เวลาที่มีข่าวเกี่ยวกับการหลอกลวงเป็นหมู่คณะอย่างการชักชวนลงทุนที่ให้ผลกำไรมากมายหลายเท่าของเงินที่ลงไป หรือการชวนเก็งกำไรด้วยวิธีอื่นใดก็ตาม ประเด็นหนึ่งในการวิพากษ์วิจารณ์ที่มักจะได้ยินก็คือ คนที่ต้องสูญเสียเงินทองไปก็เพราะความโลภ
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอยู่จริงตามคำวิจารณ์นั้นเพราะความอยากมีอยากได้เป็นกันทุกคน จะมากน้อยแค่ไหนนั่นอีกเรื่อง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ควรจะโดนตราหน้าว่า “โลภ” เพราะส่วนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนในวัยเกษียณ วัยชรา เห็นว่าจะมีรายได้เก็บเอาไว้ใช้สอย ดูแลตัวเองยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือชาวบ้านที่ไม่รู้ทันเล่ห์กลของคนชั่ว นำเก็บหอมรอมริบมาได้เงินจำนวนหนึ่งลงไปด้วยความหวังที่จะผลลัพธ์งอกเงยขึ้นมา แต่กลายเป็นสูญเปล่า
จากคดีการฉ้อโกงขนาดมโหฬารที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จะพบว่านักต้มตุ๋นมักเป็นขบวนการ มีการโยงใยกันเป็นทอดๆ เมื่อได้เงินมา คนเหล่านั้นก็นำไปปรนเปรอตนเองด้วยวัตถุราคาแพง ทั้งที่เคลื่อนที่ได้และไม่ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเงิน อวดการใช้วิถีชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อ และอีกส่วนนำไปใช้จ่ายเพื่อสร้างการคุ้มครอง โดยดูแลข้าราชการที่มีอำนาจให้คุณให้โทษอย่างเป็นพิเศษ
ในที่สุด ก็จะกลายเป็นแบบอย่างให้คนอื่นที่มีความโลภเช่นเดียวกัน คิดหากลวิธีหลอกลวงผู้อื่นเพื่อไปถึงจุดนั้นบ้าง วนเวียนไปอย่างนี้คล้ายไม่มีวันสิ้นสุด และอายุของผู้กระทำผิดก็ดูเหมือนจะลดลงเรื่อยๆ
ในคดี “ดิ ไอคอน” ไม่ใช่คดีแรกที่มีลักษณะเป็นขบวนการตามถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ แต่มีความซับซ้อนมากขึ้น และเรื่องราวก็ปะทุแตกแขนงออกไปใหญ่โต เหมือนซีรี่ส์ดังที่มีตอน spin-off หรือตอนแยกที่มีการนำตัวละครที่ผู้ชมติดใจแยกไปทำเรื่องใหม่
เริ่มต้นด้วยการร้องเรียนของผู้เสียหายผ่านมูลนิธิของทนายความคนหนึ่ง เป็นผลให้ผู้บริหารของ ดิ ไอคอน ยินยอมจ่ายเงินชดเชยโดยมีข้อตกลงว่าให้เก็บเป็นความลับ แต่ความลับไม่มีในโลก หลังจากข่าวที่ผู้เสียหายกลุ่มแรกได้เงิน ผู้เสียหายอื่นๆ ก็ต้องอยากได้บ้าง เปิดช่องให้ทนายดังอีกหลายคนออกมาเล่นเรื่องนี้ โดยอ้างว่าจะช่วยผู้เสียหายด้วยความเห็นอกเห็นใจ
และเรื่องก็นำไปสู่การสืบสวนของตำรวจจนในที่สุดผู้บริหารของ ดิ ไอคอน หรือที่เรียกว่า“บอสส์” โดนจับกุมและฝากขังไป 18 คน ซึ่งมีดาราดัง 3 คน อยู่ในจำนวนนั้นด้วย และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ต้องหาในระดับรองเพิ่มอีก แต่ไม่รู้ว่าจะมีดารา, ศิลปินดนตรี หรือคนดังวงการอื่นๆ อีกหรือไม่
ระหว่างที่บรรดาบอสส์ของ ดิ ไอคอนถูกจับ ก็มีข่าวโยงใยไปถึงนักการเมือง, ข้าราชการชั้นสูงหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค, พิธีกรรายการโทรทัศน์, นักร้องเรียน, อดีตนายตำรวจใหญ่เป็นต้น ต่อมาคดีถูกโอนให้ ดีเอสไอ ซึ่งความกังวลให้ประชาชนผู้ติดตามข่าว เพราะผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า หลายเรื่องที่ไปถึง ดีเอสไอ มักล่าช้าและเงียบหายไปเฉยๆ
ตอนแยกมาถึงเมื่อทนายความผู้นำกลุ่มที่อ้างว่าจะช่วยเหลือผู้เสียหายจาก ดิ ไอคอน ถูกจับ กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงเศรษฐีนีคนไทยที่มีครอบครัวอยู่ในฝรั่งเศส คดียังลามไปถึงคนอีกหลายคน โดยเฉพาะคนที่เป็นโจทก์เก่าของทนายคนดัง นอกจากนี้ยังเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างสื่อใหญ่กับทนายความ ทั้งตัวต้นเรื่องที่ท้าเดิมพันด้วยการดื่มน้ำปัสสาวะ และทนายดังทางยูทูบอีกคนที่มักให้สัมภาษณ์ตามสื่ออยู่เสมอ
ตอนแยกอีกตอนก็มาถึง เมื่อทนายความคนแรกที่นำผู้เสียหายมาเรียกร้องเงินชดเชยจาก ดิ ไอคอน ถูกจับในข้อหากรรโชกทรัพย์ คราวนี้พ่วงดาราดังมาอีกคน และยังไม่รู้ว่าจะแตกแขนงไปยังไงอีก
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นคดีของ ดิ ไอคอน แตกกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง และน่าจะยังไม่หมดแค่นี้ เพราะบอสส์ผู้นำของดิ ไอคอน ได้อัดเทปการสนทนาระหว่างตนเองและคนอื่นๆ เอาไว้มาก ไม่ว่าจะเพื่อแบล็คเมล์คนอื่นหรือไว้ป้องกันตัว
ทั้งหมดนี้ ควรถูกขยายไปถึงตัวบุคคลอีกมาก และขุดรากถอนโคนให้ถึงราก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างสำหรับคนที่คิดคดโกงต่อไปในอนาคต ไม่เช่นนั้น คดี ดิ ไอคอน ก็จะเหมือนกับอีกหลายคดีในอดีตที่กี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก มักจะถูกตัดตอนด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสำนวนอ่อน, การถ่วงคดีให้เนิ่นช้า, แทรกแซงคดีด้วยอำนาจอิทธิพล, เรื่องไปหล่นขั้นอัยการอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หรือกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกทำให้เสียชีวิต
คดี ดิ ไอคอน ควรจะเป็นสารตั้งต้นใหม่อีกครั้ง (และครั้งสุดท้าย) สำหรับการทำคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน ถึงเวลาหรือยังที่คดีการหลอกลวงประชาชนจะถูกขุดรากถอนโคนจริงๆ เสียที ตัวใหญ่สุดจะถูกจัดการ ไม่ใช่จับได้เพียงตัวเล็กตัวน้อย อย่างที่เป็นมาเสมอในประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี