การให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของคุณทักษิณที่ท้าชนกับ “คนป่า” หรือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณแห่งบ้านป่ารอยต่อนั้น เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่ในร้านกาแฟที่หน้าวัดแถวบ้านผม ว่าอะไรที่ทำให้คุณทักษิณกล้าหาญขนาดนั้น
นักวิชาการและสื่อต่างๆ หลายคนบอกว่า เพราะเขามีเครือข่ายที่แข็งแกร่งแน่นหนา จึงไม่กลัวฟ้ากลัวดิน และได้เห็นกันแล้วนับแต่เขาเหยียบลงบนผืนแผ่นดินไทย บ้างก็ว่าเป็นการดิ้นครั้งสุดท้ายเพราะจนตรอก
ผมก็คิดว่า...เหตุที่คุณทักษิณกล้าท้าชนขนาดนั้นก็เพราะ 1.เขาเชื่อมั่นในฐานอำนาจของตนที่จะใช้ต่อรองกับฝ่ายตรงข้ามได้ 2.เขาหลงอย่างคนแก่ทั่วไป ผสมกับนิสัยที่ชอบโอ้อวดอำนาจ เก็บอารมณ์ไม่ค่อยได้ จึงยิ่งทำให้เขาหลงตนว่ายังมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือใครในแผ่นดินนี้
ไม่ว่าเขาจะมีฐานอำนาจมากน้อยแค่ไหนมีสติสัมปชัญญะมากน้อยเพียงใด เขาก็ท้าชนไปแล้ว นั่นย่อมแสดงว่าเขาต้อง “มีของ” อยู่แน่
ผมนึกไปถึงช่วงเวลา 10 ปี ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจจนกระทั่งลงจากอำนาจ คุณทักษิณประกาศเรื่อยมานับ 10 ครั้งว่าจะกลับเมืองไทยอย่างเท่ๆ แต่ไม่มีใครเชื่อลมปากเขาเลย เพราะเขาขี้โอ้อวดอำนาจ
แต่เมื่อเขากลับมาจริงเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม2566 ทุกคนจึงได้ตาสว่างว่ามีการ “ดีล” กันมายาวนานนับ 10 ปีเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมที่จะเปิดทางให้เขากลับมาอย่างเท่ๆ จนกระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ลงจากอำนาจ พล.อ.ประวิตรยังอยู่ต่อ ก็ยังดีลและข่มกันมาจนวันนี้
เขายังมีของมากกว่านี้ นั่นคือพรรคเพื่อไทยกับคนที่เลือกพรรคของเขา ส่วนคนเสื้อแดงนั้นแม้เสื่อมพลังลง เพราะแตกแยกกันเอง บ้างก็ตาสว่างครั้งใหม่ บ้างก็ชราภาพก็ยังมีอยู่มาก แต่ยากแล้วที่คุณทักษิณจะชี้นิ้วสั่งได้ดังแต่ก่อน
เขายังมีของชดเชยคนเสื้อแดงที่ขาดหายไป นั่นคือพรรคก้าวไกลกับมวลชนเสื้อส้ม
ทำไมเขาจึงมีพรรคก้าวไกลไว้เป็นฐานอำนาจด้วย?
เพราะ 2 พรรคนี้มีเป้าหมายเดียวกันเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ มันชัดเจนมาตั้งแต่ยุคเสื้อแดงเรืองอำนาจแล้ว แต่เขายอมงอเพราะต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ กระนั้นเขาก็ยังดีลกับ (เจ้าของ) พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหลานชายของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มาอย่างเหนียวแน่น จนพรรคก้าวไกลทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านแค่ยิงนกตกปลาไปวันๆ
ความสัมพันธ์ของ 2 พรรคนี้แน่นหนาแค่ไหนดูได้จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 คุณทักษิณเปิดโอกาสให้คุณธนาธรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนสูงกว่าพรรคอนาคตใหม่ แม้ทั้งคู่รู้ว่าจะแพ้โหวต แต่ก็ช่วยยกชื่อชั้นของคุณธนาธรให้สูงเท่าเทียมกับนักการเมืองระดับนำทุกคน
มาถึงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้คะแนนอันดับ 1 พรรคเพื่อไทยได้อันดับ 2 เขาทำ หนังสือบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) หรือเป็นพันธมิตรกัน แต่แล้วก็ยอมแยกกันชั่วคราว เพราะเขาต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ
แยกกันโดยสร้างเหตุผลให้พรรคก้าวไกลไม่รับข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย (โดยคุณชาดา ไทยเศรษฐ์) ในวันประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่าให้พรรคก้าวไกลยุติเรื่องมาตรา 112 แล้วพรรคภูมิใจไทยจะลงคะแนนให้คุณพิธา (โดยไม่ต้องพึ่งคะแนน สว.) แต่คุณพิธายืนกรานไม่รับข้อเสนอ ต่อมาคุณเศรษฐาจึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ใครสั่งคุณพิธาหรือพรรคก้าวไกลให้ไม่รับข้อเสนอ?
เมื่อดีลของเขากับคุณธนาธรที่ฮ่องกงยังคงมีอยู่จนปัจจุบัน เขาจึงพร้อมจะนำพรรคเพื่อไทยกลับไปร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ถ้าตนเองไม่ล้มหัวฟาดพื้นในศาลเสียก่อน
เมื่อต้นสัปดาห์นี้มีข่าวออกมาว่า นักร้องที่ติดคุกด้วยคดีมาตรา 112 บอกว่าพรรคเพื่อไทยให้เงินสนับสนุนแก่พวกกล้าชนกับมาตรา 112 ถ้าจริงก็ยิ่งแน่ใจได้ว่า 2 พรรคนี้ร่วมแรงแข็งขันกันอยู่เบื้องหลังกิจกรรมของพวกเสื้อส้มตลอดมาอีกต่างหาก!
เหตุผลหลักที่เล่ามานี้ ทำให้ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลคือปีกแห่งอำนาจ 2 ข้างของคุณทักษิณ
ปีกที่ทำให้คุณทักษิณ “มั่นใจและหลง” ว่าจะโบกบินเหนือแผ่นดินนี้ได้อย่างเสรี อยากจะทำอะไรกับใคร แค่ไหนอย่างไรก็ย่อมได้
นักการเมืองนั้นกระสันอำนาจมากกว่าคนทั่วไป อะไรที่ร่วมกันได้ พวกเขาก็ร่วมกันวันใดที่ขัดผลประโยชน์และอำนาจกันก็จะแยกทางหรือแตกหักกันไป เพราะในใจของทุกคนก็คิดจะเป็นเบอร์ 1 ของประเทศด้วยกันทั้งนั้น
วันหนึ่งเมื่อคุณทักษิณพ่ายแพ้หรือหมดอำนาจต่อรอง พรรคก้าวไกลก็จะยืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง
นักการเมืองไทยประกาศกันมานานแล้วว่า “การเมืองนั้นไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”
สมเด็จพระนโรดม สีหนุ บอกไว้ว่า “อำนาจนั้นให้ความกระสันถึงขีดสุดยิ่งกว่าการเมคเลิฟ”
ลีออน ยูริส เขียนไว้ในนวนิยายของเขาว่า “ไม่มีศัตรูหน้าไหนยิ่งใหญ่ไปกว่าตัวเอง”
คุณทักษิณกำลังพิสูจน์ด้วยชีวิตของเขาว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ในเร็ววันนี้!
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี