ตอนแรกจะใช้ชื่อหัวบทความวันนี้ว่า “ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก”แล้ว แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าต้องมีคนงงว่าสำนวนนี้หมายความว่าอย่างไรเพราะกลายเป็นสำนวนเก่าไปแล้วแถมคนยุคนี้คงไม่รู้จักทั้งมะพลับและตะโก
ช่วงนี้สถานการณ์ในอเมริกาว้าวุ่นเหมือนเดิมฝ่ายการเมืองเกาหัวแกรกว่าจะหาผู้สมัครคนไหนมาลงดีกวาดตาทั่วแผ่นดินอเมริกา ทั้งสองพรรคต่างบ้อท่าแทบไม่มีตัวเลือกใหม่ๆ ให้พลเมืองอเมริกันเลยดูทรงแล้วคงไม่พ้นคู่ผีเน่าโลงผุคู่เดิมนั่นคือลุงทรัมป์ผมเป๋กับลุงโจนั่นแหละ เล่นเอาคนในชาติครางอู้แค่คิดก็เหนื่อยหน่ายในหัวใจแล้ว
ลุงโจโดนชาวโลกก่นด่าในการบริหารงานที่ดูเลื่อนลอยและตกต่ำลงทุกทีทำให้คะแนนนิยมของลุงลดน้อยลงเรื่อยๆแต่ก็ใช่ว่าฝ่ายลุงทรัมป์จะเป็นตัวเลือกที่น่ารักกว่าเพราะคดีความลุงแกก็รอบเอว ล่าสุด รัฐเมนประกาศตัดสิทธิ ‘ทรัมป์’ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้น
นี่ไม่ใช่รัฐแรกที่แบนลุงผมเป๋ หากแต่เป็นรัฐที่ 2 ที่แบน ทรัมป์ โดยอ้างถึงการมีส่วนยุยงปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 งานเข้าล่ะลุงทรัมป์ทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลการกระทำนั้น
ไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปอเมริกาควรแก้ไขความสัมพันธ์กับจีนเสียก่อนเพราะดูทรงแล้วการตัดความสัมพันธ์กับจีนไม่ได้ทำให้อเมริกาดีขึ้นแต่อย่างไร
ทั้งๆที่ปากกระหน่ำด่าจีนไม่หยุดหย่อน พอถึงวันครบรอบ 45 ปีที่จีนและอเมริกามีความสัมพันธ์ทางการทูตลุงโจก็ส่งสาส์นไปโอ้โลมเฮียสีอย่างหวานหยดย้อย ส่วนทางจีนก็ใช่ย่อยเรื่องวาทกรรมคำคมลุ่มลึกไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว
สาส์นของประธานาธิบดี สี อ้างถึงการที่ทั้ง 2 ชาติผ่านพ้นมรสุมต่างๆ ร่วมกันมา และก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายอีกทั้งยังมีส่วนร่วมส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลกโห้ยยยยย..เอาปากกามาวงให้ดูหน่อยสิเฮียสีว่าอเมริกาส่งเสริมสันติภาพโลกตรงไหนและตอนไหน
เรื่องทางการทูตย่อมพูดจาหวานหูไปมา แต่มาดูความเป็นจริงดีกว่าเมื่อไม่นานนี้เอง อเมริกาชี้นิ้วใส่พญามังกรรัวๆ ทั้งเรื่องบอลลูนสอดแนมเรื่องนี้ชาวโลกเฮฮามาก เพราะเล่นใหญ่ขั้นเวอร์ถึงกับปลุกระดมให้มะริกันช่วยกันยิงบอลลูนจนสุดท้ายหน่วยงานรัฐก็ยิงบอลลูนเองเลยท่ามกลางความฮึกเหิมลำพองใจของมะริกัน แต่ชาวโลกส่ายหน้าระอาใจ
นี่ยังไม่รวมสงครามเซมิคอนดักเตอร์และการคำรามใส่ทางการทหารกรณีรัสเซีย-ยูเครนการตัดสัมพันธ์ระหว่างกันลามไปถึงการตัดสัมพันธ์ทางการบินบางเส้นทางด้วย ผู้เขียนจะบินกลับไทยปลายปีที่ผ่านมา แทบหาสายการบินจีนออกจากรัฐตัวเองไม่ได้จนสุดท้ายต้องเกาะปีกสายการบินไต้หวันกลับไทยในที่สุด
แม้เฮียสีกับลุงโจจะย่องมาพบกันที่ซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีกลายแต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์เป็นไปอย่างจืดชืดเหมือนน้ำล้างหม้อกาแฟแถมดูทรงแล้วความระอุยังไม่ยุติลงทันทีทันใด เพราะมีเชื้อไฟมาเพิ่มนั่นคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นในไต้หวันและสหรัฐฯจนถึงการต่อสู้ทางการค้าที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างอเมริกากับจีน
มาดูการเลือกตั้งทางไต้หวันก่อน วันที่ 13 มกราคมไต้หวันจะเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาตามผลโพลสำรวจความคิดเห็น รองประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ และเซียวบีคิมผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลไต้หวันเวลานี้คือผู้มีคะแนนนำ แต่ทั้งคู่ไม่เป็นที่โปรดปรานของพญามังกรเพราะโปรอเมริกาแบบเดียวกับนางไช่อิงเหวิน
เชื่อเถอะว่าพญามังกรจับตามองอย่างใกล้ชิดทุกเม็ดในการเลือกตั้งไต้หวันหนนี้ นี่ขนาดยังไม่เลือกตั้งนะ จีนประกาศปังดังลั่นออกมาเลยว่าการเลือกตั้งของไต้หวันเป็นการเลือกระหว่าง “สันติภาพกับสงคราม”และระบุว่าพรรครัฐบาลไต้หวันเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนอันตรายพร้อมเรียกร้องชาวไต้หวัน “เลือกให้ถูกต้อง” นั่นไง เห็นไหมล่ะ
หันมามองการเลือกตั้งในอเมริกาบ้างอย่างที่เขียนเกริ่นไว้นั่นแหละจ้าว่า หนนี้คงเป็นผีเน่าโลงผุเหมือนเดิมซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่คงผลัดกันด่าจีนรัวๆเพื่อชิงคะแนนนิยมจากพลเมืองตัวเอง ดีเนอะปั่นจนคนอเมริกันเกลียดจีนแล้วเอาความเกลียดชังมาหาประโยชน์ต่อได้อีก
แน่นอนว่าพญามังกรจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกันเฮียสีนั้นไม่ได้ชอบลุงทรัมป์ผมเป๋เท่าไหร่นัก ถึงจะไม่ชอบลุงโจแต่ชังลุงทรัมป์หนักกว่า โดยทางจีนลงความเห็นว่าการกลับมาของทรัมป์ถือเป็นฝันร้ายสุดๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งตกต่ำเลวร้ายถึงขั้นเป็นสงครามการค้าเต็มขั้นในคณะบริหารชุดต่อมาภายใต้การนำของทรัมป์ผู้ซึ่งปากแจ๋วกล่าวหาว่า จีนเป็นต้นตอเชื้อโควิด-19จีนแม้ไม่แฮปปี้กับไบเดนแต่เห็นว่าลุงโจยังพอเดินตามกฎเกณฑ์บ้างเรื่องความสัมพันธ์สองชาติแต่หากทรัมป์กลับคืนสู่ทำเนียบขาวทุกอย่างไม่สามารถคาดการณ์อะไรไม่ได้เลยคือแกบ้าทะลุมิติจนไม่อาจหาเหตุผลใดมารองรับการกระทำนั่นเอง
หยุน ซุน ผู้อำนวยการศูนย์สติมสันในวอชิงตันชี้ว่าภายใต้รัฐบาลทรัมป์อเมริกากับจีนไม่มีการพูดคุยที่มีความหมายอย่างแน่นอนไม่ว่าในเรื่องไหนก็ตาม จะมีก็แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อนคงต้องรอดูกันต่อไปว่าสองเฒ่าในศึกแย่งตั่งนั่ง ใครจะกลับมาอีกหน
..................................................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี