ในกระบวนเครื่องดองของเมาทุกชนิดแล้ว เบียร์คือน้ำเมาชนิดแรกของโลกเลยทีเดียว ย้อนไปหลายพันปีก่อนในยุคอียิปต์และเมโสโปเตเมีย ปรากฎหลักฐานเป็นรายงานการบันทึกว่าจะแบ่งขนมปังกับเบียร์ให้คนงานในปริมาณเท่าไหร่ต่อวันในยุคเมโสโปเตเมีย และชาวบาบิโลนเป็นชนชาติแรกที่ผลิตเบียร์
ชาวบาบิโลนผลิตเบียร์เพื่อบวงสรวงบูชาเทพเจ้าในตอนแรก แต่คงบูชากันไปมาเลยแอบซดเข้าไปบ้างนั่นแหละ ถึงรู้รสชาติของเบียร์ว่าอร่อยมาก เลยหันมาทั้งดื่มทั้งบูชาในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านร้านถิ่นชาวบาบิโลเนียนก็ต่างดื่มเบียร์อย่างครึกครื้นถึงขั้นเปิดร้านขายเลยทีเดียว ร้านขายเบียร์ยุคนั้นเรียกว่า บิท สิการิ (Bit Sikari)
ส่วนในยุคอียิปต์โบราณก็มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการแจกเบียร์วันละ 4 ลิตรให้คนงานสร้างพิระมิด ที่แท้พิระมิดสำเร็จได้ด้วยแรงงานเบียร์นี่เอง หันมามองชมรมคนรักการเมาฝั่งเอเซียก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ทั้งจีนและอินเดียต่างผลิตเบียร์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน จากนั้นการผลิตเบียร์ก็แพร่กระจายไปทั่วโลกอารยธรรมโบราณ แม้แต่ชาวอินเดียนแดงเองยังผลิตเบียร์ดื่มกันก่อนที่โคลัมบัสจะจอดเรือเทียบฝั่งอเมริกาเสียอีก
ทุกศาสนาห้ามไม่ให้ผู้คนกินดื่มสิ่งมึนเมามากจนเกินควรถือว่าเป็นบาปอย่างหนึ่ง แต่ต้นกำเนิดเบียร์ในเยอรมันนี้กลับตรงกันข้าม เพราะพระเป็นผู้ผลิตเบียร์เองเลย โดยใช้เบียร์เป็นตัวล่อให้คนหันมาศรัทธาในศาสนาด้วยซ้ำ นับว่าเป็นกุศโลบายที่ไม่เลวนัก
คงไม่ต้องพูดถึงยุคปัจจุบันที่เบียร์ยังคงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทุกชาติ แม้สินค้าอื่นๆ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยตามภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง แต่ตลาดเบียร์ยังมีหนทางสดใสและมีลู่ทางเบียดแทรกไปอยู่เสมอเพื่อเธอผู้รักการเมา
ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกนั้น เบียร์จีนนับว่ามีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อใช่ไหม เพราะหลายคนคงคิดว่าน่าจะเป็นเบียร์จากเยอรมันมากกว่าเบียร์จากกลุ่มประเทศเอเซีย เพราะเยอรมันถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเบียร์รายใหญ่ของโลกเลยทีเดียว
มาดูสิบอันดับเบียร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในโลก ใครจะคิดว่าเบียร์จากประเทศจีนลากเกี๊ยะเข้าไปนั่งพุ้ยข้าวต้มบนแท่นอย่างสง่างามถึง 4 ยี่ห้อด้วยกัน
ยอดนิยมอันดับหนึ่งได้แก่ยี่ห้อ Snow ส่วนแบ่งการตลาดล่อไป 5.4 % อันดับสองรำทวนมาติดๆ เป็นยี่ห้อที่เรารู้จักกันดีนั่นคือชิงเตา มาขอเอี่ยวไป 2.8 %
จากนั้นโดนบัดไวเซอร์ไลท์จากอเมริกาเอาตูดปาดหน้าแซงเข้าวินเป็นอันดับ 3 ครองส่วนแบ่งการตลาด 2.5 % และตามมาติดๆ ด้วยพี่ใหญ่บัดไวเซอร์มาแบมือขอส่วนบุญ เอ๊ย ส่วนแบ่งไป 2.3 % เป็นอันดับที่ 4
อันดับที่ 5 นั้นเสียแชมป์ให้เบียร์บราซิลยี่ห้อ Skol ที่ขอแบ่งไป 2.2 % จากนั้นเบียร์พลังมังกรจากจีนยี่ห้อ Yanjing ถึงกระมิดกระเมี้ยนมาต่อแถวขอกินแบ่งไป 1.9 % ในอันดับที่ 6 ส่วนอันดับ 7 เสร็จเนเธอร์แลนด์ที่แอ่นขวดไฮเนเก้นมาฉลองส่วนแบ่งไป 1.5 %
หันมาดูอันดับ 8 บ๊ะ อาเฮียแกเดินยิ้มร่ามาอีกแล้วกับยี่ห้อฮาร์บิน กับส่วนแบ่งการตลาด 1.5 % อันดับ 9 ตกเป็นของบราซิล ด้วยส่วนแบ่ง 1.5 % เช่นกันกับยี่ห้อที่ชื่อคล้ายวัว Brahma ส่วนอันดับ 10 ยกให้ลุงแซมแกไปเถอะ ด้วยยี่ห้อ Coors Light รับไป 1.3 %
คนอเมริกันดื่มเบียร์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน แม้การขายเบียร์ในอเมริกามีกฎหมายข้อบังคับหลายอย่าง เช่น ห้ามขายเบียร์และเหล้าในวันอาทิตย์ ซึ่งกฎนี้ยังบังคับใช้ในหลายรัฐ นอกจากนี้ยังห้ามถือขวดเบียร์หรือกระป๋องเบียร์เดินแกว่งไกวไปตามถนน เพราะถือว่าผิดกฎหมาย จะต้องหุ้มด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาลมิดชิดทุกครั้ง หรือแม้แต่การหิ้วเบียร์สักกระป๋องออกจากรถข้ามถนนไปบ้านเพื่อนก็ยังต้องหาอะไรมาห่อ ไม่ให้เห็นขวดหรือกระป๋องเบียร์
หากตั้งเต็นท์ขายเบียร์ในงานเทศกาลต่างๆ เวลามีคนมาขอซื้อเบียร์สักแก้วก็ต้องขอดูบัตรประจำตัวทุกคนและทุกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อเบียร์ห้ามถือเบียร์เดินไปกินนอกเต็นท์ เพราะถือเป็นกฎข้อบังคับตามกฎหมายอเมริกา
ในห้างร้านต่างๆ คนขายเบียร์ต้องอายุมากกว่า 21 ปีถึงจะขายได้ สมมุติว่าพนักงานคิดเงินอายุไม่ถึง 21 หากลูกค้าซื้อเบียร์หรือเหล้า จำเป็นต้องเรียกพนักงานคนอื่นที่อายุเกิน 21 มาขายให้ลูกค้ารายนั้น หากดึงดันจะคิดเงิน ทั้งที่คิดเงินสินค้าบนสายพานอื่นๆ ก่อนหน้า โทษหนักถึงขั้นไล่ออก
ใครว่าอเมริกาเป็นดินแดนเสรีที่สามารถทำทุกอย่างได้จามใจชอบ ต้องคิดใหม่นะ เพราะทุกบ้านเมืองมีตัวบทกฎหมายที่พลเมืองต้องทำตามอย่างเคร่งครัด แต่ดูเอาเถอะ แต่เดินหิ้วขวดเบียร์ไปตามถนนยังทำไม่ได้ หันไปมองบ้านเราสิ ต่างกันลิบลับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี