิเศษสำหรับเกาเหลาเย็นตาโฟของร้านนี้ มีความครบรส รสจัดจนได้กลิ่นอายความหอมของน้ำซุป
เส้นใหญ่
เส้นใหญ่บางที่เข้ากันได้ดีสำหรับเย็นตาโฟน้ำ อีกทั้งน้ำซุปของร้านนี้ใช้กระดูกสันหลังหมู (เอียเล้ง) ถึงวันละ 40 กว่ากิโลกรัม ลำพังน้ำซุปหม้อเดียวเขาทุ่มให้ถึงวันละ 4 พันกว่าบาทเฝ้าเคี่ยวกันเป็นวันคืน โดยไม่ต้องง้อผงปรุงรสใดๆ จึงไม่แปลกใจที่ยังมีกลิ่นอายเหมือนสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน
เกาเหลาแห้ง
กล้วยไข่เชื่อม
เห็นโต๊ะข้างๆ กำลังกินกล้วยไข่เชื่อม ทำให้พลอยนึกอยากกินล้างปากบ้าง อันการเชื่อมกล้วยไข่นั้นเสียเวลามาก ใช้ไฟแรงไม่ได้ ต้องเชื่อมในกระทะทองเหลือง ผู้เชื่อมต้องนั่งเฝ้าค่อยๆ พลิกเพื่อให้ตัวกล้วยไม่แตกเสียโฉม บางคนมีสูตรเฉพาะโดยกินคู่กับไอศกรีมกะทิ เขาว่าเข้ากันราวคู่ตุนาหงัน
ร้านเจ๊เกียวเย็นตาโฟ
การเดินทาง - มาจากแยกซอยเซ็นต์หลุยส์ 3 (สาทร 11)
เลี้ยวเข้าถนนเย็นจิตต์ (ซอยจันทน์ 24)
ตรงไปประมาณ 400 เมตร จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ๊เกียวอยู่ด้านซ้ายมือ
ตรงปากซอยเย็นจิตต์ 3 และอยู่ใกล้กับบริษัทซีพี
โทร : 02 2115453
เวลาให้บริการ : 09.30 - 16.30 น.
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี