เริ่มจากวันปฎิบัติการตรง หรือ วันสังหารโหดที่กัลกัตตา ขยายวงออกไปสู่การสังหารโหดที่ นัวคาลี แล้วไปที่รัฐพิหาร สุดท้ายก็กระจายไปทั่วประเทศ
(แผนที่อินเดีย และ รัฐต่างๆ-ภาพจากกูเกิล แมพ )
กล่าวคือ ในภาคใต้ของอินเดียเกิดการจลาจลใน 10 รัฐ ทางภาคตะวันออกจำนวน 12 รัฐ , 16 รัฐในภาคตะวันตก และ 20 รัฐในภาคเหนือ รวมทั้งเมืองใหญ่ๆเช่น อาห์เมดาบาด , ไฮเดอร์ราบาด กัลกัตตา
เรียกได้ว่าเกือบทั้งประเทศ
แสดงนัยยะว่า อินเดียหลังวันที่ 16 สิงหาคม 1946 เป็นอินเดียที่แตกแยกที่สุด ถูกเพลิงแห่งความโกรธแค้นเผาผลาญจนไม่อาจจะกลับคืนมาเป็นเนื้อเดียวกันได้อีกแล้ว ระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งคือ ประชาชนชาวฮินดู ซึ่งมีจำนวนมากกว่า กับ ประชาชนชาวมุสลิม ที่แม้จะมีจำนวนโดยรวมทั้งประเทศน้อยกว่า แต่ในบางรัฐก็มีจำนวนมากกว่า
รายงานของปี 1947 ระบุว่าประชากรของอินเดียมีจำนวน 340 ล้านคน เป็นชาวฮินดูประมาณ 248 ล้านคน เป็นชาวมุสลิมราว 85 ล้านคน ที่เหลือก็คือผู้นับถือศาสนาอื่น เช่น ซิกห์, เชน ,โซโรแอสเทรียน และ ศาสนาพุทธ
เหตุการณ์สังหารโหดต่อกันและกัน เกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 1946 อินเดียเหลือเวลาเพียง 9 เดือนก่อนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 1947 ซึ่งเป็นวันที่อินเดียจะต้องประกาศเอกราช และจะต้องขีดเส้นแบ่งประเทศออกเป็นสอง คือ อินเดีย และ ปากีสถานให้เสร็จเรียบร้อยด้วย
การประกาศอิสรภาพคงไม่น่าจะมีปัญหา การแบ่งแยกประเทศออกเป็น 2 ประเทศก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่จะมีความเรียบร้อย ราบรื่นแค่ไหน นี่ยังเป็นคำถามตัวใหญ่ๆ
(ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเทน และ ภริยา กับ นายเนห์รู-ภาพจากวิกิพีเดีย)
ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเทน เดินทางถึงอินเดียเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ปี 1947 เพื่อปฎิบัติภารกิจควบคุมดูแลการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการปกครองคืนให้แก่อินเดียให้เรียบร้อย
ในขณะที่ ซีรีล แรดคลิฟ ผู้รับหน้าที่ประธานในการขีดเส้นแบ่งอินเดียเดินทางถึงอินเดียวันที่ 8 กรกฎาคม 1947 แรดคลิฟ ผู้ซึ่งไม่เคยเห็นอินเดียมาก่อนในชีวิตมีเวลาทำงานเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น
ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นใจต่อวาระอันยิ่งใหญ่ของประเทศอินเดียเลย
(การลากเส้นแบ่งแขตแดนของอินเดียโดยเคร่าๆ-ภาพจากวิกพีเดีย)
การเขีดเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างอินเดีย กับปากีสถาน จึงเป็นไปตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ และ แผนภูมิรัฐศาสตร์ว่าพื้นที่ใดมีศาสนิกชนกลุ่มใดอาศัยอยู่มากกว่ากัน
แต่ไม่ได้หมายความว่า ในพื้นที่มีศาสนิกชนกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่มากกว่า จะไม่มีศาสนิกชนศาสนาอื่นอาศัยอยู่ด้วย เพราะคนเหล่านี้อาศัยอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาเป็นเวลาช้านานนับร้อยนับพันปี แม้ว่าในบางช่วงเวลาจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างจากการยุแหย่ของพวกหัวรุนแรงทางศาสนา
แต่พวกเขาก็ยังอาศัยอยู่ด้วยกัน ในหมู่บ้านเดียวกัน ในเมืองเดียวกัน
การลากเส้นแบ่งประเทศของแรดคลิฟ จึงดูเหมือนการปั่นแปะ หรือ ทอดลูกเต๋า แล้วแต่ดวงใครดวงมัน
ยิ่งไปกว่านั้น มีเรื่องตลกที่ขำไม่ออกก็คือ เส้นพรมแดนในหลายๆเมืองดันผ่าเข้าไปในชุมชนที่มีชาวมุสลิมและฮินดูอาศัยอยู่ ทำให้ฝั่งที่แยกไปเป็นปากีสถานมีชาวฮินดูจำนวนมากติดเข้าไปด้วย ขณะเดียวกัน ในฝั่งที่แยกออกมาเป็นอินเดีย ก็มีชาวมุสลิมจำนวนมากอาศัยอยู่ด้วย
เมฆหมอกแห่งหายนะเริ่มก่อตัวรอเวลาเคลื่อนเข้าสู่แผ่นดินอินเดีย เป็นชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี