วูดู (Voodoo) เป็นลัทธิไสยศาสตร์ของคนแถบหมู่เกาะอินดิสตะวันตก โดยเฉพาะในไฮติ แต่จริงๆแล้ว วูดูมีต้นกำเนิดจากพิธีกรรมชนพื้นเมืองในแอฟริกา ไล่ไปตั้งแต่แกมเบียจนถึงแองโกลา หลายคนอาจสงสัยว่าความเชื่อนี้แพร่มาถึงอเมริกาได้อย่างไร
ในยุคล่าอาณานิคม หัวหน้าเผ่าขายลูกเผ่าหรือเชลยศึกไปเป็นทาสของชาวตะวันตก ซึ่งทาสเหล่านี้มีพ่อมดหมอผีติดไปด้วย ทำให้ความเชื่อแบบวูดูแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆของโลก โดยเฉพาะอเมริกาซึ่งนำทาสเข้ามาใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก
ช่วงแรกอเมริกันต่างหวาดกลัวและไม่ยอมรับลัทธิวูดู เพราะแตกต่างไปจากศาสนาที่ตนเองนับถือ เลยกีดกันและทำให้ลัทธินี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ใน ปี พ.ศ.2247 รัฐบาลอเมริกาออกกฎหมายห้ามไม่ให้ชุมนุมกันในเวลากลางคืน และในปี พ.ศ.2206 บางรัฐแก้ปัญหาโดยการบังคับให้ทาสนับถือศาสนาคริสต์ เพื่อป้องกันและปรามไม่ให้ทาสผิวดำนับถือลัทธิวูดูอีกต่อไป
พิธีกรรมทางวูดูประกอบด้วยการสวดมนต์ ร่ายรำ เล่นดนตรี รวมทั้งฆ่าสัตว์บูชายัญ การร่ายรำกับการเล่นดนตรีนั้นถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในพิธีกรรมวูดู เพราะเชื่อว่าการร่ายรำเป็นวิธีสื่อสารกับวิญญาณจากโลกอื่น
ตุ๊กตาวูดูเป็นตุ๊กตาที่นำมาใช้ทำร้ายคนอื่น จุดมุ่งหมายของการใช้ตุ๊กตาวูดูคือเพื่อครอบงำจิตใจฝ่ายตรงข้าม การครอบงำจิตใจอีกฝ่ายไม่ได้มีผลด้านจิตใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกายด้วย ถ้าใช้มนต์ดำขั้นร้ายแรงจะสามารถเอาชีวิตของฝ่ายตรงข้ามได้ โดยที่กฎหมายไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้เลย
ลัทธิวูดูยังคงสืบทอดและแพร่หลายในหลายรัฐของอเมริกา แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือรัฐหลุยส์เซียน่า โดยเฉพาะที่เมืองนิวออร์ลีน ที่นี่มีราชินีแห่งลัทธิวูดูที่เป็นรู้จักกันดีระดับโลกคือ มารี ลาโว
มารี ลาโว (Marie Laveau) มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1800 เพื่อนบ้านรํ่าลือกันว่าเธอสามารถสาปได้ทั้งคนและสัตว์ โดยใช้มนต์ดําวูดู มารีเป็นเจ้าแม่ลัทธิวูดูที่ได้รับความศรัทธาล้นหลามในนิวออร์ลีน ถือกำเนิดในเมืองต้นตำรับของวูดูคือ ซานโต โดมิงโก้ ซึ่งปัจจุบันนี้คือประเทศไฮติ เมื่อปี ค.ศ. 1794 พ่อเป็นคนผิวขาว แต่แม่เป็นคนผิวดำ เรื่องราวของมารีที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1819
ก่อนมาเป็นเจ้าแม่ลัทธิวูดูนั้น มารีมีอาชีพเป็นช่างทำผม สามารถเข้านอกออกในบ้านผู้มีอันจะกินทุกบ้านในเมือง วันหนึ่งเธอและลูกสาวมีโอกาสเข้าร่วมวงกับผู้ทรงปัญญา ทำให้เธอได้รับการสืบทอดอำนาจร่างทรง กล่าวกันว่าเธอทราบความเคลื่อนไหวทั้งหมดและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมือง จากการฟังคำสนทนาของลูกค้าและลูกจ้างของเธอนั่นเอง
มารีกลายเป็นตำนานหนึ่งของนิวออร์ลีน ฐานะของเธอไม่ใช่แค่เป็นคนทำพิธีวูดูเท่านั้น แต่เธอผสมผสานสองความเชื่อทางศาสนาเข้าด้วยกัน จนสามารถเปลี่ยนลัทธิวูดูให้เป็นมากกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติ ทำให้ผู้คนในลัทธิหันมานับถือพระแม่มารี และยังนำพิธีปฏิบัติของชาวคาทอลิกเข้ามาใช้ในลัทธิวูดู
มารีเสียชีวิตในเดือนมิ.ย ปี 1881 แต่ชาวเมืองไม่เคยลืมราชินีแห่งมนต์ดำผู้นี้เลย ลูกสาวของเธอที่ชื่อมารีก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทนและดำเนินพิธีกรรมต่างๆ ตามเดิมมาเป็นเวลาอีกหลายสิบปีต่อมา
ทุกวันนี้อิทธิพลของมารีและลูกสาว ผู้ซึ่งเป็นราชินีแห่งลัทธิวูดูในเมืองนิวออร์ลีนยังไม่จางหายไป ทั้งคู่ถูกฝังเคียงกันในสุสาน 2 ชั้นทำจากหินสีขาว ที่แท่นฝังศพหมายเลข 1 ในสุสานเซนต์หลุยส์ แม้ที่ฝังศพของทั้งคู่จะดูไม่แตกต่างจากของคนอื่น แต่ที่สังเกตได้ชัดคือเครื่องหมายกางเขนและเครื่องหมายอื่นๆ เขียนไว้บนแท่นฝังศพ นอกจากนี้ยังมีเหรียญ รากสมุนไพร เม็ดถั่ว กระดูก ถุงห่อดอกไม้ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่สื่อถึงความโชคดีและการอวยพรแก่เจ้าแม่ลัทธิวูดูผู้นี
ปัจจุบันยังมีการจัดทัวร์พาไปชมบ้านของมารี ลาโว รวมทั้งบนบานขอให้เธอช่วยสาปใครก็ได้ เรียกกันว่า "บลัดดี้มารีทัวร์"
แต่การที่จะไปร่วมทัวร์นั้นต้องเคาะ 3 ครั้งบนโลงศพของมารี แล้วหมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นด้วยเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของมารีดังๆ จากนั้นก็บอกกล่าวถึงจุดประสงค์ว่าจะให้เธอดลบันดาลให้ศัตรูวิบัติอย่างไรบ้าง
หากใครที่สนใจอยากแช่งชักหักกระดูกคู่อริ ขอเชิญไปพิสูจน์กับการร่วมทัวร์บลัดดี้มารี ซึ่งจัดในยามราตรีกลางเมืองนิวออร์ลีน ส่วนจะสมหวังหรือไม่นั้น คงต้องลองวัดดวงกันดูว่าวิญญาณมารีจะดลบันดาลให้สมหวังไหม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี