จะว่าไปคดีฆาตกรรมในอเมริกามีมากมายก่ายกอง แต่มีอยู่คดีหนึ่งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ ผ่านมาร้อยกว่าปีแล้วยังปิดคดีไม่ได้ ยังคงความลึกลับจนถึงทุกวันนี้ คดีนี้คือคดีวิลลิซก้า
เมืองวิลลิซก้าเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรน้อยมากในรัฐไอโอว่า โดดเดี่ยวกลางทุ่งข้าวโพดและฟาร์มปศุสัตว์ มีถนนเพียงสองสายเท่านั้นที่พาดผ่านเมือง บ้านพักอาศัยทุกชายคามองดูไม่แตกต่างกันมากนัก ยกเว้นบ้านหลังหนึ่ง แม้ว่าจะทาสีขาวทั้งหลัง แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยปริศนาอันดำมืด
สังคมในเมืองวิลลิซก้าเป็นสังคมเล็กๆ ที่รู้จักกันทั่วทั้งเมือง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี คศ.1912 จัดเป็นคดีเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ ฆาตกรใช้ขวานสังหารสมาชิกในครอบครัวมัวร์ทั้ง 6 คน และยังฆ่าเด็กอีก 2 คนที่มานอนค้างในบ้าน คดีฆาตกรรมอันน่าสะพรึงนั้นยังไม่มีคำตอบว่าใครคือฆาตกรมาจนทุกวันนี้
ร่างแหลกเละ 6 ศพที่พบชั้นบน เป็นสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวมัวร์ ส่วนอีก 2 ศพเป็นเด็กหญิงลูกเพื่อนบ้านที่มานอนค้างคืนในบ้าน ทุกศพถูกขวานจามกระโหลก จนจำสภาพแทบไม่ได้ แต่ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ แม้ร้อยกว่าปีล่วงมาแล้วก็ตาม ฝาผนังกำแพงทุกด้านยังคงเก็บงำความลับในคดีฆาตกรรมโชกเลือด
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ.1912 วันนั้นมีงานวันเด็กซึ่งเด็กเกือบทุกคนในเมืองจะมาร่วมงานนี้ และมีกำหนดเลิกงานในราวสามทุ่มครึ่ง
ซาร่าห์ มัวร์ แม่บ้านวัย 39 ปี นำลูกๆ ไปร่วมงานวันเด็กที่โบสถ์แห่งนี้ทั้งสี่คน โจไซอา หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “เจบี” สามีของเธอเตรียมงานอยู่ที่โบสถ์ เธอแค่มีหน้าที่พาลูกๆ คือ เฮอร์มัน แคธเทอรีน บอยด์ และพอล มัวร์ไปร่วมสนุกที่โบสถ์ นอกจากนี้ยังชวนลูกเพื่อนบ้านอีก 2 คนคือ ลีน่าและไอน่า สติลลิงเกอร์ไปโบสถ์ด้วย ทั้งไอน่าและลีน่าจะค้างที่บ้านของครอบครัวมัวร์นั่นเอง เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว ไม่สะดวกที่จะกลับไปบ้านของทั้งคู่ที่อยู่ไกลออกไป
เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 10 มิถุนายน คศ.1912 แมรี่ แพคแฮม เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงรู้สึกผิดปกติ เพราะ ไม่มีสมาชิกคนไหนในครอบครัวมัวร์ออกมาทำกิจกรรมยามเช้าเหมือนเช่นทุกวัน ไม่ว่าจะทุบประตูกี่หน ทั้งบ้านยังเงียบกริบ ไม่มีวี่แววตอบรับกลับมาแต่อย่างใด ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล เพราะบ้านของพวกมัวร์ไม่เคยเงียบกริบถึงเพียงนี้ จึงโทรศัพท์หาพี่ชายของเจบีมัวร์ที่ชื่อ รอส มัวร์ เอากุญแจอีกชุดมาเปิดประตู จากนั้นผลักประตูเข้าไปในบ้าน
รอสเห็นประตูห้องนอนชั้นล่างแง้มอยู่ พบร่างน้อยๆ สองร่างโชกเลือดที่เริ่มจับตัวเป็นคราบคล้ำบนเตียง ตามผนังและพื้นเปรอะไปด้วยเลือด แมลงวันและมดตอมไต่ไปตามซาก รอสแทบไม่ได้พิจารณาเลยว่าร่างแหลกเหลวสองร่างนั้นเป็นร่างของใคร ถลันออกมาตะโกนเรียกแมรี่ให้โทรตามนายอำเภอทันที เพราะเกิดการฆาตกรรมขึ้นในบ้านหลังนี้ !
นายอำเภอมาถึงที่เกิดเหตุในชั่วพริบตา หลังจากพิสูจน์หลักฐานแล้วพบว่าศพที่พบในห้องนอนชั้นล่างนั้นคือ ลีน่า สติลลิงเกอร์ วัย 12 และน้องสาวคือ ไอน่า วัย 8 ขวบ เมื่อขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนก็พบอีก 6 ศพ ซึ่งทุกศพถูกจามด้วยขวานจนกระโหลกแตกเลือดชุ่มโชกนองเตียงและพื้นห้อง บางส่วนกระเด็นไปเปรอะอยู่ตามผนังและเก้าอี้
ศพที่พบคือ โจไซอา มัวร์ วัย 43 ซาร่าห์ มัวร์ วัย 39 เฮอร์มานวัย 11 แคธเทอรีน วัย 10 ขวบ บอยด์ วัย 7 ขวบและพอลวัย 5 ขวบ
หลังการสืบสวน ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นฆาตกรที่ลงมือสังหาร เพราะหลักฐานทั้งหมดในบ้านถูกทำลายไปหมดแล้ว ดังนั้นฆาตกรจึงยังคงลอยนวลอยู่นับจากวันนั้นเป็นต้นมา แม้ว่าทางการจะจับฆาตกรไม่ได้ก็ตาม
หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมสยอง บ้านหลังนี้ถูกเปลี่ยนมือหลายเจ้าของจนกระทั่งปี คศ.1994 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของดาร์วินและมาร์ธา ลินน์ ซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้ ปรับปรุงซ่อมแซมเพราะสภาพบ้านทรุดโทรมมาก
ตั้งแต่มีการซ่อมแซมปรับปรุง บ้านครอบครัวมัวร์แห่งเมืองวิลลิชก้าก็เปิดให้ค้างคืน เพื่อท้าพิสูจน์สิ่งลี้ลับและวิญญาณ มีเสียงร่ำลือกันว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านผีสิง ทำให้คนจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมาพิสูจน์ความหลอนเฮี้ยนสยองภายในบ้านจนขนหัวลุกไปตามๆ กัน แถมมีหลักฐานให้เห็นอย่างชัดเจนว่าวิญญาณทั้ง 8 ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้
การฆาตกรรมอันทารุณนี้ได้กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สะเทือนขวัญที่สุดในรัฐไอโอวาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เพราะยังคงเป็นปริศนาว่าใครทำและทำไปด้วยสาเหตุใดกันแน่ แม้กระทั่งมีการกล่าวโทษไปว่า ผู้ก่อเหตุเป็นปีศาจร่างใหญ่ถือขวานเดินไปมาในบ้าน น่าแปลกที่ว่าจนบัดนี้ไม่มีการจับผู้ต้องหาได้เลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี