ร้านดัง “รัตติยาแจ่วฮ้อน” ประจำจังหวัดมุกดาหารเปิดมานานแล้วกว่า 40 ปี ประยุกต์อาหารได้ลงตัวอร่อยโดยเฉพาะรายการแจ่วฮ้อน เสิร์ฟน้ำซุปหอมมาก คล้ายกับจิ้มจุ่มประฏิรูป อีกทั้งเมนูส้มตำและ ย่างกบก (คือคางหมูย่าง) และทอดมันเวียดนาม ล่าสุดบุกกรุงเทพฯท่ามกลางร้านอาหารล้วนแต่เสือสิงห์กระทิงแรด เพราะมีความมั่นใจในสไตล์อาหารอิสานที่ประยุกต์ได้ลงตัว จึงกล้าเปิดสาขาใหม่อีก 2 สาขา อยู่แถววัชรพล บรรยากาศดีมากติดบึงน้ำ และที่สุขุมวิท 40 ตึกT-ONE Building ถ้าไม่แน่จริงร้านจากภูธรคงไม่กล้ามาเปิดที่เมืองหลวง คงความอร่อย ทั้ง 2 ร้านเหมือนกินที่มุกดาหารไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะที่สาชาวัชรพลได้บรรยากาศชิวๆ ริมน้ำ ยิ่งไปตอนเย็นๆค่ำๆ ได้บรรยากาศโรแมนติก
ปีกไก่ตะกร้าทอด
รายการเรียกน้ำย่อยที่จัดมาอย่างอลังการ กินปีกไก่หมดยังกินตัวตะกร้าที่ทำจากเผือก เรียกว่ากินไม่หลงเหลือเกลี้ยงจาน
ตำไทย
เรียกได้ว่าเป็นส้มตำสำหรับคนเมืองดังที่เราคุ้นเคย แต่จากสีสันนั้นดุดันไม่บันเบา
ตำข้าวเปียกเนื้อน่องลายกับหมูยอ
มุกดาหารสมัยหนึ่งเคยเป็นอำเภอของจังหวัดนครพนม จึงมีความใกล้ชิดกับชาวเวียดนามมาตั้งแต่ติดตามลุงโฮจิมินลี้ภัยการเมืองเพื่อกู้ชาติ ข้าวเปียกคือเส้นก๋วยจั๊บเวียดนามได้เข้ามาผสมผสานส้มตำไทย แทนเส้นขนมจีน ซึ่งเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ตำปลาดุกฟูหมูยอน้ำปลาร้า
อีกหนึ่งรายการที่ผสมสามวัฒนธรรมอาหารเข้ากัน ด้วยปลาดุกฟูภาคกลาง หมูยอเวียดนาม กับน้ำปลาร้า อร่อยจัดจ้านชนิดที่ไม่เคอะเขิน
ตำหลวงพระบาง
รูปแบบมะละกอที่ใช้การฝานแทนการสับแบบชาวลาว โรยด้วยเม็ดกระถินอ่อน เคล้ากันจนได้ความอร่อยอีกอย่างหนึ่ง
ยำไข่แดงหมูยอรวมทะเลระเบิด
ตั้งชื่อจนฟังน่ากลัว ระเบิดนั้นคือลูกชิ้นปลา และไข่เยี่ยวม้านั่นเอง ผสมปนเปกันได้ดีตามฝีมือของกุ๊กเอกประจำร้าน
ยำขนมจีนปลาทูหมูยอน้ำปลาร้า
ฝีมือดีซะอย่างย่อมได้เปรียบ นึกไม่ถึงว่าปลาทูทอดยังเอามายำแบบอิสานได้แซ่บหลาย
ลาบเป็ด
เนื้อเป็ดสับหยาบพร้อมเครื่องใน รสชาติแตกต่างจากลาบของจังหวัดอื่น รสจัดปานกลางเคี้ยวลาบมีความกรุบ ไม่ผิดหวังที่ได้สั่งมาชิม
กุ้งราดครีมมะนาว
จานนี้มาแปลกเหมือนฝรั่งเว้าลาว พอประล่อมประแล่มเข้ากันดีไม่เคอะเขิน
ตำมะกะโรนี
อีกหนึ่งรายการที่กล้าหาญชาญชัย หยิบเส้นมะกะโรนีมาตำแทนบักหุ่ง ชาวอิตาเลียนถ้าได้ชิม ถ้าไม่ชื่นชมก็คงตีอกชกหัวว่าทำไมถึงหากินไม่ได้ที่บ้านเขา ถ้าเอาไปเผยแพร่ที่เมืองอิตาลีน่าจะประสพความสำเร็จได้ไม่มากก็น้อย
กบกหมูย่าง
พยายามค้นหาคำว่า “กบก” ไม่พบ แต่ได้รับการอธิบายว่าคือคางหมู เป็นความแปลกที่เมื่อย่างแล้ว จะคล้ายเนื้อหมูก็ไม่เชิง จะเหมือนกินเอ็นหมู ก็พอเคี้ยวกรุบๆ ได้ความสนุกสนานฮาเฮ
ปลากดคังลวก
ปัจจุบันเป็นพันธุ์ปลาที่ได้แพร่หลายไปทุกแม่น้ำในบ้านเรา เป็นอีกปลาแม่น้ำเนื้อดี จนราคาค่อนข้างแพง เนื้อปลาลวกก่อนผัดกับเต้าซี่กับผักกะหล่ำ พริกหวาน ฟินลิ่งค่อนไปทางจีนผสมลาว
ซุปแจ่วฮ้อนหมู
ต้มน้ำซุปตั้งบนเตาไฟฟ้าดูสะอาด แม้จะรุงรังด้วยบรรดาสมุนไพร ก็ปรุงจนมีรสหอม เมื่อยกมาตั้งกลิ่นหอมฟุ้งจนรู้สึกน้ำลายสอ ได้ชิมคำแรกก็ติดใจในรสชาติ
เนื้อแจ่วฮ้อน
เนื้อน่องลายหมักได้ไม่เหนียว ยกขบวนมาพร้อมกับเครื่องใน มีตับและผ้าขี้ริ้วที่ล้างได้สะอาดไร้กลิ่นคาว มีผักเล็กน้อยใส่จานมาประกอบ
เนื้อปลากะพง
สำหรับผู้ไม่กินเนื้อ เปลี่ยนเป็นเนื้อปลาสดจนแทบไม่ต้องจุ่ม กินดิบเหมือนซาซิมิก็ยังได้
ข้าวผัดกุ้ง
ปิดท้ายด้วยข้าวผัดกุ้ง โปะกุ้งขาวตัวใหญ่สะใจ ลูบท้องที่อิ่มแปร้กลับบ้านหลับอย่างสบายลิ้นสบายพุง
รัตติยา แจ่วฮ้อน-จิ้มจุ่ม (สาขาวัชรพลตัดใหม่)
709 ถนน เทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.10220
โทร.065 535 4526
พิกัด https://g.page/Rattiyarestaurant3?share
ถ่ายภาพ แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี