อยู่ในโซนตัวเมืองนครนายก อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ประจำจังหวัดที่เปิดสืบทอดกันมายาวนานระดับ 50 ปี ในตัวอาคารก็เก่าแก่ประมาณกัน เป็นประเภทร้านข้าวต้มและอาหารตามสั่งทั้งไทย - จีน ร้านประจำของหลายครอบครัวที่ไม่ทำครัว เพราะราคาค่อนข้างดี ให้ปริมาณมาก ทำเองอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ จึงเห็นมีลูกค้าประจำยืนออหน้าร้านซื้อใส่ถุงตลอดเวลาไม่ขาดสาย ลูกค้าต่างเมืองที่เคยมาสักครั้งมักติดอกติดใจ ผ่านมาครั้งใดก็อดแวะอุดหนุนไม่ได้ เมื่อเข้าในร้านได้บรรยากาศโบราณ มีนาฬิกาเก่าตั้งเรียงราย รวมถึงนาฬิกาแขวนติดข้างฝาเสริมอีกหลายเครื่อง ดูเหมือนร้านในยุค 60
แฮ่กึ๊น หอยจ๊อ (140 บาท)
ยกให้เป็นรายการทีเด็ดของร้าน ทั้งที่นครนายกไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่เนื้อปู หรือเนื้อกุ้งที่ใช้ทำหอยจ๊อกับแฮ่กึ๊นเมื่อได้ลองกินแล้ว บอกได้เลยว่ามีความสดอร่อยกว่าร้านที่อยู่ติดทะเลหลายๆ เจ้า
แฮ่กึ๊น (100 บาท)
ติดใจแฮ่กึ๊นจึงสั่งแยกเฉพาะเพิ่มอีกหนึ่งจาน ทอดฟองเต้าหู้ได้กรอบ เนื้อในได้สัมผัสเนื้อกุ้งสดหอมแน่นมากกว่าส่วนผสมอื่น
ไก่คั่วเค็ม (100 บาท)
ลักษณะเป็นไก่ทอดกระเทียมพริกไทย ใช้เนื้อไก่บ้านสับคั่วเกลือจนสุกได้ที่แล้วโรยกระเทียมเจียวหยาบๆ กินกับข้าวต้มหรือเป็นกับแกล้มได้อย่างลงตัว
กระเพาะปลาน้ำแดง (120 บาท)
เป็นที่เข้าใจกันดีว่ากระเพาะปลาที่เราเรียกนั้นคือถุงลมปลาที่ปลาใช้ประคองตัวในน้ำนั่นเอง กระเพาะปลามีนับร้อยชนิดขึ้นอยู่กับปลาประเภทนั้นๆ ร้านนี้ใช้กระเพาะชิ้นใหญ่ ตุ๋นน้ำแดงจนตัวกระเพาะนุ่มจวนละลายได้ในปาก มีรสชาติที่กินง่าย
ปลากระพงทอดน้ำปลา (300-350 ตามขนาด)
เนื้อปลาสดแบะเป็นสองซีก ทอดน้ำปลาจนกรอบสีสวยงาม สะเด็ดน้ำมัน โรยกระเทียมเจียวดับคาวได้สนิท
ปลากะพงนึ่งบ๊วย (80 บาท)
เนื้อปลาตัวใหญ่ สด หั่นเป็นชิ้นกำลังดี นึ่งกับบ๊วยดอง ขิงซอยเป็นอันมาก กับเต้าเจี้ยวเม็ดสวย ได้รสชาติแบบภัตตาคารชัดเจน
แขนงผัดหมูกรอบ (100 บาท)
แขนงผักคะน้าผัดกับหมูกรอบอย่างเร็วด้วยไฟแรงร้อน ผักจึงมีสีเขียวสดสวย กรอบทั้งผักและหมู
กระเพาะปลาผัดแห้ง (120 บาท)
กระเพาะปลาผัดแห้งชิ้นใหญ่เต็มคำ ผัดได้รสชาติในตัวกระเพาะเหมือนฟองน้ำที่ซึมซับน้ำซุปจนอิ่มนุ่ม ผัดเคล้ากับไข่เข้ากันดีกับต้นหอมหั่น ใส่มาจานพูนจนเกรงจะกินไม่หมด แต่ก็แย่งกันตักจนเกลี้ยงจานในเวลาไม่นาน
ไข่ตุ๋น (20 บาท)
ไม่ได้พบกับข้าวถ้วยละ 20 บาทมานาน นึกในใจว่าไม่น่าจะอร่อย แต่ที่ไหนได้เมื่อตักใส่ปากคำแรก สัมผัสถึงเนื้อไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเหมือนไข่ตุ๋นญี่ปุ่นยังไงยังงั้น ต่างกันที่ไม่ได้ใส่เครื่องนานาชนิดเหมือนของญี่ปุ่น กับข้าวราคา 20 บาท
เต้าหู้ ขาหมู ไส้หมู พะโล้ (80 บาท)
เห็นสีพะโล้จากจานนี้ บอกได้นี่แหละคือพะโล้ในอุดมคติ รสเค็มนำจนแทบไม่มีรสหวานมากวนใจ เต้าหู้ต้มจนเข้าเนื้อ ขาหมูก็ต้มจนหอมนิ่มนวลพอดิบพอดี ส่วนไส้ใหญ่ก็ไร้กลิ่นสาบต้มจนไส้ลีบไม่เหนียวเคี้ยวสนุก เป็นอีกจานหนึ่งของต้มพะโล้สีสวยแบบเดิม ปัจจุบันคงหากับข้าวรสชาติดีในราคานี้ไม่ได้ง่ายนัก
ผัดเกี้ยมฉ่ายกระเพาะหมู (80 บาท)
กระเพาะหมูเป็นเครื่องในอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการการล้างขยำเกลือหลายน้ำจนหมดเมือกในตัวกระเพาะ แล้วยังต้องใส่เม็ดพริกไทยในถุงกระเพาะตุ๋นนานจนหอมฟุ้งและหายเหนียว จึงผ่าหั่นเป็นชิ้นสวยผัดกับผักกาดดองกระป๋องปรุงรสจากโรงงาน ราดน้ำแป้งมันให้เหนียวปานกลางขึ้นเงาชวนให้หิว
เกี้ยมบ๊วยหมูสับ (80 บาท)
เม็ดบ๊วยดองให้ความเปรี้ยวอมตะและหอมเค็มในแบบฉบับไม่เหมือนใคร ยีให้เม็ดเกี้ยมบ๊วยแตกแล้วต้มกับหมูสับปรุงรสแล้วบรรจงปั้นเป็นลูกขนาดพอกัน ต้มแล้วได้ซดน้ำซุปหอมรสเปรี้ยวชื่นใจ จนหายง่วง
กะเพราเอ็นหมู (120 บาท)
ส่วนที่เชื่อมระหว่างคากิและเนื้อขาหมู เอ็นจากข้อขาหมูมีลักษณะคล้ายเจลลี่ รู้จักกันดีในชื่อ “คาจัก” มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเส้นใยคอลลาเจนยาวและเหนียว ซึ่งผู้ชอบกินขาหมูจะรู้จักดี บางครั้งต้องจองล่วงหน้าเพราะมีน้อย ร้านต้มเอ็นหมูด้วยความอดทนจนได้เส้นเอ็นนุ่มใสย้วย เอามาผัดกะเพรากับพริกตำ โรยใบกะเพราผัดอีกตลบก่อนตักใส่จานกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วร้าน กินลื่นปากแทบไม่ต้องเคี้ยว
หนำเลี้ยบหมูสับ (80 บาท)
หนำเลี้ยบคือผลพืชในตระกูลมะกอก กินดิบทำอย่างไรก็ไม่อร่อย ต้องผ่านกระบวนการดองแล้วจึงจะมีรสเค็มมันมีกลิ่นเฉพาะตัว โดยมากส่งมาจากเมืองจีนทั้งในรูปดองในกระป๋อง หรือแบบผ่าครึ่งแกะเมล็ดดองเกลือมาชนิดเค็มจัด หนำเลี้ยบที่ร้านนี้เลือกใช้เป็นแบบกระป๋องมีราคาแพงกว่า แกะเนื้อเอาออกจากเม็ดขยำหมูสับผัดแล้วจะหอมและเค็มกำลังพอดี แนมพริกสับ หอมแดง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กินกับข้าวต้มหรือข้าวอบหม้อดินก็อร่อย
กุ้งผัดพริกอ่อนกุ้ง-หมึก (120 บาท)
เป็นจานประยุกต์มีกลิ่นอายน้ำพริกเผาพอหอมจางๆ ผัดกับกุ้งสดหมึกสด แอบสะกิดผงกะหรี่ลงไปนิดหน่อยพอได้กลิ่นที่เคล้าพริกหยวก ใบโหระพา ขลุกขลิกคลุกกินกับข้าวสวยได้เหมาะเหม็ง
เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว (50 บาท)
แอบชำเลืองมองโต๊ะข้างๆ ที่สั่งเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วดูมีหน่วยก้านว่าจะอร่อย เกิดกิเลศมีความละโมบจึงสั่งมากินตาม แม้จะไม่ได้ผัดเส้นจนมีกลิ่นกระทะตามแฟชั่น แต่ก็หอมด้วยกลิ่นซีอิ๊วดี ก้าน ใบ ผักคะน้าสดกรอบ หมูหมักนุ่มแย่งกันตักได้คนละไม่กี่คำก็หมดจานราวปาฏิหาริย์
น้ำชาฟรี
มีถังน้ำชาใส่น้ำแข็ง ตั้งให้รินเอง รีฟิลได้ตลอดไม่คิดเงิน
ความน่าประทับใจของอาหารร้านนี้ ซึ่งมีรสชาติเข้ามาตรฐานร้านข้าวต้มกึ่งโบราณที่ใกล้จะเลือนหาย อีกทั้งราคาแสนถูกในยุคเงินเฟ้อที่อะไรต่อมิอะไรแพงไปหมด
สมมาศโภชนา (ตรงข้ามโรงเรียนเหลียนหัว)
23 ซอยพาณิชย์เจริญ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
เปิด : 08:30 - 20:00 น.
โทร : 064-959-4994, 037-311-320
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/hHQyJqj49hrFndSV9
https://maps.app.goo.gl/boxRnDDBTKCcAmCa6
จอดรถได้บริเวณหน้าร้านกับหน้าตึกในละแวก
ถ่ายภาพ : มีรัติ รัตติสุวรรณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี