ระบอบการเมืองโลกร่วมสมัยมีอยู่ 5 ระบอบใหญ่คือ 1.ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ 2.เผด็จการ3.ระบอบสังคมนิยม 4.รัฐสวัสดิการ 5.ระบอบประชาธิปไตย ส่วนในแต่ละระบอบแตกต่างกันอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและเหตุปัจจัยของสังคมในแต่ละประเทศ
การเมืองไทยนั้นผ่านทั้ง 3 ระบอบมาแล้ว ยกเว้นระบอบสังคมนิยมกับรัฐสวัสดิการ และมาหยุดอยู่ที่ระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุผลว่าเป็นระบอบที่เปิดโอกาสให้ทุกคน
มีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน นักวิชาการบอกว่าเป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุด
แต่ระบอบประชาธิปไตยไทยกำลังจะเป็นระบอบที่ดีน้อยที่สุด เพราะมันได้สร้างและสะสมปัญหาต่างๆ เรื่อยมา นับแต่มีการยึดพระราชอำนาจจากพระมหากษัตริย์ในปี พ.ศ. 2475 จนมาปะทุในปัจจุบัน คือรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะมีแต่ความวุ่นวาย ปั่นป่วน สับสน เกือบทั้งหมดก็มีเหตุจากนักการเมืองในพรรคและเจ้าของพรรค ตัวนายกรัฐมนตรีกลายเป็นหุ่นเชิดของเจ้าของพรรค รัฐบาลไร้น้ำยาจะแก้ปัญหาใดๆ ได้ โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพของประชาชน
ส่วนเจ้าของพรรคเมื่อกลับเข้าประเทศไทย ก็สำแดงอำนาจของตนอย่างไม่เห็นหัวใครในประเทศนี้ จึงยิ่งทำให้สังคมสับสนสิ้นหวัง ว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป และต้องทำอย่างไรจึงจะ “ปกติสุข”
ปัญหาต่างๆ ที่ทับถมและเกิดขึ้นใหม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย จนทำให้สังคมสับสนสิ้นหวังนั้นก็มีเหตุหลักอยู่ที่ 1.วิธีการเลือกตั้ง 2.นักการเมืองและผู้เลือกตั้ง
1.วิธีการเลือกตั้ง การเปิดโอกาสให้ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันหมดถ้าไม่ผิดกฎหมายนั้น เป็นการสร้างปัญหามากกว่าการสร้างสรรค์ เพราะการเลือกตั้งไม่มีวิธีการ “คัดสรร” ผู้รับสมัครเลือกตั้งและผู้เลือกตั้งที่จะได้คนสุจริต มีความรู้ มีความสามารถจริงเป็นตัวแทน
2.นักการเมืองและผู้เลือกตั้ง เมื่อทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ดังนั้น จึงมีการซื้อเสียง ขายสิทธิ์ มีการชี้นำโดยผู้มีอำนาจ การเลือกตามกระแสสังคมที่ถูกปั่นให้แห่แหนว่านักการเมืองคนนั้น - คนนี้เก่งและดี
นักการเมืองเสนอนโยบายเป็นเหยื่อล่อ ผู้เลือกตั้งก็ชอบเหยื่อ ไม่ได้ดูว่าเป็นเหยื่อจริงหรือปลอม
การเปิดโอกาสให้ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน แม้มีเจตนารมณ์ที่ดียิ่ง แต่มันกลับเปิดโอกาสให้คนชั่วและความชั่วมีอำนาจเหนือคนดีและความดี
ทั้งวิธีการเลือกตั้ง นักการเมืองและผู้เลือกตั้งล้วนไม่ได้แสดงและสนองเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้คนดีคนสุจริต มีความสามารถได้เป็นตัวแทนของประชาชน แต่กลับได้คนที่มีคุณสมบัติตรงกันข้าม
เมื่อคนชั่ว คนทุจริต คนไม่มีความสามารถได้ครองอำนาจ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่เขาจะเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของตน ประชาชนเป็นเพียงผู้รอคอย ได้ประโยชน์จากพวกเขาบ้างไม่ได้บ้างก็ทนอยู่กันไป
ผมจึงเห็นว่าการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งโดยทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันนั้นเองที่นำพาประเทศไทยมาถึงทางตันในวันนี้
เพราะมันเปิดโอกาสให้คนสารพัดชนิดมีอำนาจ เมื่อคนชั่วมีอำนาจก็โกงชาติ ขายชาติเซ้งชาติและทำลายชาติ
เราจึงเห็นนักการเมืองบางแก๊งมุ่งแต่จะเป็น “สุนัขรับใช้ประเทศมหาอำนาจ” ด้วยการทำลายขนบธรรมเนียมประเพณี และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อพวกตน
จะได้ครองอำนาจประเทศ ภายใต้การบงการของประเทศมหาอำนาจและลัทธิอุดมการณ์ของตน
อีกแก๊งหนึ่งก็ตั้งหน้าตั้งตาจะทำลายชาติ เซ้งชาติ เพื่อเจ้าของพรรคและอำนาจวาสนาของตน คิดโครงการหรือนโยบายขึ้นมาก็เพื่อให้มีช่องโกงและกอบโกยได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
แก๊งอื่นๆ ที่เป็นตัวประกอบก็มีคนที่ตั้งใจดี แต่ไม่มีพลังพอจะเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาได้ บางคนก็ต้องดูว่าเมื่อทำสิ่งใดแล้วจะสะเทือนถึงอำนาจวาสนาของตนหรือไม่จึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไร ได้แต่สร้างภาพว่าตนเป็นคนดี อีกส่วนหนึ่งก็อยู่ไปวันๆ เป็น “ท่านผู้ทรงเกียรติ” คอยรับเงินเดือนและปฏิบัติตามคำสั่งของท่านผู้มีอำนาจของพรรค
การเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง 1 สิทธิ์ 1 เสียงเป็นสรณะ จึงหมุนวนอยู่แค่นี้ แต่มันหมุนวนแบบน้ำวน มันจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างลงสู่ห้วงลึกจนประเทศไทยและคนไทยสำลักน้ำหรือไม่ก็จมน้ำตายในที่สุด
ระบอบเองก็ดูดกลืนตัวมันเองด้วย!
คำถามก็คือ จะแก้ปัญหาอย่างไร
ผมไม่มีความสามารถจะตอบ แค่รู้ว่าต้องแก้ปัญหาที่คน เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศเป็นอย่างไร ทั้งนักการเมืองและผู้เลือกตั้ง
แต่ผมก็เห็นว่าในสังคมไทย ในครอบครัว และในสถาบันการศึกษายังมีคนที่มีจิตสำนึกดีอยู่อีกมาก แต่มากพอที่จะสร้างคนที่มีจิตสำนึกดีไว้เป็นฐานรากของประเทศได้ทันกับสารพันปัญหาหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี