กาสิโน หรือบ่อนพนันถูกกฎหมาย กลับมาเป็นประเด็นทางสังคมอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร หรือพ่อของเธอก็ไม่อาจทราบได้ นำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เข้าสภาหรือเรียกเท่ๆ ว่า “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์”
ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ของใหม่ ผมเองก็เคยเขียนมาร่วม30 ปีแล้ว ตอนนั้นผมไม่ได้สนับสนุนหรือต่อต้าน เพียงแต่มีข้อสงสัยว่า เมื่อแก้ปัญหาบ่อนพนันผิดกฎหมายไม่ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอาชญากรรมหลายระดับ ถ้ามีบ่อนพนันถูกกฎหมายจะช่วยได้หรือไม่ โดยการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ให้ละเอียดและรัดกุม
เป็นต้นว่า พื้นที่ในการทำบ่อนพนันถูกกฎหมายต้องเป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชนที่ประกอบไปด้วยบ้านเรือน, วัด, โรงเรียน ฯลฯ เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาไปจัดตั้งที่เมืองทะเลทรายอย่างลาสเวกัสในรัฐเนวาด้า หรือแม้แต่บ่อนพนันถูกกฎหมายที่อ้างคำว่า “กีฬา” อย่าง สนามมวยและสนามม้า ก็ควรโยกย้ายออกจากใจกลางกรุงเทพฯด้วยซ้ำ
แต่กว่าจะทำได้ก็ใช้เวลายาวนานมาก และตอนนี้ก็ยังเหลือสนามมวยราชดำเนินอยู่อีกแห่ง
นอกจากนี้ การเปิดบ่อนพนันถูกกฎหมายยังต้องมีข้อกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับผู้เล่นตั้งแต่ฐานะทางการเงิน เช่น กำหนดจากตัวเลขในบัญชีธนาคาร ไปจนถึงการแต่งตัวเข้ากาสิโนเพื่อปิดโอกาสของคนรายได้น้อยถึงปานกลางทั่วไป หรือทำให้ยุ่งยากมากขึ้นในการจะเข้าไปใช้บริการ
ผมคิดเอาเองว่า การดึงธุรกิจมืดให้กลายเป็นธุรกิจสว่าง จะทำให้มีการเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เงินทองไม่รั่วไหลไปเข้ากระเป๋าข้าราชการ
คอร์รัปชั่น
แต่ในทางกลับกัน ขณะนั้นผมยังตั้งข้อสันนิษฐานว่า โอกาสที่จะมีบ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศไทยน่าจะเป็นเรื่องยากเพราะจะต้องเจอแรงต้านจากประชาชนทั่วไปส่วนที่ไม่เห็นด้วย, องค์กรทางศาสนาต่างๆ และจะมีพวกต่อต้านแบบแอบๆ อย่าง ตำรวจท้องที่หลายแห่ง ซึ่งอาจจะมีผลประโยชน์จากการมีบ่อนผิดกฎหมาย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็เปลี่ยนความคิดมาสู่การไม่เห็นด้วยเต็มตัว
ประการแรก เราได้ค้นพบแล้วว่า ในช่วง30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ใช่มีรายได้จากการเกษตรกรรมเป็นหลักเพียงอย่างเดียวยังเป็นศูนย์กลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมหลายแห่งในโลกอยากมาลงทุน พร้อมด้วยพื้นที่, แรงงานฝีมือ และอัตราค่าจ้างที่ไม่สูงมาก
ยิ่งกว่านั้น เมืองไทยกลายเป็นประเทศที่ขึ้นชั้นระดับโลกในด้านการท่องเที่ยว ทั้งในแง่โบราณสถาน, ศิลปะ-วัฒนธรรม, สถานที่สวยงามตามธรรมชาติ และอาหารการกิน
สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลเข้าประเทศ โดยไม่ต้องแลกกับความเสื่อมถอยทางสังคมที่เพิ่มขึ้น
อีกประการหนึ่ง จากสิ่งที่ปรากฏในสังคมไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่า ระบบอุปถัมภ์อุปัฏฐาก บนโต๊ะใต้โต๊ะ อะไรก็แล้วแต่ จะไม่ช่วยให้กาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมายจ่ายภาษีอย่างตรงไปตรงมา เพียงแต่จะเปลี่ยนวิธีการที่ซับซ้อนขึ้น เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่เป็นเจ้าของบ่อนก็จะยิ่งเติบใหญ่มากขึ้น โดยมีนักการเมืองและข้าราชการเป็นกำแพงอยู่ข้างหลัง
ทุกวันนี้ประเทศไทยมีบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายอยู่มากพอแล้ว ทั้งลอตเตอรี่โดยรัฐบาลเอง, สนามม้า, สนามมวย, บ่อนไก่และชนวัวที่ได้รับอนุญาต ฯลฯ (หรืออาจจะรวมตลาดหุ้นเอาไว้ด้วยก็ได้) ดังนั้น การมีกาสิโนที่ปนอยู่ในคำว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์จึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น
เมืองไทยเราไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกในคุณสมบัติของวัฒนธรรมและทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ ไม่ได้มีที่ดินและผู้คนแค่หยิบมือถึงขนาดต้องหารายได้จากการทำบ่อน หรือเป็นศูนย์กลางของการรับฝากเงินสีเทา หรือฮับแห่งการหลบเลี่ยงภาษี และไม่ใช่แนวความคิดใหม่ที่ต้องไปยกย่องคนที่คิดจะทำเรื่องนี้ว่าฉลาดล้ำ
การบริหารประเทศที่ล้มเหลวจนต้องหันมาใช้วิธีการนี้ต่างหาก ที่บอกว่า นอกจากไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดแต่อย่างใด ยังหมดปัญญาแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี