เป็นที่กล่าวกันว่า อาหารฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุด เป็นสุดยอดของอาหารระดับสากลของชาติในยุโรป จนเป็นที่ยอมรับกันในโลกว่า “ฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งนักชิม”
ความพิถีถันในการคัดเลือกวัตถุดิบและกระบวนการปรุงขั้นสูง มีสมดุลอันซับซ้อนจนลงตัว ให้เพลิดเพลินได้กับอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ ปลา ผัก ผลไม้ ขนมปัง ชีส และไวน์ รวมทั้งยังมีอาหารประจำภูมิภาคอยู่ทั่วฝรั่งเศส ตั้งแต่ Cassoulet กาซูเล็ต (เป็นสตูเข้มข้นที่มีส่วนผสมหลักเป็นถั่วขาวกับเนื้อสัตว์หลายชนิด โดยทั่วไปใช้ไส้กรอกหมู เนื้อห่าน เนื้อเป็ด และบางครั้งใช้เนื้อแกะ) แถบตะวันตกเฉียงใต้ไปจนถึง Bouillabaisse (บูยาเบส) สตูปลาแบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดจากเมืองท่ามาร์เซยในภูมิภาคโพรว็องส์ จากชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ในกรุงเทพฯ ภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสอาจจะมีไม่มากแห่ง ส่วนมากจะอยู่ในโรงแรม 5-6 ดาว เมื่อแรก “เลอ บูชอง” เป็นร้านเก่าแก่ที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรมหรู หากแต่อยู่ในตึกแถวแคบๆ ย่านพัฒน์พงษ์ 2 ลูกค้าแน่นเบียดเสียดทุกวันราวกับให้กินฟรี ประมาณ 7 เดือนก่อนร้านได้ย้ายมาที่บ้านมีบริเวณแถวซอยอรรถการประสิทธิ์ ตั้งโต๊ะรอบบ้านกับในร้านติดเครื่องปรับอากาศกว้างขวาง เปลี่ยนสภาพร้านดูโอ่โถงกว่าเก่ามาก เจ้าของร้านมองสิเออร์เสิร์จนั่งคุมตลอดเวลาพร้อมต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง ลูกค้ายังหนาแน่นเช่นเดิมโดยที่อาหารรสชาติดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปร
ร้านใหม่ที่โอ่โถง
อาหารพิเศษประจำวัน
เป็นรายการที่ไม่ได้มีตามปรกติตามรายการที่จดบนกระดานดำ เช่น ไส้กรอกอุ่นจากเมือง ลีอง ขากบ สมองแกะ จานเนยแข็งอันหลากหลาย หอยแมลงภู่อบซอส โทมาฮว็อคหมูย่าง ฯลฯ
Bon appétit!
อภินันทนาการด้วย Canapé
นั่งก้นยังไม่ทันอุ่น เจ้าของร้านก็นำจานเรียกน้ำย่อยด้วยอภินันทนาการมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง เป็น Canapé ขนมปังกรอบทาครีมปลาบด เสียบไม้จิ้มฟันมาทุกชิ้น
ซาวร์โด
หมักแป้งของซาวร์โดให้ขึ้นฟู จนกระทั่งเกิดกลิ่นและรสที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งมีสัมผัสเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหมักเฉพาะตัว เปลือกขนมปังแข็ง ซึ่งผิวด้านนอกจะกรอบแข็ง ส่วนเนื้อในจะนุ่ม อบมาอุ่นๆ พร้อมกับเนย สำหรับกินกับอาหารตามรูปแบบของอาหารฝรั่งทั่วไป
สลัด Nicoise (320 บาท)
หลังจากได้อุ่นเครื่องแล้ว ประเดิมจากแรกด้วยสลัดปลาทูน่า ประกอบด้วยปลากุแลดองเค็ม (Anchovy) พาดบนปลาทูน่า มะกอกดอง พริกหวาน มะเขือเทศ องุ่นสด ผักร็อคเก็ต ราดน้ำสลัด น้ำใส (French Dressing) ช่วยความสดชื่น เรียบง่ายแบบถูกปาก
French Onion Soup (280บาท)
ซุปหอมหัวใหญ่สไตล์ฝรั่งเศส เหมือนเป็นธรรมเนียมเมื่อไปกินอาหารฝรั่งเศส แล้วต้องสั่งซุปอันมีชื่อเสียงนี้ ทำจากน้ำซุปเนื้อเคี่ยวจนมีรสเข้ม ใส่คาราเมลหอมใหญ่สับหยาบ ลอยหน้าด้วยขนมปังอบกรอบหั่นเป็นชิ้นหนา และโรยหน้าด้วยชีสกรูแยร์ (Gruyere Cheese) อันหอมหวน แอบได้กลิ่นบรั่นดีซ่อนในขั้นตอนการปรุงรสกลมกล่อมหรูเลิศ จนเผลอใจว่านั่งกินอยู่ในใจกลางกรุงปารีส
สเต็กทาร์ทาร์แซลมอน(290 บาท)
สเต็กทาร์ทาร์เป็นจานบิสโทรแบบคลาสสิกของฝรั่งเศสที่มีเนื้อบดดิบหรือเนื้อปลาดิบเสิร์ฟพร้อมไข่แดงดิบ จากนั้นปรุงรสเกลือ พริกไทย วู้ดเตอร์ซอส ซอสพริก พร้อมด้วยผักดองหั่นบางๆ หอมแดง เคเปอร์ มัสตาร์ด มายองเนส หรือซอสมะเขือเทศ กับผักใบเขียวให้ความสดชื่นได้เหมือนโชยกลิ่นทะเล แต่มีรสจัดคนละแบบกับปลาดิบญี่ปุ่น
หอยเชลล์ฮอกไกโด (680 บาท)
ใช้โฟมดอกกะหล่ำผสมหญ้าฝรั่นฉีดฟองซอสบนหอยเชลล์จากฮอกไกโดตัวโตที่โดนนาบไฟ จนน่าตื่นตา รสชาติหวานละเอียดละเมียดละไม มีความซับซ้อนอย่างลึกล้ำสมกับการยกย่องให้เป็นสุดยอดอาหารตะวันตก
Salmon Pave (650 บาท)
ชิ้นเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโตทอดพอเกรียม แต่งเติมบนซอสผักขึ้นฉ่ายฝรั่ง มะเขือเทศย่าง แถมวางมะนาวเลมอนซีกหนึ่งสำหรับตัดคาว เติมรสชาติให้เปรี้ยวแหลมอีกหน่อย
อกเป็ดซอสส้ม (790 บาท)
แม้ชาวฝรั่งเศสกินเนื้อสัตว์ แต่ไม่ได้กินในปริมาณมากทุกวัน สำหรับอกเป็ดอบซอสส้มเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สืบทอดกันมาเก่าแก่ อกเป็ดแบบกงฟี ซึ่งเป็นการดองเนื้อเป็ดไว้ในน้ำมันจากเป็ด โดยมากจะนำส่วนน่องเป็ดหรืออกเป็ดมาหมักกับน้ำมันมะกอก เกลือ กระเทียม ใบกระวาน ไทม์ จูนิเปอร์เบอร์รี และผักชีฝรั่ง จากนั้นนำไปแช่ในมันเป็ดที่ละลายแล้ว จึงอบให้สุก (76 – 135 องศาเซลเซียส) กับผิวส้มซอยละเอียดจำนวนมาก เสียบแผ่นขนมปังบางอบกรอบประดับเครื่องเครา มีกลิ่นจางๆ ของเครื่องเทศ เหยาะเหล้าหวานกลั่นจากส้มผสมบรั่นดี (Cointreau) เพื่อดับกลิ่นสาบเป็ด แต่วันนี้เนื้อเป็ดอบสุกเกินไปทำให้เนื้อแข็งไปหน่อย
วัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสเป็นนักนิยมไวน์ มีการจับคู่ไวน์กับอาหารแต่ละชนิด อีกทั้งยังผลิตเหล้าหวานนานาชนิด และบรั่นดี
นอกจากความมีชื่อเสียงของไวน์แล้ว ก็ยังมีชีสมากกว่า 400 ชนิด แต่ละคนกินชีสจำนวนมาก ประมาณ 25 กิโลกรัมต่อปี นิยมกินกับขนมปังทุกมื้อ
อย่างชีสบอร์ดที่มีหลายขนาด ประกอบด้วยชีส 3-30 ชนิด รวมทั้งเครื่องเคียงต่างๆ มากน้อยก็ตามแต่ขนาดของ Board หรือ Platter เช่น แครกเกอร์ โคลด์คัต ถั่ว แยม ผักดอง ผลไม้สดและผลไม้อบแห้ง
มื้อนี้เหมาะสำหรับฉลองในวาระสำคัญต่างๆ เพราะสวยทั้งรูป จูบก็หอมชวนดอมดม สนนราคาอาจจะสูงไปสักหน่อย คงไม่ต้องเสียดายเพราะเป็นโอกาสพิเศษ
Le Bouchon
50 ซอยอรรถการประสิทธิ์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.
เปิด 12:00 น. – 00:00 น. (หยุดวันอังคาร)
โทร. 02 125 2179 , 081-845-0291, 084-078-8711094-3245461
e-mail : lebouchonbkk1@gmail.com
ถ่ายภาพ : แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี
Link เพื่ออ่านคอลัมน์ ตู้กับข้าว ย้อนหลังกว่า 350 รีวิว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี