หลังจากที่ศาลอาญาออกหมายจับพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นานนัก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ก็ไปมอบตัว เพราะไม่อาจจะเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้แล้ว เมื่อมีหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับได้ทุกที่ จะหลีกเลี่ยงเหมือนหมายเรียกทั้ง 3 หมายไม่ได้อีกแล้ว
แค่หลีกเลี่ยงหมายเรียกที่ผ่านมา ในฐานะของผู้ที่เป็นนายตำรวจระดับ พล.ต.อ. เคยออกหมายเรียก เคยขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหามานักต่อนักแล้ว ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว
ตอนที่หมายจับออกมา หลายคนก็จินตนาการไปต่าง ๆ นานา เป็นต้นว่า พนักงานสอบสวนจะใช้เวลาสอบสวนนานสักเท่าไร 5 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง แลัวระหว่างสอบสวนยังไม่เสร็จ จะให้ประกันตัวหรือไม่ จะต้องนำตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลหรือไม่
ที่คิดไปอย่างนั้น ก็เพราะเห็นต่างฝ่ายต่างก็เล่นกันแรง ตอบโต้กันแรง เหมือนจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็เป็นปฏิบัติการ ค่อนข้างจะสุนทร ละมุนละไม
พนักงานสอบสวนใช้เวลาไม่นานสักเท่าไหร่ ก็ให้ประกันตัวไปในวงเงิน 1 แสนบาท ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีเวลาไปทำหน้าที่นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงความบริสุทธิ์ และความพร้อมของการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปขอให้ศาลออกหมายจับเสียอีกต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงเพื่อให้ศาลเชื่อว่า
1 คดีมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิด
2 ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวน
และ 3 คดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา
การที่ศาลออกหมายจับ ก็แสดงว่า ที่ออกมาโต้แย้งว่า พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจออกหมายเรียก (หรือแม้กระทั่งทราบว่าพนักงานสอบสวนไปขอหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ก็ส่งคำชี้แจงไปที่ศาลเพื่อคัดค้านการออกหมายจับ )
ที่ถกเถียงกันว่าคดีนี้ เป็นคดีเดียวกันกับคดีมินนี่ ก็ไม่ใช่ นี่เป็นคดีหนึ่งอีกต่างหาก และที่บอกว่าคดีจะต้องอยู่ที่ คณะกรรมการ ปปช. ก็ไม่ใช่อีก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นอย่างไร ?
มีคนเป็นห่วงว่าจะเกิดความวินาศสันตะโรขึ้นกับสำนักงานตำรวจเสียละกระมัง เมื่อมีการกล่าวโทษนายตำรวจระดับเบิ้ม ๆ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็มีคนร้องทุกข์กล่าวโทษ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ถูกออกหมายจับ
ผมก็ยังมีความเห็นเหมือนเดิม คือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ถูกต้อง มิใช่แก้ปัญหาอย่างที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตำรวจทำมา คือ ย้ายทั้ง 2 คน ทั้ง ผู้บัญชาการ และรองผู้บัญชาการ มาอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี (เป็นการชั่วคราว) แล้วให้ทุกอย่างจบ โดยตั้งคณะกรรมการอีกคณะมาสอบสวนข้อเท็จจริง
เรื่องของเรื่องคือ มีคดีเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องปล่อยให้คดีดำเนินต่อไป เพราะเส้นทางของคดีก็อยู่ที่การสอบสวน ถ้าพนักงาน ข้าราชการทำผิดก็ส่ง ปปช. ปปช.ทำเองหรือจะส่งมาให้ตำรวจ ส่งต่อให้อัยการ อัยการฟ้องหรือไม่ฟ้อง จนถึงศาล ซึ่งก็มีศาลชั้นต้น อุทธรณ์ กระทั่งถึง ฎีกา
จะมาเกี้ยเซี้ยกัน อย่างที่คิดว่า ถอนคู่ขัดแย้งมาอยู่ทำเนียบสักพักแล้วจบ
การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องถูกต้อง แต่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องยุติธรรมด้วย ทำไมฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอยากให้เรื่องไป ปปช. ?
แน่ละ กฎหมายเขียนเอาไว้ เรื่องที่เจ้าพนักงานของรัฐ เรื่องที่ข้าราชการทำผิดอาญา เป็นอำนาจของ ปปช. สอบสวน กฎหมายแก้มาเป็นอย่างนี้ เพราะมีความเชื่อว่า หน่วยงานเดียวกัน สอบสวน แล้วจะช่วยกันเอง แต่ที่ไหนได้ ปปช. กลับกลายเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างจะอบอุ่นไว้วางใจได้สำหรับคนบางคน
อย่างน้อย ปปช. ก็ใช้เวลาสอบสวน 2 ปี สอบไม่ทันก็ขยายไปได้อีก 1 ปี ยังมีเวลาหายอกหายใจ
ปปช. ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นสถานที่ที่สร้างความอบอุ่น ให้ใครบางคน หรือบางกรณี เป็นต้นว่า ข้าราชการบางคนแจ้ง ปปช. ว่ายืมรถยนต์มาจากเพื่อน ปปช. ก็เลือกที่จะไม่เชื่อ แต่รัฐมนตรีบางคนยืมนาฬิกาหรูเพื่อนมาเป็นสิบ ๆ เรือน ปปช. ก็เชื่อ บางคนร่ำรวยมาเพราะได้ค่านายหน้าขายพระเครื่องเป็นสิบล้านบาท ปปช. ก็เชื่อ ทั้งที่คนจ่ายค่านายหน้าที่ว่านั้นเป็นคนซื้อพระเครื่อง ไม่ใช่คนขาย
ทำเอาวงการพระเครื่องงงเป็นไก่ตาแตก ก็ตาม
เรื่องอย่างนี้ประชาชนยังคาใจ ปปช. อยู่
คดีที่ตำรวจขอเอากลับมาทำซึ่ง ปปช.จะส่งมาให้ตำรวจทำก็ได้ ปปช.ก็มีมติว่าจะทำเอง ทั้ง ๆ ที่ ปปช. เองก็รู้ว่า มีคดี ที่ ปปช. หมักดองไว้เยอะแยะ
นี่จะไม่ให้ประชาชนคลางแคลงใจ ทั้งตำรวจ ทั้ง ปปช. ได้อย่างไร ว่า พวกท่านทั้งหลายกำลังทำอะไรกัน
เกรงใจประชาชนบ้างไหม ?
ถ้ายังมีความเกรงใจอยู่บ้าง ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ยึดหลักยุติธรรม คุณธรรม ประโยชน์ของชาติ และประชน
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี