เมื่อพรรคส้มถือกำเนิดขึ้น เพื่อนในเฟซบุ๊กของผมหลายคนต่างก็ตื่นเต้นยินดี ที่มีพรรคการเมืองที่ให้ความหวัง เพราะนักการเมืองเก่านั้นเล่นการเมืองกับนักการเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจและผลประโยชน์กัน และเล่นการเมืองกับประชาชนเพื่อผูกขาดคะแนนเสียงหรือความนิยมของพรรคตน
ผมจึงเข้าใจว่าทำไมจึงมีคนจำนวนมากตั้งความหวังไว้กับพรรคส้ม แต่ผมเห็นการเมืองและนักการเมืองมาเยอะจนไม่ตื่นเต้นยินดีอะไร ทุกครั้งที่มีนักการเมืองหน้าใหม่ มีพรรคการเมืองหน้าใหม่ ลงท้ายก็ไม่แตกต่างจากนักการเมืองและพรรคการเมืองเก่า คือคิดถึงแต่อำนาจและผลประโยชน์ตนเป็นหลัก ประชาชนเป็นแค่เหยื่อและเครื่องมือขึ้นสู่อำนาจ
ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนักการเมืองที่ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติเลยมีนักการเมืองที่ดี แต่ทว่ามีน้อยเกินกว่าจะต้านทานนักการเมืองที่ไม่ดีได้ ซ้ำยังอยู่ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าพรรคหรือเจ้าของพรรคเสียอีก ประเทศไทยจึงไม่มีความหวังมากนักกับนักการเมือง
เมื่อมีคนตื่นเต้นยินดีกับเจ้าของพรรคส้ม ผมก็หาข้อมูลว่าเขาเป็นใคร เคยมีบทบาททางการเมืองหรือมีความสามารถอะไรบ้าง ก็ปรากฏว่าเขาเป็น “เสื้อแดง” ในสมัยเสื้อแดงเรืองอำนาจ จนกระทั่งถูกปราบปราม เขาเองก็ลงถนนกับม็อบเสื้อแดงด้วย จนถูกกระสุนยางยิงโอดโอยว่าโคตรเจ็บเลย
เมื่อค้นต่อไปอีกหน่อย ก็รู้ว่าเขาเกิดในครอบครัวนักธุรกิจและนักอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในยุคโครงการ “รถยนต์คันแรก”
และเป็น “มาร์กซิสต์”
ผมไม่ได้แปลกใจเรื่องลูกเศรษฐีหรือตระกูลมั่งคั่งทั้งหลายจะเป็นมาร์กซิสต์ เพราะคนวัยหนุ่มสาวนั้นเป็น “วัยแสวงหา” ตั้งแต่แสวงหาผัวหาเมียไปจนถึงแสวงหาอุดมคติ-อุดมการณ์ให้ตัวเอง มันเป็นเรื่องของการสร้างตัวตนให้มั่นคงและขยายใหญ่ขึ้น เพื่อให้ตนได้ภาคภูมิใจตัวเอง และคนอื่นได้ชื่นชม ซึ่งก็เพื่ออัตตาของตนจะได้ขยายเป็นอภิอัตตา
ทั้งหมดเป็นเรื่องของอำนาจทั้งสิ้น
มันเป็นสินค้าแบรนด์เนมของตน ส่วนมีและใช้แล้วจะเกิดประโยชน์หรือโทษแก่ตนและคนอื่นหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้คนชื่นชมและชื่นชอบที่พรรคส้มก็เพราะ “Radical” คือนิยมความรวดเร็วและรุนแรง
พรรคส้มประสบความสำเร็จเกินที่ใครจะคาดถึง แต่ต่อมาก็โดนยุบเพราะทำผิดกฎหมาย พวกเขาหลายคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง“ในวิกฤตมีโอกาส” พวกเขาและกองเชียร์ก่นโทษศาลว่ากลั่นแกล้ง เพราะ “มีคำสั่งจากเบื้องบน” ! ต่อมาก็เกิด “ม็อบคณะราษฎร 2563” ลงถนนใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อปะทะกันพวกเขาใช้ก้อนอิฐ ท่อนไม้ ท่อนเหล็ก บางคนก็ใช้ปืน ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บแต่พวกเขาก็ก่นด่าประณามว่าพวกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน ส่วนตนเองไม่!
เวลาล่วงมาจนเป็น “พรรคส้มเวอร์ชั่น 2”ก็มีการหาเสียงแสดงเจตนาว่าจะยกเลิกมาตรา 112 และแก้ไข…ทั้งท้าทายทั้งบ่อนเซาะสถาบันศาลและกฎหมาย ถึงกับบัญญัติศัพท์ “นิติสงคราม”ให้ลิ่วล้อนำไปใช้ด้อยค่าและโจมตีศาลและกฎหมาย และโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าอยู่เบื้องหลังเช่นเคย โดยเฉพาะคดียุบพรรคทั้ง 2 ครั้ง
นั่นคือเบื้องหน้าของพวกเขา เบื้องหลังพวกเขาก็แทรกซึมเข้าไปตามหน่วยงานและสถาบันต่างๆ ของรัฐ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย รวมทั้งแทรกซึมเข้าไปในชนกลุ่มน้อยและชนพื้นถิ่นต่างๆ เพื่อปลุกปั่นยุยงให้แบ่งแยกดินแดน
ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พวกเขาเข้าไปปลุกปั่นให้แบ่งแยกดินแดนเป็นรัฐปัตตานีภาคเหนือให้แบ่งแยกเป็นรัฐล้านนา ภาคอีสานให้เป็นรัฐอีสานหรือล้านช้าง และยังเข้าไปปลุกปั่นพวกแรงงานพม่า ลาว เขมรในประเทศไทยให้เกลียดชังเหยียดหยามพระมหากษัตริย์และประเทศไทยด้วย
อีกด้านหนึ่งก็ยอมรับคำสั่ง คำแนะนำ เงิน และการสนับสนุนด้านอื่นๆ จากประเทศมหาอำนาจ เพื่อบ่อนเซาะประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจเหล่านั้น เพียงเพื่อพวกตนจะได้ชูคออยู่บนยอดสุดของอำนาจในประเทศ
ทั้งหมดเพื่อให้ประเทศไทยเกิดกลียุค ทำสงคราม กลายเป็นประเทศที่ล้มเหลว อย่างน้อยก็บ่อนเซาะประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์ไปเรื่อยๆ จนอ่อนแอ เมื่อนั้นฝ่ายของพวกเขาก็สามารถทำตามเป้าหมายหลักได้
ผมไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทำอะไรหรือไม่ มากน้อยเพียงใด หรือทำเต็มที่แล้ว แต่เอาไม่อยู่ จึงมีการปลุกปั่น แทรกซึม และมีการกระด้างกระเดื่องมากขึ้นทุกวัน แม้แต่พวกต่างชาติที่ทำมาหากินอยู่ในประเทศไทยก็เหิมเกริมท้ายอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย!
“สลิ่มต่อสู้กับนักการเมืองชั่วเพื่อปกป้องเชิดชูประเทศชาติ แต่เสื้อแดงกับเสื้อส้มต่อสู้กับประเทศชาติเพื่อปกป้องเชิดชูนักการเมืองชั่ว”
จะปล่อยไว้ทำไม?
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี