คงไม่ใช่เฉพาะคนที่ชอบอ่านนิยายแนวสอบสวนสืบสวนคนไทยจำนวนมากน่าจะติดตามการกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งบนหน้าสื่อเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักแสดงสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม
คนส่วนใหญ่รู้เรื่องราวของ แตงโม ตั้งแต่เธอหายไปในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากที่ไปลงเรือกับกลุ่มคนอีก 5 คนที่อนุมานเบื้องต้นว่าเป็นเพื่อน และถัดจากนั้นอีกกว่า 40 ชั่วโมง จึงมีการพบศพของเธอลอยขึ้นมาในแม่น้ำเจ้าพระยา
คดีการเสียชีวิตของ แตงโม เป็นข่าวครึกโครมติดต่อกันหลายเดือน เพราะผู้ตายเป็นดาราดัง มีคนชื่นชอบเธอมากมาย และผู้คนจำนวนมากในสังคมยังกังขาถึงสาเหตุการตาย ขณะที่เป็นข่าวต่อเนื่องก็มีคนหลายคนมีชื่อเข้ามาพัวพัน ฟ้องร้องกันอีนุงตุงนัง
แล้วเรื่องก็ค่อยๆ เงียบไประหว่างพิจารณาคดี และมีข่าวใหญ่ๆ ทยอยเกิดขึ้นเป็นระยะ กลบเรื่องราวของคดีนี้ไป
จนในที่สุดก็มีคำพิพากษาตัดสินให้ 2 คนที่อยู่บนเรือผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่รอลงอาญา ไม่ติดคุกเพราะมีการชดใช้ให้แม่ของนักแสดงสาวไปส่วนหนึ่ง และศาลพิจารณาตามหลักฐานในสำนวนของตำรวจว่า “เป็นอุบัติเหตุ”ส่วนอีก 3 คนที่เหลือเห็นว่าจะตัดสินอีกไม่นานนี้
เรื่องนี้กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เพราะนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และพวกอีก 3 คนซึ่งเคยถูกฟ้องโดยตำรวจที่ทำคดี แตงโมเกือบ 30 คน ในข้อหาหมิ่นประมาท ปรากฏว่าศาลสั่งยกฟ้องเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2567 ทำให้ นายอัจฉริยะ เดินหน้าต่อในการค้นหาความจริง (ที่เขาเชื่อว่าไม่เป็นไปอย่างที่ตำรวจทำงาน)
คราวนี้กลับมาเป็นข่าวใหญ่และต่อเนื่องอีกครั้ง เมื่อมีหลายฝ่ายที่ยังค้างคาใจ เข้ามาร่วมมือกันพิสูจน์ข้อสงสัยต่างๆ จนกระทั่งกรมคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ รับเรื่องทำการสืบสวนอีกรอบแต่ดูเหมือนว่ายังไม่รับที่จะเปิดเป็นคดีใหม่ จนกว่าจะได้หลักฐานที่แน่ชัดพอสมควร
ถึงวันนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่า คดีการเสียชีวิตของ แตงโม จะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เต็มรูปแบบหรือไม่ และจะเปลี่ยนจากอุบัติเหตุกลายเป็นฆาตกรรมหรือไม่ แต่ข้อมูลมากมายก็ถูกทยอยปล่อยออกมาจากกลุ่มคนที่ทำการเคลื่อนไหวไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของตำรวจ ขณะที่
ฝ่ายตำรวจเองก็ยืนยันว่า ทำทุกอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ดูแล้วก็ออกได้ทั้งสองหน้า หนึ่งคือ เป็นไปตามเดิม คดีที่พิพากษาแล้วและกำลังรอการพิพากษาอยู่ก็ว่าไปตามหลักฐานที่ตำรวจและอัยการสั่งฟ้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าออก
หน้านี้ก็แยกย้ายไปทำมาหากินตามปกติ ใครที่ยังสงสัยก็คงสงสัยต่อไป
อีกหน้าหนึ่งก็คือการตั้งคดีขึ้นมาใหม่แยกจากคดีเก่า อย่างหลังนี่จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่และยาว เพราะนั่นหมายถึงว่า การทำงานของตำรวจในคดีที่ผ่านมามีปัญหา และหากสาวลึกไปถึงขนาดเป็นคดีฆาตกรรม จะมีคนอีกมากที่ต้องถูกสอบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร และอาจมีบางคนต้องสะท้านใจว่าจะถูกทำให้หายไปเพื่อเป็นการตัดตอน
และหากการตั้งคดีขึ้นมาใหม่เป็นจริงขึ้นมา ก็จะเป็นการประจานระบบยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำดังที่มีคำพูดเสมอมาว่า คนมีเงิน มีอิทธิพลทำผิดไม่ต้องติดคุก ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่คำพูดที่เกินความจริง เพราะมีกรณีตัวอย่างให้เห็นตั้งมากมาย โดยเฉพาะตัวอย่างที่เหมือนตลกโหดคือ คดีหลายกระทงของลูกอัครมหาเศรษฐีที่ขับรถชนคนตายในเขตรับผิดชอบของสน.ทองหล่อและคนที่ตายก็คือตำรวจประจำสน.ทองหล่อนั่นเอง ใกล้จะหมดอายุความเกือบทุกกระทงแล้วมั้ง
แต่ไม่ว่าผลสุดท้ายของการรื้อฟื้นเรื่องความตายของ แตงโม จะออกมาอย่างไร คนไทยก็น่าจะได้ประโยชน์จากความพยายามพิสูจน์และค้นหาความจริงครั้งนี้ อย่างน้อยการทำคดีแบบลวกๆ รวบรัดง่ายๆ หรือมีวาระซ่อนเร้น ไม่ว่าจะจากอิทธิพลของเงินหรือของอำนาจใดๆ ก็น่าจะลดลงบ้าง
แต่ก็อย่าเพิ่งโลกสวยเพ้อฝันไปว่า จะใสสะอาดทั้งกระบวนการยุติธรรมในวันนี้ พรุ่งนี้ –ยังไม่ใช่หรอก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี