คนในโลกออนไลน์จำนวนมากวิตกว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไรเมื่อประเทศไทยกำลังเสื่อมทราม เสื่อมทรามทั้งสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจการเมือง พุทธศาสนาวัฒนธรรมและประเพณี ความแตกแยกของคนในชาติที่แบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย และไม่มีใครยอมใคร
ทั้งหมดเป็นเรื่องของคนที่ยังแข็งแรง ยังสามารถดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดหรือร่ำรวยได้ แต่ไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุ
ประเทศไทยมีคนผู้สูงอายุมากขึ้นเพราะมีคนเกิดน้อยกว่าคนตาย ผู้สูงอายุนี้แหละที่จำเป็นต้องพึ่งพาลูกหลาน พึ่งพาโรงพยาบาล บ้างก็ต้องพึ่งพาสถานรับเลี้ยงคนชราถ้าพอมีเงิน ส่วนคนรวยนั้นมีโครงการของเอกชนสำหรับผู้สูงอายุหลายแห่ง ที่มีทุกสิ่งบริการสำหรับผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุนั้นมักอ่อนไหวหรือวิตกต่อชีวิตที่เหลืออยู่ของตน ว่าจะเป็นอย่างไร จะทำอย่างไร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้แน่นอน จะพึ่งพาลูกหลานเหมือนคนรุ่นเก่าแก่ก็ไม่ได้แล้ว เพราะสังคมเปลี่ยนไป
แต่ก่อนครอบครัวคนไทยเป็นครอบครัวขยาย เพราะอยู่ในยุคเกษตรกรรม ทุกคนที่ทำงานต้องช่วยกัน ปู่ย่าตายายพ่อแม่ลูกหลานถ้าไม่ต่อเติมหรือขยายบ้านก็ปลูกบ้านอยู่ใกล้เคียงกัน ทั้งหมดจึงต่างช่วยเหลือดูแลกันได้ ทั้งอาหารและยามเจ็บป่วย
ผู้สูงอายุหรือปู่ย่าตายายช่วยดูแลหลานที่ยังเล็ก เมื่ออายุมากขึ้นจนทำอะไรไม่ได้แล้วก็มีลูกหลานที่เติบโตช่วยดูแล เจ็บป่วยก็เยียวยากันไป พาไปหาหมอได้ก็พาไป
มาถึงยุคปัจจุบัน สภาพสังคมเปลี่ยนไปมาก มีอาชีพใหม่มากมาย โดยเฉพาะอาชีพบริการ-ค้าขาย และอุตสาหกรรม ทำให้คนต้องพรากจากครอบครัวตนเองเข้าไปทำมาหากินในเมือง ทิ้งผู้สูงอายุไว้กับบ้านในถิ่นเกิดตามลำพัง บ้างก็ส่งลูกของตนมาให้พ่อแม่เลี้ยงดู แต่เมื่อชรามากขึ้นจนพึ่งตัวเองไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ผมเคยได้ยินผู้สูงอายุปรารภอยู่เรื่อยมาว่า “เจ็บป่วยก็ไม่รู้จะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร ลูกหลานก็ไม่อยู่ อยู่กันตามลำพังคนแก่ ทำงานก็ไม่ได้ เงินก็ไม่มี”
ผมรู้สึกได้ถึงความวิตกและหวั่นไหวเหล่านั้น
ส่วนคนที่เป็นโสดหรือเป็นม่าย ไม่ว่าชายหรือหญิงก็วิตกเช่นกัน เพราะกลัวว่าจะอยู่ตัวคนเดียวและพึ่งตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อมีโลกออนไลน์จึงพอมีทางออก
คือแสวงหาคนโสดหรือเป็นม่ายเหมือนกัน ซึ่งถ้าให้ผมเดาก็คงมีไม่น้อยที่ได้พบ “เพื่อนชีวิต” ที่จะอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ส่วนเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วผมก็เดาต่อว่าคงสมหวังมากกว่าผิดหวัง
หลายคู่อยู่ด้วยกันไม่ยืดเพราะนิสัยแตกต่างกันมากเกิน เพราะเมื่ออายุมากขึ้นต่างก็หงุดหงิด อ่อนไหว เอาแต่ใจตน ผลก็คือทะเลาะกันจนอยู่ด้วยกันไม่ได้ บางคนเจ็บป่วยบ่อย อีกคนก็เหนื่อยและเบื่อที่จะดูแล จึงไม่อยากรับภาระ เพราะตัวเองก็อายุมากเช่นกัน สุดท้ายก็ไปด้วยกันไม่รอด
แย่กว่านั้นบางคน “หลง” ตามประสาผู้สูงอายุ พูดอย่างนั้นก็ว่าพูดอย่างนี้ กินแล้วก็ว่ายังไม่ได้กิน เพราะจำไม่ได้ บางคนบ่นพล่ามไปเรื่อยทั้งวันทั้งคืน บางคู่ต่างก็ทำอะไรก็ไม่ถูกใจตนจึงทะเลาะกัน สุดท้ายก็ต่างคนต่างไป
แต่จะไปไหน?
ถ้าใครยังมีบ้านเดิมอยู่ก็กลับไปอยู่ได้ แต่ถ้าขายไปแล้วเพื่อเอาเงินมาอยู่ด้วยกัน เพราะหวังว่าจะยั่งยืนจนวันตายก็ไม่มีที่ไป ถ้ามีลูกหลานสำนึกดีก็อาจจะเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าไม่มี....ที่พำนักสุดท้ายก็คือวัด
มันเป็นเรื่องยากที่ผู้สูงอายุจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย ผมจึงบอกเพื่อน3 คนทั้งหญิงและชายในรอบ 5 ปีมานี้ว่าจะไปอยู่กับใครก็ไป ลองดู แต่อย่าทำลาย “ฐานที่มั่น” ของตน คือทรัพย์สินหรือที่อยู่อาศัยของตน เพราะเมื่อไม่รอดแล้วจะได้กลับมา
เรื่องอื่นๆ ในโลกและในประเทศผมก็วิตก แต่ก็พอทำใจได้ แต่ผู้สูงอายุหรือคนชราที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งจากลูกหลานและทิ้งกันเอง ผมนึกถึงครั้งใดก็หวั่นใจครั้งนั้น แม้จะเป็นแค่ส่วนน้อย
นโยบายของพรรคการเมืองที่แจกเงินแก่ผู้สูงอายุนั้นน้อยนิดอยู่แล้ว น้อยจนใช้พึ่งพาตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังไม่เลวร้ายเท่าผู้สูงอายุที่พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ไม่มีรายได้ ไม่มีใครดูแล เพราะเหมือนคนตายทั้งเป็น
ผู้สูงอายุที่เคยมีส่วนสร้างประเทศนี้มายาวนาน จนถึงวันส่งต่อให้ลูกหลานเพราะสิ้นแรงแล้ว กลับถูกทอดทิ้งทั้งจากลูกหลานและรัฐ
ในประเทศนี้จึงไม่มีอะไรเสื่อมทรามเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี