การไหว้ครู หรือ การแสดงความสำนึกในพระคุณครูนั้น หยั่งลึกในรากของประเพณีวัฒนธรรมฮินดูมาช้านานแล้ว ได้ไหลเข้ามายังดินแดนสุวรรณภูมิ และ ประเทศไทยในเวลาต่อมา
ในมหากาพย์เรื่อง “มหาภารตะ” (MAHABHARATA) ได้แสดงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์เอาไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง
(โทรณาจารย์ -ภาพจากวิกิพีเดีย)
โทรณาจารย์ (DRONACHARYA) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาวุธและเป็นผู้สั่งสอนศาสตร์แห่งการต่อสู้ให้แก่พี่น้องตระกูลเการพ(KAURAVAS) และ ตระกูลปาณฑพ แต่อรชุน(ARJUNA) จากตระกูลเการพมีความสามารถในทางวิชา และ มีความเคารพต่ออาจารย์มากที่สุด
วิชาที่อรชุนมีความสามารถมากก็คือ การยิงธนู เขามีความสามารถเหนือกว่าลูกชายของโทรณาจารย์ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ โทรณาจารย์ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างให้อรชุนเป็นนักยิงธนูที่เก่งที่สุดให้ได้
(โทรณาจารย์ สอนให้อรชุนยิงธนู - ภาพจากวิกิพีเดีย)
วันหนึ่ง โทรณาจารย์ นำลูกศิษย์หลายคนของเขา รวมทั้งอรชุนเข้าไปในป่าเพื่อฝึกฝนการยิงธนู หมาของบรรดาเจ้าชายทั้งหลายวิ่งไปที่อื่น และเห่าเสียงดัง สักพักก็เงียบเสียงไป
หมาตัวนั้นวิ่งกลับมาหาบรรดาเจ้าชาย โดยมีลูกธนูหลายดอกปักอยู่ในปาก ทำให้มันไม่สามารถจะร้องหรือเห่าได้ แต่ที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นก็คือ หมาไม่ได้รับอันตรายจนถึงชีวิตจากลูกธนูดังกล่าวเลย
(หมาที่ถูกเอกลัพย์ยิงด้วยธนูจนไม่สามารถเห่าได้ แต่ไม่ตาย - ภาพจากวิกิพีเดีย)
แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ธนูในระดับขั้นเทพของผู้ยิงธนูอย่างยิ่ง
โทรณาจารย์ จึงออกเดินหาผู้ยิงธนู และไปพบว่า ผู้ยิงธนูดังกล่าวคือเด็กหนุ่มที่ชื่อ เอกลัพย์ (EKALAVYA) เจ้าชายแห่ง นิชาดาส (NISHADAS) ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งที่มีฐานะทางสังคมที่ต่ำต้อย
เอกลัพย์ รีบตรงเข้ามาอยู่เบื้องหน้าโทรณาจารย์ และก้มกราบด้วยความเคารพ โทรณาจารย์ถามเอกลัพย์ว่า เจ้าเรียนการยิงธนูมาจากใคร
ความเป็นจริงคือ เอกลัพย์เคยแอบเฝ้ามองการสอนยิงธนูของโทรณาจารย์ต่อลูกศิษย์ของเขา แล้วก็นำมาฝึกด้วยตัวเอง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการยิงธนูเป็นทุนเดิม เขาจึงสามารถฝึกฝนการยิงธนูได้จนมีฝีมือสูงส่งขนาดนี้
เอกลัพย์ ยังชี้ให้ดูรูปปั้นที่วางอยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นรูปปั้นของโทรณาจารย์ ที่เอกลัพย์ปั้นขึ้นมา
เอกลัพย์บอกว่า เขาแอบเก็บเอาดินโคลนที่โทรณาจารย์ย่ำเท้าลงไป แล้วนำมาปั้นเป็นรูปอาจารย์ที่เขาเคารพ และบูชากราบไหว้ด้วยความเคารพเสมอควบคู่ไปกับการฝึกฝนของเขา
จนทำให้เขามีฝีมือในการยิงธนูเป็นเลิศอย่างที่เป็นอยู่
โทรณาจารย์ ถึงแม้จะเป็นผู้มีฝีมือในการสงคราม และ ได้รับการเคารพยกย่องอยู่สูง แต่เขาก็เป็นคนที่อาจจะเรียกว่า ไม่ซื่อสัตย์ และ ไร้คุณธรรม
เขาเคยรับปากกับอรชุนมาก่อนว่า จะปั้นให้อรชุนเป็นยอดนักยิงธนูที่ดีที่สุดในโลก จึงถือว่าเป็นสิ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้
เมื่อเห็นเอกลัพย์ มีความสามารถแบบนี้ เขาจึงคิดว่า หากยังมีเอกลัพย์อยู่บนเส้นทางนี้ อรชุนอาจไม่ได้เป็นที่หนึ่งในโลกก็ได้ อีกทั้งเขารู้ว่า เอกลัพย์จะไปทำงานให้แคว้นมคธ ซึ่งจะเป็นฝ่ายศัตรูในอนาคต
(เอกลัพย์ ยอมตัดนิ้วหัวแม่มือของตัวเอง เพื่อบูชาต่อ โทรณาจารย์ ที่เขานับถือเป็นครู แม้จะยังไม่เคยเรียนกับโทรณาจารย์เลยก็ตาม - ภาพจากวิกิพีเดีย)
“เมื่อเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า แต่เจ้ายังไม่ได้ทำพิธีบูชาครู(GURU DAKSHINA)”
กูรูดักชินา ก็คือ การไหว้ครูประมาณนั้น
ด้วยความดีใจ เอกลัพย์ บอกกับโทรณาจารย์ว่า แล้วแต่อาจารย์จะสั่ง เขายินดีจะทำตามทั้งนั้น
“จงตัดนิ้วหัวแม่มือขวาของเจ้าเป็นเครื่องบูชาครูแก่ข้า”
การไม่มีหัวแม่มือขวา ก็คือการจบวิถีของการเป็นนักยิงธนูไปทันที เพราะขาดนิ้วที่จะจับปลายลูกธนู แต่เอกลัพย์ก็ยินดีตัดนิ้วหัวแม่มือขวาของเขาให้แก่อาจารย์โดยไม่อิดเอื้อน
(วิหารขนาดเล็กที่สร้างอุทิศแด่ เอกลัพย์ ในความมีจิตใจสูงส่งในการเคารพครูบาอาจารย์ เชื่อกันว่า สถานที่แห่งนี้ก็คือสถานที่ฝังนิ้วหัวแม่มือของเขา – ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ปัจจุบัน มีวิหารขนาดเล็กสร้างให้แก่ เอกลัพย์ ผู้มีความสัตย์ซื่อต่อครูของตัวเอง
นี่คือปรัชญาของการบูชาครูจากมหากาพย์ “มหาภารตะ” ซึ่งถูกเขียนขึ้นเมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว
สวัสดีครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี