มีความหลังกับร้านนี้มายาวนาน ตั้งแต่ประมาณ 50 ปีก่อน เป็นร้านตึกแถวห้องเดียวที่แยกลาดพร้าวตัดกับถนนรัชดาภิเษกที่เพิ่งตัดเสร็จใหม่หมาดๆ ตั้งตู้แขวนห่านพะโล้ 3-4 ตัว ริมทางเดินตั้งเตาปิ้งหมูสะเต๊ะ ห่านพะโล้รสชาติดีสู้ร้านห่านแถวเยาวราชได้อย่างทัดเทียม อีกทั้งหมูสะเต๊ะก็หมักปิ้งได้รสของหมูสะเต๊ะชั้นดีเท่าที่เคยกินจากแหล่งอื่น มีโอกาสยกสมัครพรรคพวกไปกินกันบ่อย เพราะใกล้กับที่ทำงานเดิม อีกทั้งสมัยนั้นถนนลาดพร้าวรถรายังไม่คับคั่ง จึงนั่งเสวนาเฮฮากับน้ำเก็กฮวยมีฟองกันติดลมจนดึกดื่น
วันดีคืนดี ร้านมีการปรับปรุงกันขนานใหญ่ ชั้นบนมีการติดแอร์เย็นสบาย ด้านอาหารก็เพิ่มอีกหลากหลายดุจภัตตาคารจีนแต้จิ๋วชั้นดี มีรายการอาหารแบบโต๊ะจีนในราคาเพียงโต๊ะละสองพันบาท ทั้งนี้มีหูฉลามน้ำใสขนาดครีบยาวเป็นคืบ ที่ตื่นตาตื่นใจคือกุ้งขี้เมา เฮียเซี้ยจับกุ้งเป็นๆ ขนาดนิ้วชี้ให้ดิ้นมาในชามแก้วปิดฝาจนเหล่าขี้เมาสงสัยว่าเป็นการทรมานสัตว์ บรรดากุ้งแสบตาหรือเมาเหล้ากันแน่ แล้วยกเตาถ่านตั้งหม้อซุปเดือดพล่านวางกลางโต๊ะ จากนั้นเหล่าจอมโหดตัวใครตัวมันต่างคีบกุ้งเป็นๆ ลวกอย่างไม่เกรงบาปกรรม ยังเป็นเจ้าแรกที่ทำ “ก้ามปูยักษ์นึ่งซีอิ๊ว” จนดังกระฉ่อน ยังมีปลาดิบ “ฮื้อแซ” แบบแต้จิ๋ว น้ำจิ้มบ๊วยใส่น้ำพริกเผา ถั่วลิสง น้ำมันงาไม่ด้อยกว่าเจ้าดังแถวเยาวราช รวมทั้งหูฉลาม กระเพาะปลา เป๋าฮื้อก้อน จนถึงปลิงทะเล ปลาจาระเม็ด และปลาเต๋าเต้ย ราดหน้าฮ่องเต้ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นเมนูเจ้าสัวทั้งสิ้น
ต่อมาเมื่อกิตติศัพท์ปากต่อปากร่ำลือไปไกล ประกอบกับเป็นยุคโชติช่วงชัชวาล สมาชิกวงแชร์ของบรรดาเถ้าแก่ อาเฮีย ต่างแย่งกันจองห้องกินโต๊ะจีนพร้อมกับการประมูลแชร์กันสนุกสนาน กิจการรุ่งเรืองซื้อที่จอดรถใต้อาคารที่ชั้นบนเป็นดิสโก้เธค ต่อมาวันหนึ่งของยุคต้มยำกุ้ง ร้านเซี้ยอันตรธานหายไป ด้วยความเสียดายได้แต่ทำใจปลงอนิจจาว่าชาตินี้คงไม่พบกันอีกแล้ว จู่ๆ วันหนึ่งได้ผ่านปลายถนนโชคชัย 4 เห็นป้ายชื่อร้านเซี๊ยโภชนา นึกเอะใจขอแวะชิมก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้า แม้จะอร่อยสู้ร้านเดิมไม่ได้ แต่คงกลิ่นอายเก่าให้ระลึกชาติได้ ที่น่าตกใจคือราคาถูกถึงถูกมาก หูฉลามน้ำแดงราคาเพียง 300 บาท อาหารจานเดียว เช่น ข้าวหน้าไก่ โกยซีหมี่ 50 บาท ข้าวผัดปลาเค็ม 50 บาท ข้าวต้มปลา 55 บาท อ้อส่วน 120 บาท กระเพาะปลาผัดแห้ง 120 บาท เป็นต้น ถูกแพงตามแต่วัตถุดิบที่เอามาปรุง ไม่เอาเปรียบลูกค้า ที่น่าทึ่งคือปริมาณอาหารที่ล้นจานกิน 4-5 คน ไม่หมด ให้มามากเหมือนโต๊ะจีน สนนราคาคืออาหารริมทาง (Street Food) อย่างแท้จริง
ขาห่านอบหมี่ (220บาท)
ปัจจุบันขาห่านพื้นบ้านไม่เพียงพอต่อการบริโภค จึงต้องสั่งขาห่านแช่แข็งมาจากโปแลนด์ ล้วนแต่ขาใหญ่ เอามาพะโล้แล้วทอดจนพองเอาเส้นหมี่ไข่ซุกข้างใต้ ความหอมหวานของขาห่านไหลซึมซับลงในเส้นบะหมี่ แทะกันเพลิดเพลิน ให้ขามากถึง 5 ขา ไม่รู้ว่าขายราคานี้ได้ยังไง
กระเพาะปลาน้ำแดง (80 บาท)
กระเพาะปลาหรือส่วนถุงลม ถูกแพงจากปลาหลายชนิดตามสรรพคุณทางยาที่แตกต่าง ร้านนี้ใช้กระเพาะแบบหลอดตุ๋นจนนุ่ม ให้มากขนาดเสิร์ฟตามโต๊ะจีน
เป๋าฮื้อเส้นเจี๋ยนน้ำมันหอย (250 บาท)
เป๋าฮี้อเส้นที่ว่าไม่ใช่หอยเป๋าฮื้อที่ราคาแพงหากแต่ทำจากหอยหลอด (razor clams) กระป๋องละไม่แพงนัก แต่กลิ่นอายและรสสัมผัสค่อนข้างคล้ายคลึง เมื่อเอามาปรุงแบบหอยเป๋าฮื้อก็พอจะไปวัดไปวาได้ตอนเช้าๆ
อ้อส่วน (120 บาท)
หอยนางรมปากจีบตัวขนาดหัวแม่มือผัดไข่กับแป้งละลายน้ำได้พอดีไม่เหลว ไม่เหนียวจนเป็นกาว เคล็ดความอร่อยต้องใช้หอยตัวสดมากๆ ประกอบกับฝีมือที่ล้อกับไฟรู้ว่าตอนไหนควรอ่อนแก่ไฟแค่ไหนอย่างไร
ปลากะพงราดพริก (150 บาท)
ปลากะพงชุบแป้งทอด จนผิวเกรียมแต่เนื้อในนุ่ม จุดเด่นอยู่ตรงน้ำราดสามรสที่ลงตัว แม้แต่ลูกเล็กตัวซนยังชอบ
ราดหน้าฮ่องเต้ (50 บาท)
บะหมี่ทอดมาจนกรอบแล้วราดด้วยเหล่าของทะเลปลาทอด ปลาแซลมอน กุ้งชีแฮ้ ผักคะน้า ประมาณกินราดหน้าของฮ่องเต้
กระเพาะปลาผัดแห้ง (120 บาท)
กระเพาะปลามีนับร้อยชนิด ตั้งแต่ตัวเล็กขนาดเหรียญ หลอดเล็ก หลอดใหญ่ จนถึงกระเพาะปลาเก่าเก็บราคาชิ้นละหลายหมื่นบาทสำหรับทำยาบำรุง สำหรับจานนี้เป็นกระเพาะปลากะพงจึงขายได้ในราคาจานละ 120 บาทได้
เส้นใหญ่กรอบราดหน้าหมู (45 บาท)
เกิดมาเพิ่งเคยพบที่เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทอดจนเป็นข้าวเกรียบ ราดหน้าผักคะน้าปอกเปลือกกับเนื้อหมูหมัก อีกหนึ่งเทคนิคของการปรับแปลงก๋วยเตี๋ยวราดหน้าแบบใหม่อันน่าชมเชย
เส้นใหญ่ราดหน้าหมู (45 บาท)
น้ำราดใสหนืด หอมหวานบางๆ เนื้อหมูหมักนุ่มแทบไม่ต้องเคี้ยว คะน้าปอกผิวหมดเสี้ยน ทั้งไม่เหม็นเขียว และกรอบกำลังดี
ผัดซีอิ๊วฮ่องเต้ (150 บาท)
เป็นผัดซีอิ๊วฉบับฮ่องเต้ เครื่องเคราแน่นๆ ทั้งกุ้ง ปลา หมู ทั้งยังใช้ผักบร็อคโคลี่เพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก
เต้าหู้ทรงเครื่องน้ำแดง (150 บาท)
เป็นเต้าหู้น้ำแดงที่ร้านใจป้ำ ใส่กระเพาะปลา เต้าหู้อ่อนทอด กุ้งสดตัวโต หมึกแช่ เห็ดหอม ชนิดไม่อั้น ร้านนี้เชี่ยวชาญการทำน้ำแดง จึงมีรสประสานกลมกลืนและกลมกล่อม
ข้าวต้มปลากะพง (55 บาท)
ข้าวต้มปลาน้ำใสใส่เนื้อปลากะพง ครึ่งค่อนชาม เนื้อหั่นชิ้นหนา ปลาสด เห็ดหอม ไร้กลิ่นคาว ราคาชามละ 55 บาท ไม่เข้าใจว่าขายราคานี้ได้ยังไง
ข้าวผัดปู (60 บาท)
ข้าวผัดเป็นตัวสวยได้กลิ่นกระทะจางๆ ผัดเคลือบกับไข่ร่วนทั่วถึง เนื้อปูก้อนโรยหน้าข้าวเป็นเรื่องเป็นราวในราคาที่หาไม่ได้ง่ายๆ ยากดีมีจนต่างได้กินเหมือนๆ กัน โดยไร้ชั้นวรรณะ
กล่าวโดยสรุป แม้รสชาติจะอ่อนลงจากร้านดั้งเดิม แต่คงกลิ่นอายความขลังให้พอระลึกชาติได้ ที่น่าตกใจคือราคาถูกถึงถูกมาก เมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่ล้นจานกินได้เหมือนอาหารโต๊ะจีน ร้านใหม่นี้ไม่ใหญ่โตอัครสถานเหมือนสมัยเมื่อ 30 ปีก่อน โดยตัวเถ้าแก่เซี๊ยได้ยกร้านและชื่อร้านให้กับกุ๊กคนเดิมผู้ทำงานกับเถ้าแก่มานานด้วยเชื่อใจหากแต่บรรดาข้าวของเครื่องใช้ไม่ได้เป็นเกรดเอเหมือนสมัยก่อน ขอเพียงแค่อร่อยถูกปาก สนนราคาไม่แพง ก็เป็นอันใช้ได้ ทำให้ภัตตาคารระดับเดียวกันถึงหนวดกระดิก
“เซี๊ยโภชนา”
65 ซอยโชคชัย 4 แยก 73 ถ. โชคชัย 4 แยก 73แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร (ปากซอยโชคชัย
โทร : 0851270068, 0869261911
พิกัด : 13°49'17.4"N 100°35'39.3"E
ถ่ายภาพ : แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี