ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวคนกินยาดองแถวคลองสามวา ตายไป 6 คน ผู้ป่วยเกือบ 40 คน ในจำนวนนี้มีอาการโคม่า 7 คน ฟื้นกลับมาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเหมือนเดิมหรือเปล่า
ข่าวการกินยาดองตายน่าจะดังกว่านี้แต่ก็ถูกกลบไปโดยข่าวการเมือง ซึ่งไม่ได้มีสารประโยชน์อันใดต่อชีวิตคนไทย และสื่อส่วนใหญ่ก็ให้เวลาอยู่สัก 2 วัน น้อยกว่าข่าวดาราเลิกกัน
เรื่องราวคร่าวๆ ก็คือ มีคนทำเหล้าเถื่อน ส่งให้กับคนผสมยาดองขายกระจายตามซุ้มยาดองต่างๆ หลายแห่ง เหล้าเถื่อนนี้ไม่ได้ใช้เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ที่เกิดจากการนำเอาพืชมาหมักเพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล จากนั้นจึงเปลี่ยนจากน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ ใช้ในการผลิตเหล้าถูกกฎหมายขายทั่วไป
แต่ไปใช้เมทานอล หรือ เมทานอล เมทิลแอลกอฮอล์ ของเหลวใส ระเหยง่าย เป็นพิษ ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิง ใช้ในงานช่าง และอุตสาหกรรม รวมถึงผสมน้ำมันเบนซิน ทั้งๆ ที่รู้กันว่าเมทิลแอลกอฮอล์มีอันตราย แต่พวกทำเหล้าเถื่อนก็มักเอาผสมลงไปเพราะมีราคาถูก ลดต้นทุน
กรณีที่เป็นข่าวนี้หนักกว่านั้น ห้องแล็บของกรมสรรพสามิตยังตรวจเจอสารอีกชนิดในยาดองและเหล้าเถื่อนที่เอามาผสมคือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ เป็นสารที่ใช้ทำความสะอาดพื้นผิว-ท่อ ใช้ฆ่าเชื้อในทางการแพทย์และเป็นตัวทำละลายในงานอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย ไม่ตายก็ถือว่าหัวแข็งมาก
ย้อนหลังไปในเมืองไทยก่อนหน้านี้ ยาดองก็เหมือนส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตคนไทย จะเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมก็ยังได้ ร้านยาดองหรือซุ้มยาดองเจ้าเก่าที่ทำมานาน จะใช้เหล้าขาวที่มีขายทั่วไปผสมกับตัวยาต่างๆ แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน แต่ก็มีบ้างพวกเห็นแก่ได้ที่เอาเมทิลแอลกอฮอล์มาผสมมีคนตายเพราะกินเหล้าเถื่อนนับไม่ถ้วน เพียงแต่ไม่เป็นข่าว
ตอนนี้แตกต่างออกไป เพราะซุ้มยาดองกลายเป็นการค้าที่เรียกเท่ๆ ตามยุคสมัยก็ต้องว่า มีแฟรนไชส์ กระจายไปทั่วทุกมุมเมือง รวมถึงร้านคาราโอเกะแบบตลาดล่าง (ทั้งที่เป็นห้องแถวเล็กๆ คูหาเดียว หรือที่เป็นเพิง) โดยมีการส่งจากผู้ผลิตรายใหญ่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าใช้สารอะไรผสมเข้าไปบ้าง จนในที่สุดก็เกิดเหตุเศร้าสลด
นอกจากมีคนตายแล้ว คนที่ป่วยอยู่เมื่อหายแล้วก็ไม่แน่ว่าจะสมประกอบเหมือนเดิมหรือเปล่า ตับไตไส้พุงและสมองอาจจะถูกทำลายจนเสื่อมสภาพ
การเปิดซุ้มยาดองเกลื่อนกลาดไปหมดนี้ รับรองได้ว่าร้อยละร้อยผิดกฎหมาย อย่างแรกเลยคือไม่มีใบอนุญาตขายสุราแน่นอน ส่วนไม่มีใบประกอบการค้า หรือไม่เสียภาษี นั่นเป็นเรื่องปกติ
ถ้าเป็นสมัยก่อนลุงๆ ป้าๆ ทำยาดองขายเป็นโต๊ะเล็กๆ สำนักงานเขต, สาธารณสุขหรือสรรพสามิต ก็คงไม่อยากไปยุ่ง เพราะจะหาได้วันละสักกี่ตังค์กันเชียว แต่ตอนนี้มันกลายเป็นธุรกิจที่มีการกระจายตัวเกลื่อนกลาด มีสายส่งจากแหล่งผลิต นอกจากคนขายแล้ว ต้องมีคนจากบางหน่วยงานที่คุณก็รู้ว่าเป็นใคร-ได้ผลประโยชน์
ข่าวคนตายจากการไปดื่มกินที่ร้านยาดองนี้ ทำให้ผมนึกถึงข่าวเมื่อสัก 20 กว่าปีก่อนในอินเดีย ที่มีคนตายเพราะกินเหล้าเถื่อนผสมด้วยเมทิลเกือบร้อยราย และเชื่อว่าทุกวันนี้ก็น่าจะยังมีอยู่ ซึ่งเป็นคนเบี้ยน้อยหอยน้อย อยากสันทนาการตนเอง แต่มีกำลังซื้อได้แค่เหล้าราคาถูก
และทำให้รู้สึกว่า ถึงพ.ศ.นี้แล้ว เมืองไทยยังปล่อยให้คุณภาพชีวิตของคนรายได้น้อยเหมือนอยู่ในบ้านป่าเมืองเถื่อน ชีวิตตกอยู่ในกำมือของพวกเห็นแก่ได้
ถ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย คอยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ความรู้อยู่สม่ำเสมอว่า อะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ (ไม่เฉพาะเรื่องยางดอง) และเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดไปพร้อมๆ กัน เรื่องแบบนี้ก็จะลดลง ความสูญเสียแบบโง่ๆ ก็จะลดลงด้วย
ใครก็ตามที่มีส่วนทำให้คนอื่นต้องตายหรือพิการ ควรจะได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก เพื่อไม่ให้มีการเอาเยี่ยงอย่างกัน ซึ่ง “ใคร” ที่ผมว่านี้ หมายถึงคนที่ผลิตเหล้าเถื่อนและยาดองด้วยสารอันตราย และคนที่ปล่อยปละละเลยให้เปิดกันอย่างเสรี
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี