ยามราตรีในป่าสนไพน์บาร์เรนส์รัฐนิวเจอร์ซีย์คืนนั้นดูไม่แตกต่างจากคืนอื่นๆ แต่สำหรับครอบครัวหนึ่งที่ตั้งแคมป์ใกล้แม่น้ำเดลาแวร์กลับรู้สึกประหลาดๆ ขณะที่พ่อเดินหาไม้สนมาสุมไฟไล่ความมืด ได้ยินเสียงกรอบแกรบๆ เหมือนมีใครเดินตามมา พลันสะดุ้งสุดตัว เลือดในกายเย็นเฉียบ เมื่อเห็นร่างหนึ่งมีหัวเป็นม้า ลำตัวเหมือนมังกร บนหัวมีเขาสองอัน ทั่วร่างปกคลุมด้วยขนสีดำสนิท เมื่อร่างประหลาดเห็นว่าอีกฝ่ายเห็นเข้า ก็แผดเสียงร้อง กระพือปีกโผบินขึ้นฟ้าหายวับไปกับตา
ตัวประหลาดที่ว่านี้เป็นตำนานลึกลับของอเมริกามานานแล้ว เช่นเดียวกับสัตว์ประหลาดในทะเลสาบล็อคเนสในสวิตเซอร์แลนด์ แต่สัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในป่าสนไพน์บาร์เรนได้รับการยืนยันว่ามีผู้พบเห็นมาโดยตลอดร่วมศตวรรษ สัตว์ในตำนานตัวนี้คือปีศาจเจอร์ซีย์
ปีศาจเจอร์ซีย์เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานพื้นถิ่นของชาวรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา บางครั้งถูกเรียกว่าปีศาจลีดส์ สูงประมาณ 4-6 ฟุต มีส่วนหัวคล้ายม้าหรือแพะ แต่ลำตัวยาวคล้ายงูหรือมังกร ปีกขนาดใหญ่คล้ายค้างคาว มีหาง 2 แฉก มีเขางอกบนหน้าผากเล็ก ลำตัวปกคลุมด้วยขนสีดำ เชื่อว่าอาศัยอยู่ในป่าสนที่ชื่อไพน์บาร์เรนส์ อันเป็นป่าสนขนาดใหญ่ในพื้นที่ตอนใต้ของรัฐนิวเจอร์ซีย์
สัตว์ประหลาดตัวนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของรัฐนิวเจอร์ซีย์มายาวนาน ชาวบ้านอ้างว่าปีศาจตนนั้นเป็นต้นเหตุทำให้พืชผลไม่ออกและเกิดความแห้งแล้ง วัวหยุดให้นมและสัตว์ในฟาร์มหายไป ไม่เพียงแค่เกษตรกรท้องถิ่นที่เห็นสัตว์ประหลาด แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ นักธุรกิจ พนักงานไปรษณีย์ หรือแม้แต่ตำรวจก็เคยอ้างว่าพบเห็นทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีพยานที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถืออย่าง โจเซฟ โบนาปาร์ต ผู้เป็นพี่ชายของนโปเลียน โบนาปาร์ต ก็เคยเห็นสัตว์ประหลาดตนนี้มาแล้ว นอกจากบันทึกของโจเซฟ โบนาปาร์ต ยังมีบันทึกอีกหลายเล่มที่กล่าวถึงการพบเห็นปีศาจเจอร์ซีย์
ปี ค.ศ.1858 มีการบันทึกการพบปีศาจเจอร์ซีย์มากขึ้นในแถบแอตแลนติก มีรายงานการอ้างถึงการพบเห็นสิ่งที่รูปร่างคล้ายกับปีศาจเจอร์ซีย์ในต่างรัฐ โดยเฉพาะที่นิวยอร์ก ต้นฤดูใบไม้ผลิคืนหนึ่งชาวบ้านพบสิ่งมีชีวิตคล้ายงูยักษ์บินบนท้องฟ้า ปีเดียวกันก็มีรายงานการพบเห็นสัตว์ประหลาดหลายแห่งในทะเลสาบฮเวนก้าและนิวยอร์ก
ปีค.ศ.1909 สวนสัตว์ฟิลลาเดลเฟียประกาศว่ายินดีจะให้เงิน 10,000 ดอลลาร์หรือสามแสนห้าหมื่นบาทแก่ใครก็ได้ที่จับจากสัตว์ตัวนี้มาได้ มีพยานอ้างว่าเห็นปีศาจเจอร์ซีย์บินบนรางรถไฟไฟฟ้า แล้วหายตัวไปอย่างลึกลับ อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ.1958 เรื่องราวของปีศาจเจอร์ซีย์คืนสู่ความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง เมื่อกรมคุ้มครองสัตว์พบโครงกระดูกบางส่วนพร้อมขนและขาหลังของสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของสัตว์ชนิดไหน
ในปี ค.ศ.1925 หนังสือพิมพ์ เดอะ บริเจตตั้น อีฟนิ่ง นิวส์ รายงานว่าผู้จัดการฟาร์มชื่อวิลเลียม ฮายแมน ยิงสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ไม่สามารถบอกได้ว่าคือสัตว์ประเภทไหน หลังไล่ออกจากเล้าไก่ของตนหลายหน สิ่งมีชีวิตที่ว่านี้มีมีกรงเล็บ นิ้วเป็นพังผืด มีเขี้ยวขนาดใหญ่ มีสัดส่วนแปลกๆ เหมือนผสมกันระหว่างสุนัขและหมาป่า หลังจากถูกยิงก็กระโดดหนีไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานการพบซากสัตว์ตายในลักษณะแปลกๆ อีกมากมาย ปี ค.ศ.1960 ชาวบ้านในวินสโลว์ นิวเจอร์ซีย์ พบซากวัวเน่าเปื่อยพาดบนสายโทรศัพท์ ทุกคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของปีศาจเจอร์ซีย์ที่คาบวัวไปกินบนที่สูง เพราะไม่มีสัตว์ตัวไหนมีพฤติกรรมแบบนั้น ขณะที่หลายรัฐก็มีการพบซากสัตว์ในลักษณะเดียวกัน ยิ่งทำให้แน่ใจว่าเป็นฝีมือของปีศาจเจอร์ซีย์มากยิ่งขึ้น
ปี ค.ศ. 2008-09 ในรัฐนิวเจอร์ซีย์และเพนซิลเวเนียมีรายงานว่ามีคนพบเห็นสิ่งมีชีวิตลำตัวสีเทา บินได้ หน้าเหมือนม้า และมีปีกเหมือนค้างคาวมองดูน่ากลัว ส่งเสียงแหลมแปลกๆ และมีรายงานว่าชายคนหนึ่งถูกไล่ล่าโดยสัตว์ประหลาดนี้ด้วย
ในปี ค.ศ. 2012 กลุ่มนักล่าปีศาจอ้างว่าสามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพปีศาจเจอร์ซีย์ได้ แต่ภาพนี้ไม่ได้ถูกปล่อยเผยแพร่ออกมา เพราะผู้เชี่ยวชาญดูแล้วเชื่อว่าเป็นหมีสีน้ำตาลมากกว่า ส่วนเว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษก็รายงานเหตุประหลาดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เมื่อชาวเมืองเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดลอยอยู่เหนือสนามกอล์ฟ ทุกคนที่เห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า น่าจะเป็น "ปีศาจเจอร์ซีย์" ตามตำนานที่เล่าขานกันมา
ไม่ว่าปีศาจเจอร์ซีย์จะมีจริงหรือไม่ แต่ผู้คนในละแวกนั้นก็ยังหวาดกลัวและไม่อยากพบเจอแม้แต่น้อย จึงปล่อยให้ตำนานเรื่องนี้กลายเป็นปริศนาต่อไปในป่าสนไพน์ บาร์เรนส์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี