สองประการในบรรดาข้อเสียหลายข้อของคนไทยที่เคยมีฝรั่งประเทศไหนก็ไม่รู้เขียนเอาไว้ จำไม่ได้เพราะเคยอ่านมานานแล้ว บอกไว้ก็คือ ความขี้โม้ และอวดฉลาด จริงๆ แล้ว คนที่มีข้อเสียแบบนี้ก็มีอยู่ทุกประเทศ ทุกสังคม เพียงแต่เหตุการณ์ที่เกิดในเมืองไทยช่วงนี้ ทำให้ต้องยอมรับโดยดุษณี
โดยเฉพาะเรื่องที่จะมีกรณีพิพาทค่อนข้างแน่ในอนาคต ระหว่างไทยกับกัมพูชา ขอเรียกว่า “เขมร” ก็แล้วกัน พิมพ์ง่ายดี นั่นคือการจะแสวงหาผลประโยชน์ใต้ทะเลแถวๆเกาะกูด ซึ่งเขมรอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ถึงขนาดออกกฤษฎีกาของตนเอง
คุยกันแบบบ้านๆ ไม่ต้องเอาตัวเลขหรือถ้อยคำแบบเป็นทางการ ซึ่งอ่านแล้วเวียนหัวก็คือ ตามหนังสือสัญญาระหว่างไทย (สมัยก่อนเรียกว่า กรุงสยาม) กับฝรั่งเศส เมื่อปีพ.ศ. 2450 นั้น เกาะกูดเป็นของไทย
แต่ต่อมา เขมรก็ประกาศการปักปันเขตไหล่ทวีป ลากเส้นไหล่ทวีปและเส้นทะเลอาณาเขตของตน ผ่าขึ้นมาพื้นที่บนเกาะกูด แบบทำเองเออเองว่างั้น แต่การตีเส้นหรือปักปันเขตอะไรเหล่านั้นไม่ได้ยอมรับจากไทย และสัญญาเก่าก็ยังอยู่เป็นหลักฐานยืนยัน
แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีรัฐบาลเฮงซวยของประเทศไทยในปี พ.ศ.2544 ดันไปทำบันทึกความเข้าใจ หรือที่เรียกว่า เอ็มโอยู 44 โดยไม่จำเป็น และมีเงื่อนงำ
นั่นก็เท่ากับไปยอมรับว่า การประกาศเขตไหล่ทวีปและเขตทางทะเลของเขมร ทำให้พื้นที่ที่เป็นของไทยอยู่แต่เก่าก่อน กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อน จนกลายมาเป็นเรื่องเป็นราวถึงปัจจุบัน และดูท่าจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลชุดนี้ก็ดูท่าว่าจะเฮงซวยไม่แพ้ชุดที่ไปทำเอ็มโอยู 44 เพราะคนนำรัฐบาลในปีนั้นก็น่าจะเป็นคนเดียวกับที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลในพ.ศ.นี้ และคนในรัฐบาลก็ตอบคำถามแบบถุยไปวันๆ อ้างโน่นนี่นั่น ไม่ยอมยกเลิก เอ็มโอยู 44 ตอบคำถามนักข่าวแต่ละครั้งมีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ
เหตุที่ทะลึ่งไปทำ เอ็มโอยู 44 ด้วยการเขียนคำที่ดูสวยหรูยาวเหยียดตามประสาปัญญาชนอวดฉลาด พูดง่ายๆก็คือจะฮั้วกับเขมรเอาพลังงานที่อยู่ใต้ทะเลขึ้นมาใช้ ทั้งๆที่แต่เดิมเขมรไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งสิ้น ส่วนเมื่อจ้างบริษัทขุดน้ำมันจากประเทศยักษ์ใหญ่มาทำ เพราะไม่มีศักยภาพพอที่จะทำเองผลประโยชน์จะตกอยู่กับประเทศไทย หรือจะตกอยู่กับใครสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครรู้
และถ้าเขมรเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลนานาชาติหรือศาลโลก ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า ไทยก็จะแพ้อีก เหมือนที่เคยแพ้มาแล้วในปีพ.ศ. 2505 กรณีที่ต้องเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปอย่างเจ็บปวด และน่าอับอายขายหน้า
ต่างกันที่ว่า กรณีเขาพระวิหารเหมือนการประจานว่า “เราโง่กว่าเขมร” แต่ถ้าแพ้กรณีเกาะกูดอีก นอกจากจะเป็นดับเบิ้ลโง่แล้ว ยังมีเรื่องของการขายชาติกินผสมเข้ามาด้วย และดูเหมือนจะไม่แยแสกับเสียงคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี