เซรามิกไก่จีน มักเรียกกันว่า "ถ้วยไก่" หรือ "ชามไก่" “雞杯”或“雞碗” ถือเป็นหลักฐานสำคัญในประวัติศาสตร์ของเครื่องลายครามจีน เซรามิกเหล่านี้มักมีการออกแบบและลวดลายสลับซับซ้อน มักเป็นรูปไก่หรือไก่ตัวผู้ ควบคู่ไปกับองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ดอกไม้ ทิวทัศน์ หรือการประดิษฐ์ตัวอักษร
เซรามิกไก่มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) ประเทศจีนในช่วงเวลานั้น การผลิตเครื่องเคลือบมีความเจริญรุ่งเรือง และช่างฝีมือได้ทดลองรูปแบบและการตกแต่งต่างๆ โดยเฉพาะลายไก่จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ต่อมาช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิซวนเต๋อ (ค.ศ. 1425–1435) ซึ่งทรงมีความชื่นชมในงานศิลปะและงานฝีมือ จึงทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ให้ถ้วยไก่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในรัชสมัยราชวงศ์หมิงจึงมีการว่าจ้างจากราชสำนัก ให้ปั้นถ้วยสำหรับดื่มชาหรือเหล้าไวน์ในพิธีการและงานเลี้ยงที่สำคัญ คุณภาพของเซรามิกเหล่านี้อยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ จากงานฝีมือที่ประณีตและการออกแบบที่สลับซับซ้อน
ในวัฒนธรรมจีน “ไก่” สื่อถึงความมงคล ถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง และความอุดมสมบูรณ์ โดยเชื่อกันว่าลวดลายไก่บนเซรามิกเหล่านี้จะนำโชคลาภมาสู่เจ้าของ
ถ้วยไก่ของราชวงศ์หมิงมีชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศทางเทคนิคทั่วไป จะมีขนาดไม่ใหญ่มากโดยมีผิวบางและโครงสร้างที่ละเอียดอ่อน เทคนิคการเคลือบที่ใช้ในช่วงสมัยนี้ มีพื้นผิวเรียบเนียนและเป็นมันเงา
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ถ้วยตราไก่ของราชวงศ์หมิงกลายเป็นของสะสมที่หายาก เป็นที่ต้องการอย่างสูง เพราะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งด้วยฝีมืออันประณีตทำให้เป็นสมบัติล้ำค่าในหมู่นักสะสมงานศิลปะและเครื่องลายครามจีนให้ได้รับความนิยมต่อมาจนถึงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644–1912) แม้ว่ารูปแบบและเทคนิคจะพัฒนาไปตามกาลเวลา แต่ลวดลายไก่ก็ยังคงเป็นลักษณะประจำของเครื่องลายครามของจีน ถ้วยไก่ของราชวงศ์หมิงจึงดำรงสถานะเป็นตำนานในโลกศิลปะและโบราณวัตถุ มีราคาแพงมหาศาลจากการประมูล เพราะได้รับการนำเสนออย่างโดดเด่นตามนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ ได้ช่วยตอกย้ำสถานะในฐานะสมบัติทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้เป็นหลักฐานด้านประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และข้อมูลเชิงลึกอันทรงคุณค่าจากการสร้างสรรค์เชิงศิลปะ ให้ได้รับรู้ความอ่อนไหวด้านสุนทรียศาสตร์จากอารยธรรมจีนโบราณ
ชามลายคราม
เซรามิกไก่จีนที่รู้จักกันในชื่อ "เซรามิกไก่" หรือ "เซรามิกไก่ตัวผู้" โดยทั่วไปแล้วเซรามิกเหล่านี้จะแสดงภาพไก่และลูกไก่อย่างมีสไตล์ ซึ่งมักแต่งแต้มวาดด้วยสีสันสดใสและการออกแบบที่ประณีตบรรจง ชามไก่แท้จากจีนสังเกตได้ง่ายที่ตัวไก่มีหลายสี เหลืองแก่ สีส้ม สีแดง และไก่สีเขียว โดยรอบวาดต้นกล้วยหนึ่งต้นและภาพดอกโบตั๋น บางรุ่นก็วาดเป็นลายคราม ทุกวันนี้ชามตราไก่จากจีนจึงเป็นของสะสมที่มีราคาเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา
ชามตราไก่รุ่นแรกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ที่เห็นจะบอกได้ว่า ความสวยงามนั้นอยู่ตรงฝีมือวาดตัวไก่ที่ถูกแต้มแต่งด้วยมือของจิตรกรแต่ละคน บ้างเป็นไก่หางยาว หรือบางตัวอาจเป็นไก่หางสั้น ภาพไก่บนถ้วยแต่ละใบจึงไม่เเหมือนเป็นพิมพ์เดียวกัน สีสันอันงดงามของไก่แต่ละตัวก็ขึ้นอยู่กับการสะบัดพู่กันจีนจุ่มสีให้หนักเบามากน้อยตามน้ำหนักมือของช่างผู้เขียนลวดลาย สินค้าถ้วยตราไก่ถูกนำเข้าจากจีนโดยการนำติดตัวมากับชาวจีนอพยพภัยสงครามครั้งอดีต และกลายมาเป็นสินค้าที่นิยมในไทย เพราะความสวยแปลกตาและราคาน่าจับต้องเหมาะสมกับสังคมระดับกลาง ขณะเดียวกันเวลานั้นถ้วยสังกะสี จานชามเคลือบ กลายเป็นสินค้าพื้นๆทั่วไป
พอถึงปี พ.ศ 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับจีน ตราไก่รุ่นลายครามก็หายไปจากตลาด กลายมาเป็นชามไก่ผลิตในไทยขึ้นมาทดแทน ซึ่งมีโรงงานที่สมุทรสาคร โรงงานในกรุงเทพมหานคร และต่อมาย้ายไปตั้งโรงงานในจังหวัดลำปาง ด้วยว่าที่ลำปางมีดินขาวที่เหมาะกับการทำเครื่องถ้วยชาม จึงเป็นต้นเหตุให้สินค้าเครื่องปั้นดินเผาตราไก่ของไทย ผลิตอย่างต่อเนื่องเพียงแห่งเดียวที่ลำปาง ลวดลายไก่จะถูกเขียนขึ้นตามพรสวรรค์และตามอารมณ์ของช่างวาดภาพพื้นบ้านที่ฝึกกันเองในครอบครัว และยังคงผลิตตามแบบดั้งเดิม ด้วยเผาจากเตามังกร (เตาฟืนโบราณ) โดยมีตลาดหลักคือตลาดในประเทศ ประกอบกับชามตราไก่ของเมืองเหนือมีราคาไม่แพงนัก เรียกกันว่าเป็นเครื่องปั้นดินเผาเกรดลำปาง อันหมายถึงว่าราคาค่อนข้างต่ำและคุณภาพรองกว่าถ้วยชามเซรามิกอื่น ถ้าเทียบกับมาตรฐานสากล
นายอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน
ตามประวัติผู้ก่อตั้งโรงงานผลิต "ชามตราไก่" คือโรงงานธนบดีสกุล แห่งลำปาง เริ่มจากเมื่อปี พ.ศ. 2498 นายอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน ได้บังเอิญพบคนขายหินลับมีดซึ่งทำจากแร่ดินขาว (Kaolin) จึงสอบถามจนรู้แหล่งที่มาว่ามาจากบ้านปางค่า อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นแหล่งดินขาวขนาดใหญ่ จึงได้ไปค้นพบแร่ดินขาวที่บ้านปางค่าดังกล่าวจึงก่อตั้งโรงงานทำชามไก่แห่งแรกของจังหวัดโดยใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมจากประเทศจีน กลายเป็นที่แพร่หลายในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม หลังจากมีนโยบายห้ามนำเข้าสินค้าต่างประเทศจึงมีโอกาสส่งขายไปทั่วประเทศ สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับจังหวัดลำปางจวบจนถึงปัจจุบันโดยมีคุณพนาสินและคุณยุพิน ทายาทรุ่นที่สองของโรงงานธนบดีสกุล รับสืบทอดบุกเบิกต่อประวัติศาสตร์ชามตราไก่แห่งแรกในลำปางให้รุ่งเรืองตราบเท่าทุกวันนี้
ใบนี้ราคา 14,000 บาท
ชามรุ่นใหม่
ชามจีนโบราณเขียนชามต่อชาม
ชามจีนโบราณเขียนลายชามต่อชาม
ชามรุ่นเก่า
อ้างอิง
All Magazine/กินแกล้มเล่า/พฤษภาคม 2567
Facebook | ธนบดีเดคอร์เซรามิค
บริษัท ธนบดีเดคอร์ เซรามิค จำกัด
อีเมล : mm@dhanabadee.com , dm5@dhanabadee.com
Chat GPT
http://oknation.nationtv.tv/blog/daree168
The Cloud 25 กรกฎาคม 2018
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี