ลอร์ด เมาท์ แบตเทน ถึงเดลีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1947 เขาต้องปฎิบัติภารกิจคืนอิสรภาพให้แก่อินเดียในฐานะประเทศเอกราชประเทศเดียวภายใต้เครือจักรภพอังกฤษ เส้นตายที่รัฐบาลอังกฤษขีดให้แก่ เมาท์ แบตเทนก็คือ วันที่ 30 มิถุนายน 1948
หมายความว่า เมาท์ แบตเทน มีเวลา 1 ปี กับ 3 เดือนโดยประมาณ
(บอร์ด วาเวลล์ - ภาพจากวิกิพีเดีย)
ลอร์ด อาชิบัลด์ วาเวลล์(LORD ARCHIBALD WAVELL) นายทหารตาเดียว และ ผู้สำเร็จราชการแห่งอินเดียในขณะนั้นให้การต้อนรับเมาท์ แบตเทน ที่บ้านพักพร้อมกับมอบตราสัญลักษณ์ของตำแหน่ง ผู้สำเร็จราชการแห่งอินเดียให้เขา
(โมฮัมหมัด อาลี จินนาห์-ภาพจากวิกิพีเดีย)
ลอร์ด วาเวลล์ กล่าวคำแรกว่า “ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านถูกส่งมาปฎิบัติภารกิจนี้”
“คุณคิดว่าผมไม่ควรได้รับตำแหน่งนี้เหรอ” เมาท์ แบตเทน ถาม
“หามิได้ ผมชื่นชมท่านมาตลอด แต่ท่านได้รับมอบภารกิจที่ไม่มีทางสำเร็จได้เลย ผมได้พยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ปัญหานี้มาตลอด แต่ไม่เห็นทางที่จะสำเร็จเลย” วาเวลล์ตอบ
ภารกิจที่ว่านี้ ไม่ใช่การคืนอิสรภาพให้แก่อินเดีย แต่มันคือ การคืนอิสรภาพให้แก่อินเดีย และ ยังคงให้เป็นอินเดียประเทศเดียวต่างหาก
(ซาร์ดาร์ วัลลับไบ พาเทล - ภาพจากวิกิพีเดีย)
วาเวลล์ มอบแฟ้มปฎิบัติการอีกแฟ้มหนึ่งให้ เมาท์ แบตเทน มีตัวหนังสือเขียนไว้บนแฟ้มว่า “ปฎิบัติการบ้านคนบ้า” (OPERATION MADHOUSE) มันคือคู่มือ หรือ แผนการของรัฐบาลอังกฤษในการอพยพชาวอังกฤษ ทั้งผู้หญิง เด็ก พลเรือน และ ทหาร ออกจากจังหวัดต่างๆทีละจังหวัดของอินเดีย เพื่อกลับบ้าน
เป็นสิ่งที่ คานธีได้ปรารภเกี่ยวกับแฟ้มดังกล่าวว่า เป็นการทิ้งอินเดียให้เกิดจลาจล
นี่คือเหตุผลที่แท้จริงอีกข้อหนึ่งที่ลอร์ด วาเวลล์ แสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่ เมาท์ แบตเทน ได้รับมอบภารกิจนี้
(เนห์รู – ภาพจากวิกิพีเดีย)
เมาท์ แบตเทน นัดพบบรรดาผู้นำของทั้ง 3 ฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ฝ่ายแรก พรรคคองเกรส ตัวแทนของชาวฮินดู ที่มี เนห์รู คานธี และ ซาร์ดาร์ วัลลับไบ พาเทล เป็นตัวแทน , ฝ่ายที่ 2 คือ สหพันธชาวมุสลิมทั้งปวง ที่มี มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์(MUHAMMAD ) เป็นตัวแทน และ ฝ่ายที่ 3 คือ บัลเดฟ ซิงห์ (BALDEV SINGH) เป็นตัวแทนของชาวซิกห์
ทั้งหมดพกเอาความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันมาอย่างเต็มหัวใจ
มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ ยืนยันว่า ชาวมุสลิมต้องการจะแยกประเทศเป็นอิสระออกไปจากอินเดีย ในขณะที่ฝ่ายคองเกรส พยายามอย่างมากที่จะไม่ยอมแยกประเทศ
ถึงขนาดที่ คานธี เคยพูดปราศรัยต่อหน้าฝูงชนเกี่ยวกับเรื่องที่มุสลิมจะขอแยกประเทศว่า
“ต้องข้ามศพผมไปก่อน”
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านในสัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี