ค้นพบโลกใหม่ของคนผิวขาวนำความปวดร้าวมาสู่อินเดียนแดงทุกเผ่า หากว่าทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ดูเหมือนว่าผู้บุกรุกอยากแย่งชิงเอาทุกสิ่งทุกอย่างแล้วกดคอบังคับให้ชนเผ่าอินเดียนยอมเป็นทาสตนอีกด้วย
การทำสงครามระหว่างคนผิวขาวและอินเดียนแดงในอเมริกามีการจดบันทึกทางประวัติศาสตร์ในหลายสมรภูมิ นักรบเผ่าอินเดียนแดงที่กล้าหาญจนได้รับการกล่าวขานจนทุกวันนี้มีหลายคน เช่น หัวหน้าเผ่าซิตตี้งบูลล์ เครซี่ฮอสส์ และเจอโรนีโม
เจอโรนีโมเป็นอินเดียนแดงเผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮ ที่ต้องระบุว่าอาปาเช่สายไหน เพราะเผ่าอาปาเช่แตกออกเป็นหลายสาย เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ.1829 บริเวณที่ปัจจุบันเป็นรัฐนิวเม็กซิโก มีชื่อจริงว่า โกยาตเลย์ (Goyathlay)
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาหาเรื่องไล่ชาวอินเดียนแดงไปพ้นแผ่นดินแม่ของตน เพื่อคนผิวขาวจะได้ขยายอาณาเขตประเทศ ทั้งๆ อินเดียนแดงช่วยเหลือคนผิวขาวมาโดยตลอด แต่โลภอยากได้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ เลยหาทางทำศึกและขับไล่ อินเดียนแดงหลายเผ่ายอมถอยแต่โดยดี แต่เผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮ ของเจอโรนีโมไม่ยอมถอย เพราะถือว่านี่คือแผ่นดินเกิดของตนเอง จึงตอบโต้ด้วยการดักปล้นเสบียงและอาวุธของอเมริกา
ในปีค.ศ. 1858 เจอโรนีโมและชนเผ่าอาปาเชบางส่วนปลีกตัวออกมาเพื่อทำการค้าขายกับคนในเมือง แต่พวกเม็กซิกันเล่นสกปรกด้วยการลอบโจมตี เวลานั้นแผ่นดินของเจอโรนีโมยังไม่ได้ถูกรวมกับอเมริกา จึงนับว่าเป็นดินแดนเม็กซิโก ขณะที่นักรบและผู้ชายไปค้าขาย หน่วยม้าลาดตระเวนของเม็กซิโกกลับบุกถล่มค่าย สังหารผู้หญิงและเด็กทุกชีวิต
เมื่อหัวหน้าเผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮทราบเรื่อง จึงขอความช่วยเหลือไปยังเผ่า 2 เผ่าที่เป็นมิตรกับเผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮ ซึ่งได้แก่ เผ่าอาปาเช เน็คนี และเผ่าอาปาเช โคเน็นเพื่อจะได้ร่วมมือกันทำสงครามกับเม็กซิโก
เผ่าอาปาเชทั้งสามเริ่มสงครามกับเม็กซิโกใน ค.ศ. 1859 โดยเริ่มโจมตีหน่วยทหารลาดตระเวนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในชนบทของเม็กซิโก โดยมีเจอโรนีโมเป็นผู้นำทีมปล้น เผ่าอาปาเชทั้งสามออกปล้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่รัฐบาลเม็กซิโกไม่สามารถจับกุมได้เลย
ค.ศ. 1862 รัฐบาลอเมริกันร่วมมือกับรัฐบาลเม็กซิโกจับกุมเจอโรนีโมโดยเฉพาะ โดยแต่งตั้งนายพลจอร์จ ครู้ก เป็นผู้บัญชาการในภารกิจจับกุม แม้ว่าจะสามารถจับกุมนักรบเผ่าอาปาเชได้หลายคน แต่ไม่สามารถจับกุมเจอโรนีโม
ต่อมารัฐบาลยื่นข้อเสนอให้เผ่าอาปาเชทั้งสามทำสนธิสัญญาสันติภาพ เผ่าอาปาเชทั้งสามประชุมกันแล้วมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็มีมติออกมาว่า เผ่าอาปาเชจะยินยอมทำสนธิสัญญานี้ โดยหัวหน้าเผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮและหัวหน้าเผ่าอาปาเช เน็คนี จะไปเป็นตัวแทนทำสนธิสัญญา ส่วนหัวหน้าเผ่าอาปาเช โคเน็น รักษาการณ์อยู่ในที่มั่นของเผ่า
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี ตัวแทนทั้งสองออกเดินทางไปเพื่อเจรจา และการเจรจาก็เป็นไปด้วยดี แต่นายพลเซอร์ริแดน ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพอเมริกันทำนอกแผน ส่งคนมาลอบฆ่าหัวหน้าเผ่าทั้งคู่ในเวลาต่อมา
จากนั้นก็ส่งทหารไปทำลายที่มั่นของเผ่าอาปาเชอีก หัวหน้าเผ่าอาปาเช โคเน็น หัวหน้าเผ่าคนเดียวที่เหลืออยู่จึงสั่งให้เจอโรนีโมพาผู้หญิงและเด็กหนีไปหลบภัยที่เขตของชนเผ่าชิริคาฮัว แล้วเหลือไว้เพียงผู้ชาย 80 คนต้านกำลังทหาร แต่เพราะความที่กำลังคนน้อย ไม่สามารถสู้กองทัพและอาวุธที่ทันสมัยกว่าได้ สุดท้ายถูกฆ่าตายจนหมด
ในปี ค.ศ. 1886 กองทัพแต่งตั้งนายพลเนลสัน ไมลส์เป็นผู้บัญชาการคนใหม่ในภารกิจจับกุมเจอโรนีโมแทน ตอนนั้นเจอโรนีโมได้เป็นหัวหน้าคนใหม่ของเผ่าอาปาเช เบดอนโคเฮ แต่กลับไม่ปรารถนาที่จะสู้รบจึงเผ่าอพยพครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหนีการตามล่าของรัฐบาล แต่สุดท้ายเสียรู้ต่อเล่ห์เหลี่ยมนายพลเนลสัน ไมลส์ จนถูกกำลังทหารล้อมจับ เจอโรนีโมถูกจับที่สเกเลตัน แคนยอน รัฐแอริโซนา
เจอโรนีโมเสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบในวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1909 ถึงจะเสียชีวิตแล้ว แต่ศพกลับถูกขโมยจากหลุมศพถึงสองครั้ง ภายหลังได้นำศพไปคืนในหลุมเดิมที่ไม่มีการปักเครื่องหมายไว้ แต่บรรดาลูกหลานของเจอโรนีโมก็ไม่เชื่อและพยายามทวงศพกลับคืนมาครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากจะเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช สมัยที่ยังครองทำเนียบขาว ขอให้ช่วยหาทางนำซากศพกลับไปฝังในสุสานของบรรพบุรุษดังเดิม แต่เรื่องยังเงียบหาย ไม่รู้ว่าศพบรรพบุรุษอินเดียนแดงผู้กล้าหาญอยู่ที่ไหน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี