หลังจากที่คดี ดิ ไอคอน กลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” เรื่องราวความขัดแย้งที่ผุดมาหลังน้ำลดระหว่างปางช้าง เอลีแฟนท์ เนเฌอร์ พาร์ค ของนางแสงเดือน ชัยเลิศ ที่มีประเด็นขัดแย้งกับผู้คนมากมาย และถูกขุดคุ้ยแง่มุมต่างๆ ก็ค่อยๆ เงียบหายไป
ผมไม่รู้จัก นางแสงเดือน ชัยเลิศ และไม่สนใจอุปนิสัยใจคอของเธอว่าจะเป็นคนประเภทไหนอย่างไร เพราะเชื่อว่าถึงยังไงวิถีชีวิตเราไม่น่าจะมาบรรจบพบกันได้ แต่จากข่าว ผมเพิ่งรู้ว่าเธอได้ก่อตั้งมูลนิธิหนึ่งขึ้นมาด้วย นอกเหนือจากการทำปางช้างที่เป็นลักษณะธุรกิจ เช่นเดียวกับปางช้างอีกมากในภาคเหนือ
ทำให้สะกิดต่อมขี้สงสัยของผมในเรื่องมูลนิธิอื่นๆ หรือองค์กรเอกชนที่เรียกกันว่า เอ็นจีโอ (Non-Governmental Organizations) ที่มีมานานแล้ว ให้เด้งขึ้นมาเหมือนมีลูกฮิปโปแคระอยู่ในสมอง
องค์กรเอกชนนั้นมีตั้งแต่เป็นกลุ่ม เป็นชมรมเล็กๆ จนถึงพวกที่จดทะเบียนเป็นสมาคมและมูลนิธิก็มี รายได้ที่มาใช้จ่ายในการทำกิจกรรมต่างๆ ก็มีทั้งออกเงินลงแรงกันเองสำหรับกลุ่มเล็กๆ รายได้จากจัดงานระดมทุน รายได้จากการรับบริจาค รายได้จากรัฐบาลสำหรับองค์กรที่รัฐบาลสนับสนุนหรือจัดตั้งขึ้นเอง และรายได้จากต่างประเทศ
ซึ่งอย่างหลังนี้ นอกจากการบริจาคของคนทั่วไป ยังมีประเภทที่เป็นองค์กรระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็นจีโอ (INGO)ที่มีองค์กรแม่อยู่ในต่างประเทศ และจัดสรรงบประมาณมาให้ใช้
ประเทศไทยมีองค์กรที่จัดตั้งโดยเอกชน หรือประเภทที่รัฐสนับสนุน อยู่มากน้อยเท่าไหร่ผมไม่รู้ แต่เชื่อว่าคงมีจำนวนมหาศาล สมาคมที่จดเพื่อเปิดโต๊ะสนุ้กฯ นั่นก็น่าจะใช่
แต่ที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือ องค์กรเอกชนที่มีรายได้จากต่างประเทศ และน่าจะถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ฯลฯ หน่วยงานอะไรก็ได้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ควรจะได้ตรวจสอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง และการปฏิบัติงานหรือกิจกรรมจริงตรงตามนั้นหรือไม่ รวมถึงที่มาที่ไปของรายได้ขององค์กรเหล่านี้ทั้งหมด
ลงพื้นที่สแกนอย่างละเอียดทุกที่ตั้งของสำนักงาน เหมือนอย่างที่หลายหน่วยงานกำลังทำอยู่กับ ดิ ไอคอน
โลกทุกวันนี้สลับซับซ้อนและเชื่อมโยงกันไปหมด ถ้าไม่ตรวจสอบจริงจัง เราจะไม่รู้เลยว่ามีองค์กรไหนบ้างที่มีวัตถุประสงค์แฝงเข้ามาแทรกซึมทางการเมือง แฝงเข้ามาด้วยเป้าหมายเรื่องทรัพยากร หรือแฝงเข้ามาแบบนักต้มตุ๋นหลอกลวง และองค์กรเหล่านั้นทำกันถูกหรือผิดมานานแค่ไหน
การออกสำรวจตรวจสอบใหม่ไม่ได้หมายความว่า มูลนิธิหรือองค์กรเหล่านั้นเป็นผู้ต้องหา แต่ทำเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และป้องกันสิ่งไม่พึงปรารถนาที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย โดยเฉพาะด้านความมั่นคง
มูลนิธิไหนหรือองค์กรใดที่ไม่ทำผิดก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ดีเสียอีกที่การตรวจสอบจะกลายเป็นเครื่องการันตีความใสสะอาดบริสุทธิ์ คนที่อยากบริจาคก็พลอยสบายใจไปด้วยว่า สนับสนุนคนดี เงินของเราได้ถูกใช้สร้างประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องมาช้ำใจทีหลังว่าสูญเสียเงินไปกับคนชั่ว และตนเองมีส่วนทำให้สังคมเสียหายจากความใจบุญ
ผมไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่ทุกวันนี้มันก็ยากที่จะไว้ใจใครจริงๆ
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี