เป็น “พระมหากษัตริย์” ก็เพราะมีเจตจำนงและความกล้าหาญนำราษฎรก่อตั้งอาณาจักร และดำรงอยู่มาได้เพราะทรงปกป้องดูแล แม้ไม่สมบูรณ์ทุกเรื่องทุกด้าน ภายในราชอาณาจักรมีความยากจนขัดสน เพราะอยู่ในยุคเกษตรกรรมที่พึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก แต่พระมหากษัตริย์ก็ไม่เคยทอดทิ้งราษฎร ไม่คดโกงประเทศชาติ ไม่ทำลายหรือขายประเทศชาติเพื่อประโยชน์ของพระองค์
เพราะสำนึกอยู่เสมอว่าเมื่อประเทศชาติดำรงอยู่ไม่ได้ พระมหากษัตริย์ก็ดำรงอยู่ไม่ได้เช่นกัน
สำนึกอยู่เสมอว่าพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักของประเทศชาติ ต้องปกป้องดูแลอาณาประชาราษฎร์
พระมหากษัตริย์จึงมีพระนามอีกอย่างหนึ่งคือ “พระเจ้าแผ่นดิน”
เมื่อคนที่มีการศึกษาและมีกำลังอำนาจอยากจะปกครองประเทศเสียเอง จึงปล้นชิงพระราชอำนาจและทรัพย์สิน สถาปนาพวกตนเป็น “ผู้ปกครอง” ปกครองประเทศชาติเสียเอง เรียกว่า “การเมือง” หรือ “งานเมือง” และเรียกคนพวกนี้ว่า “นักการเมือง”
ตอนปล้นชิงพระราชอำนาจและทรัพย์สินแล้วก็กำจัดพระมหากษัตริย์ออกไป แต่พวกตนไม่มีบารมีพอจึงปกครองไม่ได้ ต้องอัญเชิญเชื้อพระวงศ์กลับมาเป็นพระมหากษัตริย์ แต่ก็กันออกไปเป็น“ประมุข” เพื่อให้พ้นจากวงจรแห่งอำนาจเป็นเพียงสัญลักษณ์และผู้ดูแลวัฒนธรรมรวมถึงศาสนาต่างๆ เท่านั้น
จึงเหลือเพียงแต่ “พระบารมี”
นับแต่นั้นมา “อำนาจการปกครองดูแลประเทศชาติ” ก็กลายเป็นขุมทรัพย์สำหรับใครก็ได้ ในนาม “ประชาชน” ที่จะเข้าแย่งชิงอำนาจเพื่อกอบโกยขุมทรัพย์นั้นเป็นของตน
มาถึงวันนี้ไม่เพียงพวกเขาจะแย่งชิงขุมทรัพย์ของประเทศชาติ ยังบ่อนทำลายประเทศชาติให้อ่อนแอลงทุกด้าน ด้วยโครงการแจกเงินและสร้างอบายมุขสารพัด กำลังจะกลายเป็น “ประเทศอบายมุข” ทั้งถูกและผิดกฎหมาย
เมื่อประชาชนอ่อนแอเพราะอบายมุข ไม่ได้รับการศึกษาที่ถูกต้องตรงกับสภาพจริงของสังคม คิดไม่เป็นทำไม่เป็น แก้ปัญหาไม่เป็น รอแต่เงินแจกตั้งแต่แจกในโครงการย่อยๆ จนถึงโครงการใหญ่อย่างรัฐสวัสดิการ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนคิดพึ่งตนเองน้อยลง กลายเป็นคนที่เอาแต่รอคอย ประเทศชาติก็อ่อนแอ
นักการเมืองบางพรรคก็รับเงินต่างชาติมาทำงานการเมืองและแบ่งกันในหมู่พวก เมื่อถูกโจมตีมากเข้าก็ออกมาบอกว่า “ประเทศไหนๆ ก็ทำกัน”!
แต่ประเทศไหนๆ ที่รับเงินจากมหาอำนาจก็กลายเป็นขี้ข้าทางความคิดและเป็นเครื่องมือของเจ้าของเงินทั้งนั้น
ประเทศที่พังพินาศ เกิดการแบ่งแยกแบ่งฝ่าย เกิดสงครามทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศก็็ล้วนแต่รับเงินต่างชาติทั้งนั้น
เราจึงเห็นบางพรรคแบ่งแยกประชาชนเป็น 2 ฝ่ายให้เป็นศัตรูกัน และพยายามจะเปลี่ยนระบอบการปกครองด้วยการแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 รวมถึงรัฐธรรมนูญด้วย อ้างว่าเพื่อเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์!
แต่ทั้งหมดคือการทำลายชาติและขายชาติ!
นักการเมืองพวกนี้เหิมเกริมมากขึ้นทุกวัน จึงมีคนจำนวนมากเรียกร้องให้ทหารยึดอำนาจก่อนที่จะสายเกิน บ้างก็เรียกร้องให้ถวายคืนพระราชอำนาจ บ้างก็จะสร้างม็อบยึดอำนาจจากนักการเมือง
แต่ทั้ง 3 วิธีก็ล้วนเป็นไปได้ยากทั้งนั้น!
มีแต่ทหารยึดอำนาจเท่านั้นที่พอจะเป็นไปได้ แต่เมื่อยึดแล้วก็ต้องคืนอำนาจแก่ประชาชนอยู่ดี กลับไปสู่ระบอบเลือกตั้งอย่างเดิมอีก หรือต่อให้ยึดอำนาจแล้วถวายคืนพระราชอำนาจก็เป็นไม่ได้ เพราะเท่ากับดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าสู่การเมือง จะกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนบางฝ่ายเสียเอง!
ย่อมจะเข้าทางของฝ่ายที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์พอดี!
วิธีที่เป็นไปได้ก็คือ “มีพรรคการเมืองใหม่” ใหม่ทั้งพรรค ใหม่ทั้งนโยบาย ใหม่ทั้งคน (ไม่ได้หมายถึงคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่หมายถึงคนทุกเพศทุกวัยที่ไม่เคยเป็นนักการเมือง) มีสำนึกแห่งรากเหง้าทางวัฒนธรรม มีวิสัยทัศน์ ปฏิบัติได้จริง มีทุนมากพอที่จะรณรงค์ได้อย่างยาวนานและยิ่งใหญ่ เพราะคนเลือกนักการเมืองเหมือนดูมหกรรมบันเทิงอันยิ่งใหญ่ตระการตา
นักการเมืองเก่าที่เป็นน้ำดีก็ต้องมีอยู่ด้วย และบางส่วนควรอยู่เบื้องหลังพรรคในฐานะคณะที่ปรึกษา
ผมรู้ดีว่าหวังกับนักการเมืองไม่ได้มากนัก และไม่ยั่งยืนอะไร แต่ก็ดีกว่าวิธีอื่น ซึ่งพิสูจน์มาแล้วได้ผลเพียงระยะสั้น จากนั้นก็กลับเข้าสู่วงจรที่ชั่วร้ายอย่างเดิม
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี