ครัวดาวศุกร์

งามสกาวราวประกายพรึกยามรุ่งสาง

 

อะไรที่เป็นธรรมชาติ มักสวยงามเสมอ “ครัวดาวศุกร์” ร้านอาหารลึกลับใจกลางเมืองปทุมธานี ในพื้นที่กว้างขวางตอนท้ายหมู่บ้าน สถานที่สวยงามเรียบง่าย รวมทั้งที่นั่งตามซุ้มริมสระบัวสัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติอันรื่นรมย์ ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกผู้ซึมซับในคติของชนบทไทย อีกทั้งรายการอาหารบ้านๆ ที่จัดหาพืชพันธุ์พื้นบ้านต่างจังหวัดอันแทบจะไม่ได้พบในเมืองกรุง ทำให้เกิดความหลงใหลได้ปลื้มกับรายการอาหารตามแบบฉบับชาวเหนือและอีสานอันหลากหลายไม่คล้ายกับสวนอาหารทั่วไป พืชผักหลายชนิดที่นี่มีโรงเรือนสำหรับเพาะชำปลูกเองโดยปราศจากสารเคมีใดมาแผ้วพาน แม้กระทั่งดอกพวงขาวไม้เลื้อยริมรั้วเด็ดมาใช้ประดับจานให้เป็นศิลปะเริงระบำบนจาน ก็กินได้สนิทใจ

 

ความงามแบบง่ายๆ ด้วยพืชผลดอกไม้ไทย จัดใส่ถาดใส่จานงดงามจนอยากเก็บไว้ชื่นชม

 

ซุ้มหลังคามุงแฝกเป็นที่นั่งยื่นไปชายน้ำแสนโรแมนติก

 

ทอดมันหัวปลี (หน่ออั่ว) (160 บาท)

หัวปลีกล้วยคือดอกกล้วยปลายเครือ ที่หลายๆ คนมองข้าม มักใช้เป็นส่วนประกอบของผัดไทยเป็นหลัก ด้วยภูมิปัญญาของชาวชนบทยังนำมาประกอบอาหารได้อีกหลายรายการ เช่น เป็นผักน้ำพริก ด้วยการเผา  ต้ม หรือวิธีนึ่ง ทำยำหัวปลี หรือทอดมันหัวปลี โดยใช้ผสมเครื่องน้ำพริก กระเทียม หอมแดง บางพื้นที่ใช้มะเขือเปราะย่าง มะเขือเทศ และตะไคร้ ตำผสมไปด้วย ใช้ชุบแป้งทอดกรอบ กินกับน้ำจิ้มคล้ายทอดมันปลา รสชาติอร่อยหน้าตาเฉย ได้แต่หยิบจิ้มเคี้ยวกันไม่ขาดปาก

 

ปีกไก่ทอดมะแขว่น (120 บาท)

ปีกกลางไก่หมักกับกระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลกเติมเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลนิดหน่อย นำเข้าตู้เย็นหมักสักพักหรือข้ามคืน ทอดไฟกลางไปเรื่อยๆ จนสีปีกไก่สวยงาม ใช้ช่อหรือเมล็ดมะแขว่นคั่วโรยเคล้าให้เผ็ดหอม กำซาบกว่าชวนเจียวหรือหมาล่าจากจีนเป็นไหนๆ   

 

เห็ดหอมคั่วซีอิ๊ว (170 บาท)

เห็ดหอมสดดอกเล็กคั่วซีอิ๊วชั้นหนึ่งจนแห้ง หอมกลิ่นเห็ดระคนซีอิ๊ว หยิบกินกันเพลิดเพลินจำเริญใจ

 

ตำถาดหลวงพระบาง (200 บาท)

ส้มตำของชาวหลวงพระบางไม่ได้สับมะละกอเป็นเส้นแบบบ้านเรา แต่เอามะละกอมาสไลด์เป็นแผ่นบางๆ เคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำ ข้อดีของตัวเส้นมะละกอที่ใหญ่และบางแบบนี้มันทำให้ลิ้นได้สัมผัสรสชาติเต็มๆ ของกะปิ น้ำปู และปลาร้าหอมๆ คลุกเคล้าเข้าเนื้อมะละกอ รายล้อมด้วยกุ้งลวก หมูยอ ไข่ต้ม สามชั้นทอด เพียงแค่เห็นสีสันส้มตำในถ้วย ถึงกับขนลุกเกรียวกราว จุดเด่นที่น่าทึ่งคือใช้มะเขือเทศลูกเล็กๆ เป็นมะเขือท้องถิ่นวางเด่น ให้ความสดกรอบไม่เหม็นเขียว ทั้งพริกสด พริกแห้งพราวไปทั้งถ้วยน้ำพริก แค่ชิมคำแรกก็อร่อยเบิกบานน้ำตาไหลพราก

 

หมูสามชั้นทอดมะแขว่น (160 บาท)

                เม็ดมะแขว่นพืชสมุนไพรสกุลเดียวกับพริกไทยเสฉวน (Sichuan pepper) ผลและใบใช้เป็นเครื่องเทศชูรสอาหาร โดยใช้ผลสดหรือผลแห้งหรือทั้งสองอย่าง มะแขว่นมีรสชาติเผ็ด กลิ่นหอมฉุน มีสรรพคุณสามารถแก้หวัดได้ ด้วยความเผ็ดหอมที่เข้าถึงได้มากกว่า “หมาล่า” หรือ “พริกชวนเจียว” จากเสฉวน เมื่อทอดแล้วโรยบนหมูสามชั้นทอด ทำให้ความรู้สึกมันเลี่ยนหมดไปอย่างสิ้นเชิง

 

แกงป่าปลาเห็ดโคน (120 บาท)

น้ำพริกแกงป่าจากเมืองจันทบุรีดูเหมือนน้ำแกงสีใส หน้าตาดูซื่อๆ แต่ซ่อนความดุดัน เผลอซดคำแรกแทบสำลักความเผ็ด ปลาเห็ดโคนแล่ไร้ก้างเป็นปลาที่เข้ากับการแกงป่าด้วยเนื้อที่นุ่มละไม  

 

กุ้งผัดพริกเกลือ (270 บาท)

แพรวพราวด้วยเครื่องเคราพริกต้นหอมกระเทียมสับหยาบ เจียวพอสุกไม่ถึงกับเกรียมห่มตัวกุ้งทอดจนเกือบมิด เสิร์ฟมาในกระจาดประดับดอกพวงขาวและผักกระจุกกระจิกให้งามเฉิดฉาย

 

ยำใบเหลียงทอดกุ้งสด

ตักกุ้งสดลวกในน้ำยำใส่ใบเหลียงชุบแป้งทอดกรอบ จัดมาในกระจาดงามจนไม่กล้ากิน ด้วยใจอยากจะเก็บไว้เชยชมมากกว่า

 

ไก่บ้านนึ่งสมุนไพร (180บาท)

ไก่บ้านสาวเนื้อเปล่งปลั่งไร้ความเหนียว สับชิ้นโตหมักกับนานาสมุนไพรจนเข้าเนื้อ แล้วเอาไปนึ่งสุกพอหมาด น้ำพริกแจ่วสีสวยวางเคียงสำหรับจิ้มกินเข้ากันราวกับคู่ตุนาหงัน

 

พล่ากุ้งชะอมหิมะ

รูดใบชะอมจุ่มในน้ำแป้ง แล้วสลัดทอดในน้ำให้เกิดปฏิกิริยาเหมือนเกร็ดหิมะเกาะพราว วางข้างดอกสร้อยฟ้าสวยราวพระจันทร์สีม่วง เหล่าดอกไม้ใบหญ้าดึงดูดสายตาจนข่มพล่ากุ้งรสแซ่บที่อยู่ข้างเคียง

 

 

แกงส้มไข่มดแดงชะอมทอด (200 บาท)

สีจัดจ้านของแกงส้มลอยหน้าด้วยไข่มดแดงดูน่าเกรงขาม แซมชะอมชุบไข่ทอด พอจะยกให้เป็นแกงส้มแห่งปี ที่ปรุงรสครบทั้งเปรี้ยวเค็มแอบหวานเล็กน้อย อร่อยเพราะเป็นแกงที่ปรุงรสให้ลงตัวยาก ทำให้คิดถึงแกงส้มโบราณฝีมือเจนจัดตามบ้านสมัยก่อน

 

ปลาทับทิมเผาป่าแดง (280 บาท)

ใช้ปลาทับทิมสดตัวอวบอ้วนหุ้มแผ่นฟอยล์กับนานาสมุนไพร เผาไฟรุมๆ บนเตาถ่านจนเดือดคะเนว่าสุกจึงคีบใส่จาน คลี่ริมแผ่นฟอยล์ออกพับริมขอบ เปิดหน้าตาของปลาที่ถูกคลุมจากผักสมุนไพรทั้งหลายทั้งปวงดูยั่วน้ำลาย มีแจ่วแบบหลวงพระบางให้จิ้มเนื้อปลารสชวนเคลิบเคลิ้ม

 

 

อั่วกบสมุนไพร (200 บาท)

เมนูอั่วกบนั้น เป็นเมนูที่มีมาแต่ดั้งเดิม เป็นอาหารถิ่นจากแดนดินอีสานใต้ เรียก “อังแกบบอบ” เป็นภาษาเขมร แปลว่า "กบยัดไส้ย่าง" โดยแบ่งกบบางส่วนไปสับและปรุงรสรวมกับสมุนไพรต่างๆ ได้แก่ กะเพรา ตะไคร้ พริก กระเทียม แล้วนำกลับไปยัดในตัวกบ นิยมกินกันในหมู่ชาวกัมพูชาและชาวกูย (กวย) กลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ยังพบที่ตลาดสดอำเภอมหาชนะชัย และจังหวัดยโสธร บ้านน้อยจอมศรี ตำบลฮางโฮง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และที่จังหวัดในภาคเหนือ เช่น อำเภอสันทราย เชียงใหม่

ได้ชิมคำแรกก็รู้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับกบอั่วตัวอวบนี้ นอกจากเนื้อแน่นๆ นุ่มๆ แล้ว ไส้อั่วที่อัดแน่นอยู่ด้านในก็ส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว ก่อนจะตามมาด้วยรสชาติอันจัดจ้านไหลลามไปทั้งปาก ทั่วลิ้น   

 

น้ำพริกมะเขือปลาดุกย่าง (200 บาท)

เป็นรายการที่หรูหรายอดนิยมของร้าน ด้วยการแล่เนื้อปลาดุกชิ้นโต หมักสมุนไพรตามสูตร เสียบไม้ปิ้งจนหอม เน้นน้ำพริกมะเขือเทศประดับดอกอัญชันที่รสกำลังพอดีไม่ดุดันนัก จัดจานวางสารพัดพืชผัก ได้แก่  มะเขือ 3 สี ดอกกระเจียว แตง มะตูมแขก (สะเดาญี่ปุ่น) ผักกาดหิ่น(ชุนฉ่าย) ฝานลูกเรดิชเป็นแผ่นเรียงข้างดอกพวงขาว ที่เด่นโดดคือช่อมะเม่าแดงเม็ดโตคล้ายช่อพริกไทย

ปลาดุกย่างจานนี้ให้ความประทับใจทั้งรูปรสกลิ่นเรียกเสียงฮือฮาจากสมาชิกร่วมก๊วน

 

สระบัวกับบัวเหนือน้ำ

 

พวงขาวเลื้อยเป็นรั้วตลอดแนว

 

บรรยากาศยามโพล้เพล้

ร้านครัวดาวศุกร์

ชุมชนเพชรปทุม ซอย 4 ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง ปทุมธานี 12000

เปิด 10:30-21:00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

โทร: 02 115 5089

พิกัด :

https://maps.app.goo.gl/XkP6SjiCXcM2xgou8

https://maps.app.goo.gl/o1kxitnJmJ4UmrtWA

ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ และจาก FB.ของร้าน