อเมริกานั้นกว้างใหญ่ไพศาล มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศทุกประเภท หนาวจัดอย่างอลาสก้าไปจนถึงร้อนแห้งแล้งแบบทะเลทรายทางใต้แถวแอริโซน่าและเท็กซัส พรมแดนทางทิศเหนือติดประเทศแคนาดาเพียงประเทศเดียว ส่วนทิศใต้นั้นติดเม็กซิโก รัฐที่อยู่แถวชายแดนเม็กซิโกอย่างเท็กซัสหรือแอริโซน่าจะรับอิทธิพลวัฒนธรรมทั้งการกินอยู่และความเชื่อจากเม็กซิโก เม็กซิกันอาศัยอยู่ในรัฐติดพรมแดนทั้งสองประเทศเป็นจำนวนมาก แล้วกระจายไปตามรัฐต่างๆทุกรัฐ ทั้งเข้าประเทศมาอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
ชาวเม็กซิกันนำความเชื่อต่างๆ ติดมาด้วย ท่ามกลางความเชื่อเหล่านี้ มีตำนานเรื่องหนึ่งเล่าขานถึงสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “ชูปาคาบร้า” คำว่าชูปาคาบร้าเป็นภาษาสเปนมีความหมายว่า “ตัวดูดเลือดแพะ”
สัตว์ประหลาดที่ว่าถือเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับ มีผู้อ้างว่าพบเห็นครั้งแรกในเปอร์โตริโกช่วงต้นทศวรรษที่ 50 หลายคนรายงานว่าชูปาคาบร้าฆ่าแพะด้วยการดูดเลือดจนแห้งเหือดจากร่าง มีนักสำรวจท้องถิ่นสำรวจเรื่องราวเกี่ยวกับชูปากาบร้าที่เปอร์โตริโก พบถ้ำแห่งหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นที่อาศัยของสัตว์ประเภทนี้
เดือนมีนาคม ค.ศ. 1995 ชาวบ้านตำบลโอโรโดบิสและโมโรบิสแถบภูเขาตอนในของเกาะปอร์โตริโกเผชิญสิ่งน่ากลัวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พบว่าแพะและแกะที่เลี้ยงไว้ตายเกลื่อนเหมือนถูกทำร้าย
ทีแรกคิดว่าคงเป็นหมาป่าบุกเข้ามาฆ่า แต่พอเจอเข้ารอยเจาะ 2 รูเปื้อนเลือดเกรอะกรังขนาดเท่ากับหลอดกาแฟบนสัตว์ทุกตัว ต่างแปลกใจไปตามกัน เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ที่สำคัญสัตว์เหล่านี้ซีดเผือดราวไม่มีเลือดหลงเหลืออยู่ในร่างเลยแม้แต่หยดเดียวและมีกลิ่นกำมะถันติดอยู่ แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีรอยเลือดบนพื้นดินสักหยด แสดงว่าถูกดูดเลือดจนหมดร่าง
เดือนกันยายนปี ค.ศ.1995 มาเดลีน โตเลนติโน แม่บ้านในคาโนบานาสทางตะวันออกของกรุงซานฮวน เมืองหลวงของปอร์โตริโกเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้กำลังดูดเลือดแพะพอดี เธอกับชาวบ้านจึงไล่ไป สัตว์ประหลาดหันมามองแล้วกระโจนหายไปทางหลังบ้าน
หลังจากนั้นเป็นต้นมา คำว่า “ชูปาคาบร้า” ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อใช้เรียกสัตว์ประหลาดชนิดนั้น เหยื่อของชูปาคาบร้าไม่ได้มีแต่แพะอย่างเดียว หากแต่สัตว์เลี้ยงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เป็ด ไก่ ห่าน หมา แมว กระต่าย หรือวัวก็โดนดูดเลือดเหมือนกัน ซึ่งยิ่งทำให้ชื่อของชูปาคาบร้าเป็นที่หวาดกลัวสำหรับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หรือชาวบ้านแถบเปอร์โตริโกอย่างหนัก
เหตุการณ์ที่ชูปาคาบร้าออกอาละวาดฆ่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีแต่เฉพาะปอร์โตริโก แต่ยังลามไปถึงอเมริกาและเม็กซิโกด้านมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1996 มีรายงานว่าสัตว์เลี้ยงจำนวนมากที่รัฐซิโนโลอา ฮาลิสโค และเวราครูซ ถูกฆ่าแบบแปลกๆ เพราะสัตว์ทุกตัวถูกดูดเลือดจนตาย
จากคำบอกเล่าของพยานผู้และจากซากสัตว์ที่โดยทำร้ายพอสรุปได้ว่า ชูปราคาบร้านั้นมีรูปร่างหลายแบบแตกต่างกัน บ้างเหมือนมนุษย์ต่างดาว เหมือนหนูตัวใหญ่หรือเหมือนลิง บางตัวก็มีปีก บางตัวมีกลิ่นเหม็นคล้ายกำมะถัน บางคนคิดว่านี่เป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน
มีเรื่องน่าสนใจอย่างหนึ่งคือที่ป่าเอลยุงเกในอเมริกาใต้เมื่อหลายปีมาแล้ว รัฐบาลสหรัฐเคยมาสร้างสถานีวิจัยทางทหารลับๆ ไว้แห่งหนึ่ง เมื่อปี ค.ศ. 1989 เกิดพายุเฮอร์ริเคนพัดกระหน่ำจนพังราบเป็นหน้ากลอง อาจเป็นไปได้ว่าสัตว์ที่ใช้ในการทดลองจนกลายพันธุ์หนีหลุดออกไปและเจริญเติบโตแพร่พันธุ์ในป่า
แท้จริงแล้วเรื่องราวของสัตว์ประหลาดประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะปรากฏในหนังสือโบราณเกี่ยวกับไสยเวทย์ว่าเคยออกมาอาละวาดเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 หรือ 12 โดยมีภาพเขียนแสดงหลักฐานชัดเจน
ที่รัฐเท็กซัส มีเกษตรกรรายหนึ่งอ้างว่ายิงชูปาคาบร้าได้และฝังร่างไว้ โดยเจ้าตัวที่เชื่อว่าเป็นชูปาคาบร้านั้นฆ่าไก่ไปแล้วถึง 3 ตัว ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 พยาบาล 2 คน จูงหมาไปเดินเล่นแถวริมทะเลสาบ ที่รัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา พบสัตว์ตัวหนึ่งลักษณะประหลาด คือร่างกายเต็มไปด้วยขน แต่หัวล้านเลี่ยน หน้าตาน่ากลัว ลำตัวยาว ขายาว มีหางคล้ายหนู ไม่มีใครบอกได้ว่า คือสัตว์อะไร มีผู้เชื่อว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นคือชูปาคาบร้า
จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าสัตว์ประหลาดที่พบคือสัตว์ชนิดใด หรือสัตว์ที่พบนี้คือชูปาคาบร้า เช่นเดียวกับที่เคยพบในบริเวณอื่นมาแล้ว ซึ่งคงต้องรอผลการพิสูจน์ต่อไป โลกนี้เต็มไปด้วยปริศนามากมายที่ยังไม่สามารถไขคำตอบได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี