บางคนอาจจะคิดว่าอยู่ดีๆ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาก็บรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ พรรคประชาชน โดยมี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นผู้เสนอ เข้าระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว โดยมีเนื้อหาให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มเติม หมวด 15/1 ตั้ง ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ไม่ใช่อยู่ดีๆหรอก ของแบบนี้ต้องเตรียมแผนกันมานาน เพียงแต่รอจังหวะเสียบเท่านั้นเอง
เหตุที่ต้องเอาเรื่องนี้มาเขียน เพราะความเหิมเกริมของนักการเมืองอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในเมืองไทยอีกครั้ง และจบลงด้วยการปฏิวัติรัฐประหารอีกเช่นเคย
รวบรัดแบบภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ. 2560 ส่วนหนึ่งถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันนักการเมืองเลวๆกฎกติกามารยาทจึงยุบยับไปหมด นักการเมืองที่คุ้นเคยกับการใช้อำนาจอิทธิพลเพื่อผลประโยชน์ก็จะเกิดอาการคันคะเยออยู่ไม่สุข ต้องการจะเปลี่ยนให้ได้
แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการปกป้องคุ้มครองตัวเองอยู่ด้วย คล้ายรู้สันดานนักการเมืองจึงกันไว้ก่อน ห้ามไม่ให้ทำใหม่ทั้งฉบับ ตอนนี้เป็นยุคประชาธิปไตยเบ่งบวม นักการเมืองมีอำนาจมาก จึงกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แบบว่าฉบับ 2560 อึดอัดขัดใจไม่เอาแล้ว
แต่การทำใหม่ไม่ง่ายเหมือนการคัฟเวอร์เพลงขึ้นยูทูบ จำเป็นจะต้องมีการออกเสียงขอประชามติจากประชาชนเสียก่อนว่า ควรจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ถ้าเกิดนักการเมืองไปเป่าหูล้างสมองประชาชนที่เลือกตนเข้ามาสำเร็จ เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ สภาก็ไปทำร่างรัฐธรรมนูญ เสร็จแล้วก็ต้องเอามาให้ประชาชนออกเสียงว่าเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้ง
แต่รัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ. 2560 ก็เปิดช่องไว้ว่า ให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ คือแก้ได้นั่นแหละ แต่ไม่ใช่ทั้งฉบับ ตรงนี้เลยกลายเป็นช่องทางของพวกหัวหมา เอ๊ย! หัวหมอ เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
พรรคประชาชนนั่นชื่อก็บอก พร้อม“ชน” อยู่แล้ว โดยเฉพาะในหมวดพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อทำไม่ได้ก็ไปทางอ้อม โดยเน้นให้ตั้ง ส.ส.ร. (สภาร่างรัฐธรรมนูญ) ขึ้นมาก่อน จากนั้นค่อยทิ้งโค้งพุ่งเป้าเข้าจุดหมาย
ส่วนพรรคเพื่อไทย นอกจากมีเหลี่ยมนำแล้ว ยังเหลี่ยมเยอะ พยายามออกตัวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย จะไม่แตะต้องหมวด 1 บททั่วไป, หมวด 2 พระมหากษัตริย์ และมาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจทั้งหมด
ปล่อยคำสัญญาประมาณว่า จะไม่แก้ไขในประเด็นที่อาจจะสร้างความแตกแยก ขัดแย้งในสังคม พรรคจะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ยึดหลักที่จะไม่แก้มาตราที่จะกระทบกับคนส่วนใหญ่ หรือกระทบกับจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ อะไรทำนองนี้
แต่ก็เหมือนคำสัญญาอื่นๆ ของพรรคการเมือง สักแต่ว่ามีปากก็พูดไป เอาเท่เอาดีใส่ตัว เพราะร่างของพรรคเพื่อไทยหันไปเล่นมาตราที่กฎเกณฑ์ รัดรึง แก้ไขข้อบังคับที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต มาตรฐานจริยธรรม และคุณสมบัติขององค์กรอิสระอื่นๆ ให้เหมือนกับคุณสมบัติรัฐมนตรี อันนี้น่ากลัวแบบกินลึกถึงตับไตไส้พุง
สรุปแล้ว ไม่ว่าร่างของพรรคการเมืองไหน จุดหมายปลายทางคือต้องการกลับไปเป็นแบบเดิมๆ ขณะที่ปากก็ว่า อยากให้การเมืองดีขึ้น เพื่อพี่น้องประชาชน
เมื่อ 10 ปีเศษที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยนี่แหละที่พยายามเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมารวม เพื่อช่วยนายหรือพวกพ้องกันเอง ผลลัพธ์ก็คือความแตกแยกครั้งใหญ่ และในที่สุดก็ลงเอยด้วยการยึดอำนาจ
ชาวบ้านอย่างเราๆไม่มีความคิดหรือสามารถที่จะสร้างเรื่องเฮงซวยแบบนี้ได้ นอกจากนักการเมืองเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี