ถึงจะไม่ได้ติดตามข่าวประกวดความงามมานาน แต่การประกวดนางสาวจักรวาล หรือ Miss Universe ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ครั้งนี้ ผมก็ได้รับรู้ข่าวมาเป็นระยะ เพราะตัวแทนจากประเทศไทย ถูกจัดเป็นหนึ่งในตัวเก็ง ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างอึงคะนึง
ผมรู้จักการประกวดนางสาวจักรวาลครั้งแรกตอนที่ อาภัสรา หงสกุล ได้สวมมงกุฎในปีพ.ศ. 2508 ความจริงก่อนหน้า อาภัสรา ก็เคยมีตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวด 2 คนแล้ว แต่คนแรกที่ถูกส่งไปประกวดคือ อมราอัศวนนท์ ผมยังไม่เกิด ส่วนอีกคน สดใส วานิชวัฒนา ผมเพิ่งเข้าอนุบาล ยังไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง
เหตุที่ผม (หรือคนอีกมากในเมืองไทยยุคนั้น) รู้ว่ามีการประกวดนางสาวจักรวาล เพราะครั้งที่ อาภัสรา ได้เป็นนางสาวจักรวาล ประเทศไทยยังไม่ค่อยมีข่าวสารหลากหลาย และข่าวของ อาภัสรา ก็ถือเป็นข่าวระดับชาติ ครองพื้นที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
แม้ตอนหลังจะมีการวิเคราะห์วิพากษ์กันว่า ผู้หญิงที่มีส่วนสูงเพียง 165 เซนติเมตรอย่างเธอ ได้มงกุฎเพราะเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกาต้องการเอาอกเอาใจไทยที่ไทยให้พื้นที่ในการตั้งฐานทัพเพื่อส่งเครื่องบินไปรบกับเวียดนามเหนือ แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็คงไม่สนใจ และยังภูมิใจกับนางงามระดับนานาชาติคนแรกของประเทศ ยิ่งกว่านั้น อาภัสรา ก็เป็นคนสวยจริงๆ
ปีต่อมา สาวไทยอีกคน จีรนันทน์ เศวตนันทน์ เข้าประกวดรายการนี้ และได้รองอันดับที่ 2 นี่ก็เป็นข่าวใหญ่อีก
แต่หลังจากนั้น ผมก็ไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องการประกวดความงาม นอกจากเห็นข่าวผ่านหูผ่านตาแว้บๆ จนกระทั่งมาถึงปี 2531 ตัวแทนประเทศไทย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนกได้เป็นนางสาวจักรวาลอีกครั้ง คราวนี้ไม่รู้ก็ต้องรู้ เพราะข่าวครึกโครมติดต่อกันเป็นเดือน และเป็นยุคที่สื่อโทรทัศน์กำลังเริ่มมาแรง
ภรณ์ทิพย์ ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่แหละ “เพอร์เฟ็กท์ 10” หน้าตาไทยๆ, ส่วนสูง,บุคลิก, การศึกษา และภาษาสู้ฝรั่งได้ เพราะเธอเติบโตในสหรัฐอเมริกา แต่ก็ซึมซับธรรมเนียมประเพณีไทย
นับจาก ภรณ์ทิพย์ เป็นต้นมา ผมแทบไม่รู้เลยว่าใครเป็นนางสาวไทย ซึ่งตอนหลังมีการแบ่งเป็น มิสไทยแลนด์เวิลด์ และ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แบ่งกันแบบนี้ก็เพราะเป็นเรื่องธุรกิจ บริษัทที่จัดประกวดนางงามระดับสากลไม่ได้ผูกขาดอยู่เจ้าเดียว
มาปีนี้ กระแสของตัวแทนจากประเทศไทย แอนโทเนีย โพซิ้ว (นามสกุลเขาเขียนแบบนี้จาก Porsild) ถูกกระพือแรงจัด ทั้งจากสื่อหลักและสื่อสังคมออนไลน์ แต่ผลการตัดสินในที่สุด มงกุฎไปตกอยู่กับสาวงามจากนิการากัว และ แอนโทเนีย จากประเทศไทย ได้รองอันดับ 1
วันประกวดรอบสุดท้าย ผมตื่นมาตอนที่กำลังเริ่มช่วงถาม-ตอบของสาวออสเตรเลีย, ไทย และนิการากัว เลยนั่งดูเสียหน่อยเผื่อจะเก็บไว้คุยกับใครๆ ได้บ้าง หลังจากฟังคำตอบจากตัวเต็งรอบสุดท้าย แม้เลือดรักชาติของผมจะฉีดซ่านอยู่ในตัว แต่ผมนึกในใจว่า สงสัยจะเสร็จนางงามนิการากัว แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แอนโทเนีย จากประเทศไทยได้รองอันดับ 1 ซึ่งต้องชมว่าเธอและทีมงานทำได้ดีแล้ว เพราะเป็นตัวเต็งมาตั้งแต่ต้น และยังรักษาความเป็นตัวเต็งมาจนถึง 2 คน
สุดท้าย แต่ก็นั่นแหละ คนผิดหวังตีโพยตีพายก็ยังมีอยู่ไม่น้อย
คนไทยเราเวลาเชียร์อะไรมักจะเต็มเหนี่ยว เหตุผลอะไรไม่เอา บางทีกระแสที่ก่อตัวขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราลืมไปว่า ทุกประเทศเขาก็คัดสรรคนสวยจัดๆ มาแล้วเหมือนกัน ฝึกปรือด้านต่างๆ ที่สำคัญสำหรับการประกวดมาเหมือนกัน และการจะเป็นหนึ่งได้ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างผสมกัน
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องประกวดความงาม เรื่องกีฬา, การเมือง หรืออื่นๆ ก็จะเป็นคล้ายๆ กันแบบนี้ เวลาเชียร์ใครก็คลั่งไคล้ไม่ลืมหูลืมตา ข้อเท็จจริงอะไรไม่รับทั้งสิ้น เป็นหนึ่งในหมวดหมู่อคติ คือ ฉันทาคติ ใจลำเอียงเพราะรักใครชอบพอ และสำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อย ต้องจัดว่าเป็นความลำเอียงระดับเข้มข้น
ได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้การมีอคติแบบสุดโต่งกลายเป็นนิสัยประจำชาติ เพราะที่ผ่านมาก็ทำให้แตกกันไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี