สงครามโลกครั้งที่ 3 กำลังจะระเบิดอยู่รอมร่อ ทั้งแนวรบรัสเซีย-ยูเครนในยุโรปตะวันออก และยิว-ปาเลสไตน์ในตะวันออกกลาง บ้านเรายังหาวิธีกำจัดยุงจากการเมืองน้ำเน่าไม่เจอ
ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เย็นวันนั้นเลยก็มีนักการเมืองดังๆ แห่แหนไปที่พักของนักโทษ ทักษิณ ชินวัตร (สถานะขณะนั้น) ยังกับมีงานปาร์ตี้ใหญ่ เหล้ายาปลาปิ้งเพียบ คาราโอเกะพร้อม
ไม่รู้ว่าใครโทรตามใคร หรือใครรีบเสนอหน้าไปเองแบบนกรู้
และค่ำวันนั้นมีข่าวออกมาว่า นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ซึ่งมีชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะได้รับการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้เป็นนายกฯคนใหม่ แทบจะแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
วันรุ่งขึ้น ความเปลี่ยนแปลงมาถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการเรียกประชุมพรรคร่วมรัฐบาลที่ตึกชินวัตร 3 มีคนใหญ่ๆ ของพรรคเหล่านั้นที่ไปร่วมประชุม มีความเห็นร่วมกันว่า ตำแหน่งนายกฯต้องตกเป็นของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อีกหนึ่งแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย
โดยไม่มีใครพูดถึงเหตุผลว่า นายชัยเกษม อายุมากและสุขภาพไม่สู้ดี และไม่มีใครพูดเช่นกันว่า นางสาวแพทองธาร ยังไม่น่าจะพร้อมด้วยวัยและวุฒิภาวะ เหมือนเมื่อคืนวานกินเหล้าเมาปลิ้นจนจำอะไรไม่ได้
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีใครไปบอกเจ้าของพรรคหรือเปล่าว่า พรรคอาจจะถูกยุบได้ เพราะมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับพรรคการเมือง ตรงที่ว่า
“การกําหนดข้อบังคับในลักษณะที่เป็นการให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมจะกระทํามิได้”
ประมาณว่า ถ้าไม่รู้จักอาย ก็ควรเกรงใจกฎหมายบ้างนะครับนาย
หรือจริงๆ เป็นแค่เกมเกมหนึ่ง โยนชื่อ นายชัยเกษม ออกมาถามทางก่อน แต่ของจริงวางไว้ล่วงหน้าแล้ว
ในที่ประชุมวันนั้นเปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพและเสียง นักการเมืองดังๆ ทั้งหัวหงอกหัวดำก็โชว์สกิลในการแสดงความชื่นชม “ว่าที่นายกฯคนใหม่” อย่างไม่ขวยเขินสะเทิ้นปาก ฟังแล้วชวนเคลิบเคลิ้ม ราวกับบ้านเมืองเรากำลังจะได้เทพธิดามาโปรด หรือได้อัฉริยะที่จะมาใช้ความฉลาดบริหารบ้านเมืองไปสู่ความรุ่งเรืองชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
พอข่าวออกมาชัดเจนแล้วว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทยคือแพทองธาร ชินวัตร ก็เกิดปรากฏการณ์วิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ทั้งในสื่อหลักและสื่อโซเชียล
ขณะที่เสียงจากกองเชียร์พรรคเพื่อไทย ดูหงอยๆ และไม่ค่อยออกมาตอบโต้ฝั่งตรงข้ามสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะไม่มั่นใจในตัวบุคคล หรือยังงงๆ เหมือนเดินชนเสาไฟฟ่า หัวมึนไปหมด นึกไม่ทันว่าจะช่วยโต้แย้งตรงไหนดี เพราะดิจิทัล วอลเล็ต ที่ลงทะเบียนไปแล้ว จะยังไงต่อ?
พรรคฝ่ายค้านใหญ่ก็ไม่หือไม่อือ คำอย่าง “สืบทอดอำนาจ” หรือ “กดทับ” ที่เคยไหลลื่นออกจากปากก็ติดขัดไปหมด ทั้งลูกพรรคและเจ้าของพรรค เหมือนกำลังกัดเล็บตัวเองอยู่
แต่ถึงตรงนี้ก็แน่นอนแล้วว่า ประเทศไทยปัจจุบันจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ส่วนจะมีความสามารถแค่ไหนก็รอดูกันไปก่อน อย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน
เพียงแต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยแสดงความกังวลว่า ถ้ามีคนคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง อีกไม่นานก็จะมีปัญหาทำให้ประเทศไทยเสื่อมถอยลง เพราะจากประวัติศาสตร์ช่วงสั้นๆราว 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ก็บอกชัดเจนแล้วว่า คนที่อยู่หลังไม่ได้มีความสามารถอะไรจริงๆ นอกจากความสามารถในการยักย้ายถ่ายเทผลประโยชน์ บ้านเมืองก็จะมีแต่ความเสียหาย
หนี้สินของประเทศ 7 แสนล้าน จากโครงการจำนำข้าว น่าจะเป็นประจักษ์พยานได้ดี
แต่ไม่ต้องไปเครียดอะไรมาก เพราะประเทศไทยเปลี่ยนนายกฯมา 30 คนแล้ว ประเทศก็ยังอยู่ได้ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจ หรือตื่นตูมฟูมฟายอะไรกับการพ้นตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน เขาอาจจะเล่นกันเองก็เป็นได้
ใครก็ตามที่ส่ง เศรษฐา มาเป็นนายกฯ อาจจะเป็นคนเดียวกับที่ทำให้ เศรษฐา ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ
จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะยุบพรรค หรือหลุดจากตำแหน่ง โดนกันบ่อยๆ ยิ่งดี นักการเมืองจะได้อยู่ในทำนองคลองธรรม รู้จักเกรงกลัวบาปกรรมกันบ้าง ไม่ทำตัวเหนือกฎเกณฑ์ จนกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดปฏิวัติรัฐประหาร
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี