สำหรับคนอเมริกันแล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักตำนานสยองแม่มดเบลล์แห่งเทนเนสซี่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแต่งหรือนิทานปรัมปรา แต่มีหลักฐานอ้างอิงว่าเป็นเรื่องจริง โดยมีบันทึกมากมาย อีกทั้งพยานวัตถุและสถานที่ให้สืบค้นจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของแม่มดเบลล์เป็นเรื่องราวลี้ลับที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ เมื่อแม่มดตนหนึ่งอาฆาตแค้นสมาชิกตระกูลเบลล์ ผูกใจเจ็บมาสิงสู่สร้างความเดือดร้อน แม้ว่าผู้ที่นางแม่มดเกลียดชังจะเสียชีวิตไปนานแล้วก็ตาม เรื่องราวของแม่มดเบลล์ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และหนังสือจำนวนมาก ความน่าสะพรึงกลัวเกิดกับครอบครัวของจอห์น เบลล์ ในปี ค.ศ. 1817 สร้างความระทมทุกข์ให้ครอบครัวนี้ตลอดเวลา รวมทั้งปริศนาที่ทิ้งไว้ยังคงเป็นความลับดำมืดจนทุกวันนี้
จอห์น เบลล์ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นชาวนาในเมืองโรเบิร์ตสัน คันทรี่ รัฐเทนเนสซี่ มีภรรยาและลูก ๆ อีกห้าคน เป็นชายสี่กับหญิงหนึ่งคน มีทาสมาช่วยทำงานอีกสองสามคน แต่ทาสปลูกกระท่อมแยกอยู่ต่างหากในบริเวณเดียวกัน
เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของจอห์น เบลล์เริ่มต้นขึ้น เมื่อทุกคนในบ้านได้ยินเสียงเคาะประตู เสียงครูดฝาผนัง และเสียงแปลก ๆ ที่หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้ พอเปิดประตูออกไปกลับไม่มีใครอยู่ที่นั่น ต่อมาผ้าคลุมเตียงถูกลากมากองไว้บนพื้น ที่ร้ายกว่านั้น บรรดาสมาชิกในครอบครัวถูกมือลึกลับตบหน้า โดยเฉพาะลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวคือเบตซี่ เบลล์
แรก ๆ ครอบครัวเบลล์ตกลงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเฉพาะในครอบครัว ต่อมาเหตุการณ์ประหลาดบีบคั้นทุกคนในครอบครัวมากขึ้น เพราะดูเหมือนสิ่งแปลกๆ กวนประสาททุกคนอย่างสม่ำเสมอ และไม่จบสิ้นลงง่ายๆ จนทุกคนแทบบ้า
สิ่งลึกลับที่เกิดขึ้นมักเกิดขึ้นกับเบตซี่ ลูกสาววัย 12 ขวบ ของจอห์น เมื่อตื่นขึ้นมา ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆ ก่อนที่สมาชิกในครอบครัวจะเสียสติไปก่อน จอห์น เบลล์ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเทศน์ชื่อ เจมส์ จอห์นสัน
สาธุคุณเจมส์เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในชุมชนนั้น เมื่อจอห์น เบลล์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวให้ฟัง สาธุคุณเจมส์จึงพิสูจน์เรื่องประหลาดในบ้านของจอห์นทันที โดยพยายามติดต่อกับวิญญาณประหลาดที่ก่อกวนครอบครัวนี้
เมื่อสาธุคุณไปถึง “สิ่งนั้น” ก็แสดงตัวทันที ด้วยการส่งเสียงแหบๆ น่าสะพรึงกลัว ตอนแรกเป็นเสียงผิวปากเสียงต่ำๆ แตกพร่า แล้วยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แต่ฟังเหมือนเสียงกระซิบลอยมาจากที่ไกล ๆ คำบอกกล่าวที่ทำให้ชาวบ้านแถวนั้นสนใจเป็นพิเศษคือเรื่องที่วิญญาณนั้นอ้างว่าตนเองคือแม่มดเคต แบ็ตต์ส
นางเคต แบ็ตต์ส เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีชาวบ้านคนไหนคบค้าสมาคมด้วย เพราะเป็นหญิงปากร้ายผูกพยาบาทอาฆาตผู้คนละแวกนั้น เคตเป็นเพื่อนบ้านกับครอบครัวเบลล์ แต่เจ็บแค้นมากเมื่อครอบครัวนี้โกงเธอในการซื้อขายที่ดิน ก่อนตายจึงสาปแช่งว่า
“หากข้าสิ้นชีพลงวันใด จะกลับมารังควานพวกเจ้า ไม่ให้อยู่อย่างสงบสุข”
เมื่อเคตเสียชีวิต ผู้คนลืมเลือนเสียสนิทจนกระทั่งได้ยิน “สิ่งนั้น” อ้างว่าจะมารังควานครอบครัวของ จอห์น เบลล์ ครอบครัวของเบลล์ต้องอยู่ในภาวะจำทนต่อสภาพอันเลวร้ายถึงสามปี ต้องทุกข์ทนต่อเสียงกรีดร้องรอบบ้านของนางแม่มดทุกวัน จนดูเหมือนว่าไม่มีวันใดที่ครอบครัวนี้จะอยู่อย่างสงบสุขอย่างแท้จริง แม้แต่สาธุคุณเจมส์ จอห์นสันเองก็ทำได้เพียงติดต่อกับวิญญาณพยาบาทเท่านั้น ในที่สุดจอห์น เบลล์ ไม่สามารถทนต่อไปได้จึงล้มป่วยลง
ครอบครัวของ จอห์น เบลล์ต้องประสบเคราะห์กรรม นอกเหนือจากเสียงกรีดร้องและทุบประตู ไม่ว่าจะเป็นข้าวของแตกกระจาย การถูกเข็มทิ่มตามร่างกาย นมหกเลอะเทอะ การดึงผ้าคลุมจากเตียง การทุบตี แม้กระทั่งตอนสมาชิกในครอบครัวตาย วิญญาณอาฆาตตนนี้ยังไม่วายที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการร้องเพลงยาวนานจนผู้ร่วมพิธีศพคนสุดท้ายออกจากงานศพ
แม้ทุกวันนี้ครอบครัวเบลล์จะหมดรุ่นเกือบ 200 ปีก็ตาม แต่วิญญาณยังปรากฏตัวอยู่ มักเจอปรากฏการณ์แปลกๆ ภายในถ้ำที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นสมบัติของเบลล์ คดีของจอห์น เบลล์นั้น รัฐเทนเนสซี่รับรองให้เป็นคดีเดียวในประวัติศาสตร์ที่มีฆาตกรเป็นผี ถือเป็นเรื่องแปลกที่อธิบายไม่ได้ หากใครอยากรู้ว่าแม่มดเบลล์น่ากลัวอย่างไร ลองแวะถ้ำตระกูลเบลล์แล้วหยิบหินกลับบ้านมาพิสูจน์ต่อที่บ้าน ไม่แน่ว่าคืนนี้แม่มดเบลล์อาจแวะมาสร้างความประหลาดใจให้ก็ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี