ผมไม่ได้ปฏิเสธนักการเมือง แต่มองไม่เห็นความหวังจากนักการเมืองในปัจจุบัน เมื่อนักการเมืองเข้าสู่อำนาจและได้ผลประโยชน์ก็คิดแต่จะครอบครองอำนาจต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ประชาชนส่วนมากก็ไม่เคยจดจำ ไม่เคยเรียนรู้ ไม่ว่าจะโดนหลอกสักกี่ครั้ง พอมีผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ มาเป็นเหยื่อล่อก็เลือกนักการเมืองขี้ฉ้ออีก
พรรคการเมืองเหล่านี้จึงควบคุมและครอบงำประชาชนอย่างยากที่ใครจะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นได้แล้ว และมันย่อมส่งผลต่อไปในอนาคต หากว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน “ระดับฐานราก” ของปัญหา คำถามจึงเกิดขึ้นกับผมว่า “ประเทศไทยในมือนักการเมืองจะไปทางไหนหรือเป็นอย่างไร?”
ประเทศไทยในมือนักการเมืองจะเป็นอย่างไรก็ดูได้จาก 1.นโยบายพรรค 2.ตัวแสดงหลักของพรรค
พรรคที่มีอำนาจนำการเมืองไทยไปในทิศทางไหนก็ย่อมได้ ในปัจจุบันก็มีแค่ 3 พรรค คือ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย (เป็นพรรคตัวแปร) พรรคที่เหลือจากนี้ก็เป็นแค่พรรคอะไหล่หรือพรรคตัวประกอบเท่านั้น
นโยบายของทั้ง 3 พรรคแทบไม่แตกต่างกัน คือนโยบายประชานิยมที่เอาใจประชาชน มันเป็นนโยบายที่ไม่ต้องใช้สมองและความสามารถในการบริหารมากนัก แถมยังคอร์รัปชั่นได้ง่ายอีกต่างหาก
นอกจากนี้ก็ “ชู” นโยบายพิเศษในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง
อย่างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยชูนโยบายแจก “เงินลม” 10,000 บาท ตามด้วยนโยบายซอฟต์ พาวเวอร์ มันถูกใจคนทั่วไปโดยเฉพาะในชนบท
พรรคก้าวไกลชูนโยบายไม่เอามาตรา 112 ซึ่งถูกใจฝ่ายซ้ายเก่า-ซ้ายใหม่ และพวกดัดจริตซ้ายพวกนี้ไม่ต้องการให้ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ ตามด้วยนโยบายรัฐสวัสดิการ ซึ่งก็ย่อมถูกใจคนรุ่นใหม่ที่หวังจะทำงานน้อยได้เงินมาก มีชีวิตสะดวกสบายจากเงินสวัสดิการ โดยไม่สนใจว่ารัฐสวัสดิการของจริงเป็นอย่างไร ตนต้องสูญเสียหรือแลกด้วยอะไรบ้าง
พรรคภูมิใจไทย ชูนโยบายปลูกกัญชา ซึ่งก็ได้รับเสียงจากคนที่อยากให้ใช้กัญชาเป็นประโยชน์ในทางการแพทย์ รวมทั้งนักเสพและ
นักค้ากัญชาด้วย
ตามปกติ...นโยบายพรรคก็คือการเผยตัวของอุดมการณ์พรรค แต่ความจริงคือ พรรคเพื่อไทยไม่มีอุดมการณ์อะไรเลย นโยบายต่างๆ ที่สร้างมาก็เพื่อชนะการเลือกตั้ง เมื่อชนะการเลือกตั้งแล้วก็เป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ของคนบางคนเท่านั้น
พรรคก็คือบริษัทที่เข้าไปลงทุนในการเมือง -การปกครองประเทศ ที่เรียกกันว่า “ธุรกิจการเมือง”
พรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ที่แปรรูปจากระบอบสังคมนิยม แต่เมื่อแปรมาแล้วก็หาความชัดเจนในทางปฏิบัติไม่ได้ นอกจากภาพฝันอันสวยหรูให้คนเคลิ้ม (ผมเห็นผิดหรือถูกก็ต้องรอพรรคนี้เป็นรัฐบาล)
พรรคภูมิใจไทยนั้นก็เหมือนพรรคเก่าแก่ทั้งหมด ที่มีนโยบายแบบครอบคลุมแทบทุกปัญหาของประเทศ จนดูเหมือนไม่มีอุดมการณ์อะไร นอกจากเป็นรัฐบาล
ตัวนักแสดงหลักของพรรคเพื่อไทยนั้นแม้มีคุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยก็ชูคุณแพทองธารเป็นนักแสดงนำ เพื่อจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในโอกาสที่เหมาะสม
พรรคก้าวไกลชูคุณพิธาเป็นพระเอก และเขาก็แสดงบทบาทพระเอกแบบลิเกได้ดี โชว์ตัวตามงานต่างๆ รวมทั้งโชว์ภาพถ่ายสุดหล่อสุดเท่ในสื่อออนไลน์ให้แฟนคลับปลื้มและกรี๊ดเสมอมา
พรรคภูมิใจไทยมีคุณอนุทินเป็นพระเอก เป็นผู้มีประสบกรณ์ทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดินมายาวนานจนเชี่ยวชาญ แต่ปัญหาของคุณอนุทินก็คือ ไม่กล้าแตกหักกับพรรคใดทั้งนั้น อย่างเก่งสุดก็แค่ปฏิเสธไม่ร่วมเป็นรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบนักแสดงหลักของพรรคทั้ง 3 แล้ว คือ คุณแพทองธาร คุณพิธา และคุณอนุทิน ผมก็เห็นศักยภาพของ 2 คนแรกว่าเก่งแต่โชว์ตัว โชว์วาทกรรมและคำพูดสวยหรูเท่านั้น ผมไม่เชื่อว่าจะมีศักยภาพบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างที่โอ้อวดตัว
คุณพิธา (และพรรคก้าวไกล) นั้นมีความคิดทางการเมืองเหมือนอาหารสำเร็จรูป เช่นเดียวกับถ้อยคำที่เขาประดิษฐ์ขึ้น แต่ก็มีเป้าหมายและแนวทางที่ชัดเจน (ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์) ส่วนคุณแพทองธารนั้นเธอล่องลอยอยู่ในสายลม เพ้อพกไปเรื่อย แม้พูดตามสคริปต์ก็ไม่เข้าใจสาระของมัน เหมือนความคิดของเธอไม่ได้งอกงามในหัวของเธอเอง เธอเป็นแค่นักช้อบปิ้งทางความคิดเท่านั้น
ส่วนคุณอนุทินนั้นมีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างโชกโชน แต่ปัญหาของเขาคือไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และกล้าจะทำสงครามทางความคิดกับพรรคที่มีความคิดตรงกันข้ามกับตนหรือไม่
เมื่อทุกพรรคมีนโยบายประชานิยมเป็นหลัก (ลด แลก แจก แถม) มีนักแสดง 2 อันดับแรกที่อ่อนหัดทางความคิด เป็นคู่แข่งและคู่ร่วมที่จะเป็นรัฐบาล ก็น่าเป็นห่วงประเทศชาติมากแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังสร้างอันตรายให้ประเทศชาติด้วยการละเลยเรื่องคอร์รัปชั่น พรรคก้าวไกลก็สร้างอันตรายให้แก่ประเทศชาติด้วยเรื่อง “เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์” จึงเป็น 2 พรรค 2 แรงแข็งขัน ที่ร่วมกันสร้างอันตรายให้แก่ประเทศชาติ
ระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียง มีสิทธิเสรีภาพที่จะทำลายประเทศชาติได้อย่างเท่าเทียมกัน จึงพอเห็นประเทศไทยในมือนักการเมืองว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี