เวลาอ่านเรื่องสยองขวัญหรือดูภาพยนตร์แนวหลอนๆ บางครั้งอดถามตัวเองไม่ได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาหลอกคนหรือว่าเป็นเรื่องจริง ภาพยนตร์สยองขวัญหลายเรื่องเขียนบอกไว้ว่ามีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง หลายคนอาจไม่เชื่อว่าเรื่องสุดสะพรึงเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง แต่เชื่อหรือไม่ว่าเรื่องสยองขวัญบางเรื่อง เหมือนฝันร้ายกลายเป็นจริง
ในอเมริกามักมีเรื่องเล่าสยองขวัญเกี่ยวกับตัวตลกทำนองว่า ระหว่างที่พ่อแม่ดูทีวีกลางดึก อยู่ๆ ลูกวิ่งมาหา พ่อแม่เลยถามว่าตื่นมาทำไม ลูกบอกว่ามีรูปปั้นตัวตลกอยู่ในห้อง แล้วตัวตลกจ้องหน้าจนนอนไม่หลับ พอได้ฟัง พ่อแม่ก็งง เพราะไม่เคยมีรูปปั้นตัวตลกในห้องนอนลูกหรือที่ไหนในบ้าน แล้วสิ่งที่ลูกเห็นคืออะไร พ่อแม่เลยโทรเรียกตำรวจทันที เพื่อค้นร่องรอย ปรากฏว่าไม่พบรูปปั้นตัวตลกในห้องนอนเด็ก แต่พบว่ามีร่องรอยบุกรุกจากภายนอก สันนิษฐานว่าคนบ้าปลอมเป็นตัวตลกแอบเข้าบ้านเพื่อฆ่าเด็ก
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในปีค.ศ. 1990 ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริด้า หญิงสาวคนหนึ่งชื่อชีเลีย คีน วัย 27 ปีถูกยิงตาย ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าฆาตกรสวมชุดตัวตลกใส่วิกผมสีส้มทอง คดีนี้ไม่สามารถไขปริศนาได้จนถึงปัจจุบัน
แต่ฆาตกรตัวตลกนี้เทียบไม่ได้กลับฆาตกรต่อเนื่องนาม จอห์น เวยน์ เกซี ในปี ค.ศ.1942 ที่ฆ่าข่มขืนชายหนุ่ม 33 คนต่อเนื่องกันถึงแปดปีในชิคาโก้จนได้รับฉายาว่า “ฆาตกรตัวตลก” เนื่องจากแต่งตัวเป็นตัวตลกไปเยี่ยมเด็กๆในโรงพยาบาลหรืองานกุศล สุดท้ายถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือด
ใครจะคิดว่าอเมริกาก็มีมัมมี่ เรื่องนี้คงต้องตั้งชื่อว่า “มัมมี่คืนชีพ” ชายหญิงคู่หนึ่งไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน ทั้งสองตัดสินใจแวะบ้านผีสิงก่อนกลับบ้าน ในบ้านผีสิงนั้นเอง ทั้งคู่เห็นมัมมี่ที่เหมือนศพเหี่ยวแห้งมากกว่ามัมมี่ที่ทำจากผ้าหรือฟางแขวนอยู่บนชื่อคานประตู
สองหนุ่มสาวหวาดกลัวร่างนั้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะทุกอย่างดูสมจริงเกินดว่าจะเป็นหุ่นผีที่ทำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังหรือกระดูกมนุษย์ ระหว่างที่กำลังจ้องมัมมี่ลึกลับอยู่นั้น แขนข้างหนึ่งหล่นโครมลงมาโดนศีรษะของหญิงสาว เธอร้องกริ๊ดเมื่อพบว่าแขนข้างนั้นมีกระดูกท่อนแขนโผล่ออกมา!
เรื่องสุดสยองนี้กลายเป็นเรื่องจริงในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1976 ทีมงานสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์ซีรีย์เรื่อง The Six Million Dollar Man ยกกองไปถ่ายทำบ้านผีสิงในสวนสนุกลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ภายในบ้านมีมัมมี่ตัวหนึ่งแขวนอยู่
การถ่ายทำดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งลูกมือกองถ่ายคนหนึ่งกรีดร้องสุดเสียง เมื่อแขนข้างหนึ่งของมัมมี่หลุดร่วงลงมาที่พื้น เศษเนื้อเศษหนังที่หุ้มกระดูกมนุษย์กระจายเกลื่อน เมื่อทุกคนในกองถ่ายแหงนหน้าขึ้นมองก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะนั่นไม่ใช่มัมมี่ของปลอม หากแต่ร่างนั้นคือศพคนจริงๆ
มัมมี่ตัวนั้นถูกส่งไปยังห้องชันสูตรในลอสแองเจลีส โดยมีนายแพทย์โธมัส โนกูชิชันสูตรด้วยการลอกขี้ผึ้งซึ่งหุ้มไว้หลายชั้นออก และพบว่าข้างในนั้นเป็นศพชายคนหนึ่งอายุราว 30 ปีเศษ สภาพเสียชีวิตนานแล้วจากการถูกยิง จึงมีการสืบสวนว่ามัมมี่ปริศนาร่างนี้คือใคร
มัมมี่ร่างนี้ในอดีตเป็นหัวขโมยปล้นรถไฟชื่อเอลเมอร์ แมกเคอร์ดี้ ที่ขั้นชื่อว่าเป็นโจรชื่อดังแห่งโอกลาโฮม่า สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่มักออกปล้นรถไฟและธนาคารอยู่แถบโอกลาโฮม่าสมัยที่ยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนยุคเคาบอยเฟื่องฟู ก่อนที่จะจบชีวิตด้วยการดวลปืนหมู่เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1911
ไม่มีใครรู้เหตุผลแน่ชัดว่าทำไมศพโจรที่สร้างความเดือดร้อนอย่างเอลเมอร์ ต้องนำมาทำมัมมี่ไว้เพื่อไม่ให้เน่า ใครเป็นคนทำมัมมี่ และทำไมถึงมาอยู่ในบ้านผีสิงได้
มีผู้สันนิษฐานว่าสัปเหร่อคงมองเห็นช่องทางทำเงิน เลยเก็บมาดองแล้วตั้งไว้มุมห้องเก็บศพ ใครที่อยากเห็นวายร้ายชื่อดังก็ต้องจ่ายเงิน 5 เซนต์ให้กับคนจัดงานเร่ ซึ่งในภายหลังขายต่อให้สวนสนุกอีกทอดหนึ่ง
การสันนิษฐานนี้เป็นเรื่องจริงหรือนิยายยังไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ มัมมี่ตัวนั้นถูกยกให้พิพิธภัณฑ์โอกลาโฮม่าเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1977 และจอมโจรไม่มีโอกาสโชว์ตัวอีกเลย เมื่อมีการส่งศพกลับบ้านเกิดที่โอกลาโฮม่า เพื่อนำไปฝังในสุสานบู๊ตฮิลล์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี